เอฟเวอร์ตันทำแสบท้ายเกม หลังจากที่เชลซีอุตส่าห์ขึ้นนำไปได้ถึงสองครั้งก็ตาม สุดท้ายถูกจังหวะคมท้ายเกมของทอฟฟี่สีน้ำเงิน ทำให้เชลซีเปิดบ้านเสมอเอฟเวอร์ตันไป 2-2 โดยเชลซีได้ประตูขึ้นนำถึงสองครั้ง ประตูแรกจากจังหวะที่ผู้เล่นเอฟเวอร์ตันเคลียร์บอลไม่ขาด บอลมาเข้าทางเจา เฟลิกซ์ ได้ยิงแบบเลียดๆชนเสาเข้าประตูไป และประตูที่สองได้จากจุดโทษของไค ฮาแวตซ์ ส่วนเอฟเวอร์ตัน ได้ประตูตีเสมอลูกแรกจากลูกโหม่งของอับดุลลาย ดูกูเร่ ที่จังหวะแรกโดนไค ฮาแวตซ์เคลียร์ออกจากประตูแต่ว่าสัญญาณโกลไลน์แจ้งว่าลูกบอลเข้าประตูไปแล้ว ส่วนประตูตีเสมอลูกที่สองได้จากจังหวะที่ดูกูเร่ส่งบอลให้เอลลิส ซิมส์ วิ่งทำทางเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วยิงยัดไป แล้วบอลกระฉอกเซฟของเกป้าเข้าประตูไป ทำให้สถานการณ์ตารางคะแนนหลังจบเกมนี้ เชลซียังอยู่ที่อันดับ 10 เหมือนเดิม มีเพิ่มเป็น 38 คะแนน ตามหลังอันดับที่ 4 อย่างสเปอร์สอยู่ 11 คะแนน ส่วนทางเอฟเวอร์ตันตอนนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 15 มีเพิ่มเป็น 26 คะแนน ขยับหนีห่างจากโซนตกชั้นชั่วคราวมีประเด็นอะไรเกิดขึ้นบ้างในเกมนี้ มาดูกันครับประเด็นที่ 1: การจบไม่ลงของเชลซีเป็นอีกนัดหนึ่งที่เชลซีเล่นได้ดี และน่าจะได้ 3 แต้มมาอย่างง่ายดาย แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งเกมบุกของเอฟเวอร์ตันไปได้ ซึ่งถ้านับในเฉพาะปี 2023 นี้ มีถึง 4 เกมในลีกที่พวกเขาสมควรได้ 3 แต้ม แต่กลับเก็บได้เพียงแต้มเดียวเท่านั้น และเกมที่พวกเขาเปิดบ้านแพ้เซาธ์แฮมป์ตันอีกเกมหนึ่งที่ไม่น่าพลาดเช่นกัน ทำให้เชลซีที่ควรจะขึ้นไปอยู่หัวตาราง ยังคงต้องวนเวียนกับอันดับกลางตารางต่อไปอีกหลายสัปดาห์ ปัญหานี้แกรห์ม พอตเตอร์คงทราบดีอยู่แล้ว และคงพยายามปรับจูนทีมต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงช่วงจบฤดูกาล อีกทั้งยังมีลุ้นในฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีกที่เข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแต่พวกเขาก็ต้องไปเจอเจ้าบอลถ้วยยุโรปอย่าง เรอัล มาดริด ทำให้น่าจะยากแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ประเด็นที่ 2: ไค ฮาแวตซ์ยังคงสำคัญกับทีมเสมอแม้ช่วงหลังๆจะดูเงียบๆไปก็ตาม แต่ว่าไค ฮาแวตซ์ ก็ยังคงมีความสำคัญกับทีมเสมอ ในเรื่องของความขยัน การเชื่อมเกมกับเพื่อนร่วมทีม ความพยายามในการหาจังหวะยิงและทำเกมบุก แถมด้วยจังหวะการมีส่วนในเกมรับที่เขาช่วยได้ในหลายครั้งนั้น ก็ทำให้แฟนๆเชลซีคงสบายใจได้เปราะหนึ่งว่า ในช่วงนี้ที่เกมรุกดูไม่คมหรือพึ่งพาไม่ได้ ก็ยังมีฮาแวตซ์ที่ช่วยให้ใจชื้นได้ในแต่ละสัปดาห์ ต้องชมทัศนคติการเล่นฟุตบอลของเจ้าตัวจริงๆประเด็นที่ 3: ทิศทางการเสริมทัพในฤดูกาลหน้าของเชลซีแม้นักเตะใหม่ๆหลายคนในทีมจะเล่นดี แต่สุดท้ายการที่แกรห์ม พอตเตอร์มาคุมทีมในช่วงระหว่างที่ตัวเองไม่ได้เลือกนักเตะในช่วงซัมเมอร์ฤดูกาลนี้ มาถึงฤดูกาลหน้า น่าจะมีการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่อย่างแน่นอน โดยนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนทำทีมของพอตเตอร์นั้นน่าจะเยอะพอสมควร คาดว่าคนที่น่าจะโดนก่อนแรกๆเลยคือ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ที่ถูกตัดชื่อจากทีมชุดลุยศึก UCL แถมยังตกเป็นตัวสำรองมาตลอด เอ็นโกโล กองเต้ที่เพิ่งสลัดอาการบาดเจ็บหนักกลับมาซ้อมกับทีมได้ ก็น่าจะเป็นอีกคนที่ต้องถูกขาย เนื่องจากในทีมมีเอ็นโซ่ เฟอร์นันเดสในตำแหน่งเดียวกันแล้ว และเมสัน เมาท์ที่มีข่าวลือหนักมากกว่าจะย้ายทีม และมีการเปลี่ยนเอเย่นต์ส่วนตัวแล้ว ก็ต้องมาดูกันว่า ฤดูกาลหน้า พอตเตอร์และท็อดด์ โบลีย์ จะทำการผ่าตัดทีมขนาดไหนและทิศทางการทำทีมของพอตเตอร์จะเฉิดฉายให้เห็นในฤดูกาลหน้าหรือไม่ประเด็นที่ 4: ฌอน ไดซ์ สร้างเซอร์ไพรซ์อีกครั้งสถิติของฌอน ไดซ์ กับเอฟเวอร์ตัน หลังจากที่มารับงานคุมทีมแทนที่แฟรงค์ แลมพาร์ด คุมทีมในลีกไปทั้งหมด 7 เกมในลีก ชนะไป 3 นัด เสมอ 2 นัด แพ้ 2 นัด เก็บแต้มไปได้ทั้งหมด 11 คะแนน ยิงได้ 7 ประตู เสียไป 6 ประตู ก็ต้องยอมรับว่าเกมที่ชนะได้นั้นก็มาจากแผนการเล่นของทีมที่มีระเบียบวินัยมากกว่าเดิม และแทคติกการเล่นบอลสไตล์โยนบอลเข้าปากประตูก็สามารถทำลายเกมรับของฝั่งตรงข้ามได้ตลอด แต่ก็น่าเสียดายที่ฌอน ไดซ์ยังคงมีปัญหาเรื่องของความเด็ดขาดในแต่ละเกมที่มักจะเลือกผลสกอร์มากกว่าความสบายใจในเรื่องของการคว้าสามคะแนน แต่สถานการณ์ของเอฟเวอร์ตัน การจะมาเล่นแบบสบายๆใจในนัดที่เหลือคงเป็นไปไม่ได้อย่างแรง เพราะพวกเขายังคงอยู่ในความเสี่ยงที่จะหล่นไปในโซนตกชั้นได้ตลอดเวลาประเด็นที่ 5: ลูกแรกในชุดใหญ่เอฟเวอร์ตัน ของซิมส์หลังจากในช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมานั้น เอลลิส ซิมส์ ถูกผลักดันให้ขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ และได้ลงสนามอย่างเป็นทางการในฐานะตัวจริงไปแล้วในเกมที่บุกไปเยือนลิเวอร์พูล ส่วนนัดที่เหลือนั้นก็ลงเป็นตัวสำรอง และในนัดที่ไปเยือนเชลซี เขาก็สามารถทำประตูแรกให้กับตัวเองได้แล้ว เขาได้โชว์ให้เห็นถึงความขยัน ความแข็งแกร่ง และพลังใจในเกมนี้แล้ว โดยเฉพาะจังหวะที่พยายามกระชากหนีกองหลังเชลซีและสามารถเบียดสู้กับคูลิบาญี่ได้ ต่อไปอาจจะได้เป็นตัวหลักของทีมอย่างแน่นอนขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Twitter Evertonภาพที่ 2 จาก Twitter Chelsea FCภาพที่ 3 จาก Twitter Chelsea FCภาพที่ 4 จาก Twitter Chelsea FCภาพที่ 5 จาก Twitter Everton ภาพที่ 6 จาก Twitter Everton ภาพปกประกอบบทความ จาก Twitter Chelsea FCCommunity คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์