หงส์แดงลิเวอร์พูลถูกยกให้เป็นเต็งสองลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก 2023-2024 โดยเต็งหนึ่งก็ยังคงเป็นเรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เอาจริง ๆ หากมองความพร้อมในหลาย ๆ เรื่อง รวมถึงหลายสิ่งต่างก็เข้าข้างให้กับหงส์แดงมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการสะดุดของปืนใหญ่ รวมถึงผลงานของเรือใบที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ในช่วงเดือนธันวาคมจนหลายสื่อก็ยังไม่ฟันธงว่าหงส์แดงลิเวอร์พูลจะก้าวไปถึงคำว่าแชมป์แบบไร้ข้อกังหาเหมือนกับเมื่อฤดูกาล 2019-2020 ทำมถึงยังเป็นเช่นนั้นแล้วอุปสรรคอะไรที่ยังไม่สามารถยกให้กับหงส์แดงเป็นเต็งหนึ่งสำหรับโอกาสที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ มารวมกันตรงนี้กระผมจะแถลงไขให้ทุกคนได้สดับรับฟังกัน1. ปัญหานักเตะแผงหลังนี่คือสิ่งที่รบกวนลิเวอร์พูลในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วจนถึงตอนนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าขุมกำลังในแผงหลังนั้นยังไม่สามารถทดแทนกันได้แบบร้อยเปอร์เซ้น จริงอยู่ที่ในคู่เซ็นเตอร์สามารถสับเปลี่ยนกันได้ทั้ง โจเอล มาติป , อิบรา โคนาเต้และเวอร์จิล ฟานไดร์จ และตอนนี้ก็ยังมีดาวรุ่งจาเรลล์ ควานซาห์ที่กำลังได้รับโอกาสลงสนามเพื่อเก็บเวลเพิ่มเรื่อย ๆแต่กระนั้นปัญหาที่ไม่น่าเกิดมักจะมีเสมอ หากเกิดเจ็บพร้อมกันสองสามรายขึ้นมาเป็นเรื่องแน่นอน ทางแก้มีวิธีเดียวคือทุ่มซื้อกองหลังมาเพิ่มอย่างน้อย ๆ หนึ่งรายในตลาดนักเตะนี้ เพราะนี่คือตำแหน่งเดียวที่ลิเวอร์พูลนั้นไม่ได้เสริมมาสู่ทีมในตลาดนักเตะตั้งแต่มกราคม 2023 รวมถึงตลากนักเตะหน้าร้อนช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ฉะนั้นหากอยากไปถึงแชมป์ขุมกำลังสำรองต้องพร้อมกว่านี้2. สองโปรแกรมหนักที่ยังต้องเจอโปรแกรมครึ่งทางของลิเวอร์พูลเก็บแต้มจากบิ๊กทีมมาได้อย่างน่าพอใจ โดยไม่แพ้ทั้ง อาร์เซนอล ,แมนเชสเตอร์ ซิตี้ , แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แอสตันวิลล่า แม้ว่าจะพลาดท่าพ่ายสเปอร์ส สำหรับทีมที่กำลังอยู่ในพื้นที่พอจะลุ่นแชมป์ การที่ไม่พ่ายสำหรับสองเกมที่หลายคนบอกว่าไม่น่ากับการเจอการปืนใหญ่และเรือใบ ถือว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลมาถึงจุดนี้ได้แต่หลังจากกลับมาในวันที่ 21 มกราคม 2024 มีสองเกมใหญ่ติดต่อกันในเดือนกุมภาพันธ์ถึงสองเกมนั้นก็คือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ รับการมาเยือน เชลซีวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ออกไปเยือน อาร์เซนอลทำไมถึงบอกว่าสองเกมนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยน ก็คงด้วยเหตุผลที่ว่าช่วงเวลาที่ได้จูนทีมและได้พักของนักเตะสองทีมนี้ อาจจะได้นักเตะตัวหลักกลับมาประจำการได้ทัน แถมไม่แน่ว่าสิงห์บลูน่าจะมีการเสริมทัพในทีมไม่น้อยกว่าสองถึงสามราย นั่นหมายความว่าขุมกำลังอาจะไม่เหมือนเดิม ก็จริงที่แอนฟิลก์อาจะแพ้ยาก แต่การเสมอก็ไม่ดีกับทีมเช่นกัน3. โปรแกรมหฤโหดสำหรับลุ้น 4 แชมป์ด้วยขุมกำลังสำรองที่มีคงต้องบอกว่ายากเกินที่จะสับเปลี่ยนหรือหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ ไม่ให้เกิดขึ้นได้กับการที่จะยังคงเส้นทางลุ้นสี่แชมป์ทั้ง คาราบาวคัพ เอฟเอคัพ ยูโรปาลีก และ พรีเมียร์ลีก นี่ยังไม่นับรวมช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมีนาคมเข้าไปด้วยนะเนี่ย หากย้อนกลับไปในปี 2018-2019 ลิเวอร์พูลประสบปัญหาอาการนักเตะหลายรายจนทำให้ผลงานนั้นไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควรท้ายที่สุดก็ย้อนกลับไปเรื่องของการเสริมทัพในช่วงตลาดนักเตะ อย่างน้อย ๆ ต้องได้นักเตะมาเสริมทัพอย่าง ๆ น้อย สองถึงสามรายด้วยงบประมาณไม่เกิน 150 ล้านปอร์น ตามที่มีรายงานเรื่องรายจ่ายที่จมีให้สำหรับเสริมทัพในช่วงตลาดกมกราคมนี้ หากยะงเพิกเฉยกับเรื่องนี้สิง่ที่วาดหวังอาจจะไปไม่ถึงฝั่งก็ได้อย่างไรก็ตามการที่ลิเวอร์พูลกลับมามีลุ้นแชมป์และกลายเป็นเต็งสองแทนอาร์เซนอล ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรมากมายนักเ ด้วยเหตุผลที่ว่าประสบการณ์ของเจอร์เกน คลอปป์นั้นถือว่ามีความสำคัญกับผลงานที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ รวมถึงผลงานในบ้านกับผู้เล่นหมายเลข12ที่ส่งให้ลิเวอรืพูลแข็งเกแรงและยืนระยะมาได้ในช่วงที่โปรแกรมถี่ ๆ ก่อนหน้านี้ ยังคงต้องไปลุ้นกันต่อว่าใครจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023-2024 ไปครอง กับครึ่งฤดูกาลที่ยังเหลืออยู่ข่าวที่เกี่ยวข้องเจาะ 4 ประเด็นหลังเกม ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้มส่องแผน ลิเวอร์พูล ก่อนปะทะ แอสตันวิลล่า ในวันที่แผงหลังเดี้ยงส่องสถิติ ลิเวอร์พูล ดับ สเปอร์ส หลังเกมพรีเมียร์ลีกที่สุดจะเหลือเชื่อรุ่งหรือร่วง? โคดี้ กัคโป กับตำแหน่งใหม่ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023-2024มัดรวม 5 นักเตะเป้าหมายลิเวอร์พูล ไล่ล่าความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกเครดิตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพปก เครดิตภาพประกอบ twitter.com/LFC :: ภาพที่1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , premierleague.com :: ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !