หลังจากเกมพรีเมียร์ลีกผ่านไปแล้วทั้งหมด 4 นัด ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อลก็ทำผลงานได้ดีพอสมควร พวกเขาสามารถชนะไปได้ถึง 3 นัด เสมอ 1 นัด เก็บไปได้ 10 คะแนน ส่งท้ายก่อนเบรคทีมชาติ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนจะถึงสัปดาห์ถัดไปของเกมนัดที่ 5 เรามาดูกันดีกว่าว่า นักเตะหน้าใหม่ของอาร์เซน่อลทั้ง 4 คนที่เสริมเข้ามาในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรกันบ้าง คนที่ 1 ไค ฮาแวตซ์ (ค่าตัว 75 ล้านยูโร)นักเตะคนแรกที่ทีมเสริมเข้ามา ย้ายมาจากเชลซีด้วยค่าตัวสูงถึง 75 ล้านยูโร พร้อมกับคำถามที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ถึงความคุ้มค่าและความสำคัญในการดึงตัวเขามาร่วมทีม เพราะเมื่อดูจากฟอร์มที่เขาอยู่กับเชลซีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เขาก็ยังเล่นได้ดีสลับแย่และไม่ค่อยสม่ำเสมอ รวมไปถึงตำแหน่งในการยืนของเขาในช่วง 4 นัดแรกของพรีเมียร์ลีกที่เล่นในตำแหน่งของกรานิต ชาก้า ที่ทำหน้าที่ลักษณะคล้ายๆกัน แต่กลับกลายเป็นว่าเหมือนเขาจะยังไม่ทันเกมการเล่นของผู้เล่นคนอื่นๆในทีม เพราะบางจังหวะเขายังเชื่องช้าและยังไม่เข้าขากับผู้เล่นแนวรุก เล่นแบบดูไม่มีเรี่ยวแรง ไม่แสดงออกให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเท่าที่ควร นี่คือโจทย์หนักที่มิเกล อาร์เตต้าและทีมงานสตาฟโค้ชต้องพยายามเค้นฟอร์มของฮาแวตซ์ให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้ ไม่อย่างนั้น นี่จะกลายเป็นดีลที่ล้มเหลวที่สุดในมือของอาร์เตต้าก็เป็นไปได้ แม้ผลงานช่วงนี้จะยังไม่ดีพอที่จะชนะใจแฟนบอล แต่อีกหลายๆนัดและหลายๆเกมการแข่งขันที่เหลือ น่าจะช่วยให้เขาได้แสดงออกถึงความมุ่งมั่น ฟอร์มการเล่นของเขาที่คู่ควรกับทีมที่สุดฟอร์มโดยรวม 4 นัดแรก : ไม่ผ่านคนที่ 2 ยูเรียน ทิมเบอร์ (ค่าตัว 40 ล้านยูโร)คนที่สองต่อจากฮาแวตซ์ ที่ลงทุนไปดึงจาก อาแจ๊กซ์ เพื่อหวังจะมาช่วยซัพพอร์ตการเล่นให้กับทีม ในช่วงปรีซีซั่นและเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ เขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม และสามารถเสียบตำแหน่งตัวจริงแทนโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ได้อย่างง่ายดาย แถมยังสามารถเล่นเป็น Invert Fullback ที่ตรงสเปคแบบที่อาร์เตต้าต้องการอีก รวมไปถึงการเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง แต่น่าเสียดายที่ในนัดแรกของการลงสนามในพรีเมียร์ลีก เขาได้รับอาการบาดเจ็บเอ็นไขว้เข่าขวา จนต้องพักรักษาตัวยาวนานถึง 6 เดือนเต็มๆ แต่เหล่าแฟนบอลและนักเตะในทีมก็ส่งกำลังใจให้กับเขาในการพักฟื้นอาการบาดเจ็บและกลับมาลงสนามได้อย่างเดิม ฟอร์มโดยรวม 4 นัดแรก : นับเฉพาะนัดแรกในช่วงครึ่งแรก ผ่านคนที่ 3 ดีแคลน ไรซ์ (ค่าตัว 116.6 ล้านยูโร)นี่คือดีลทุบสถิติสโมสรระดับร้อยล้านของอาร์เซน่อล ที่มาพร้อมกับความคาดหวังจากแฟนบอลอย่างมาก เนื่องจากค่าตัวสูง แถมเป็นนักเตะเป้าหมายหลักของอาร์เตต้ามานานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถปิดดีลได้ทันทีทันใด แถมต้องใช้กำลังภายในพอสมควรในการโน้มน้าวให้เวสต์แฮมยอมรับข้อเสมอดีลนี้ให้จบโดยเร็ว ในความล่าช้าของดีลนี้ก็ถือว่าสร้างความคุ้มค่าให้กับทีมและแฟนบอลอย่างมาก เพราะเขาสามารถเล่นได้อย่างเนียนสนิท เข้ากับระบบทีมของอาร์เตต้าอย่างมาก รวมไปถึงการเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ รวมไปถึงประตูสุดสำคัญในเกมที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้อย่างสุดมันส์ กลายเป็นว่าเขาชนะใจแฟนบอลได้อย่างง่ายดาย ด้วยฟอร์มการเล่นในสนาม ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมอย่างมากสำหรับไรซ์ฟอร์มโดยรวม 4 นัดแรก : ผ่านคนที่ 4 ดาบิด ราย่า (ค่ายืมตัว 3.34 ล้านยูโร พ่วงสัญญาซื้อขาด)ดีลนี้ถือว่าเป็นดีลที่อาร์เตต้าเอามาเพื่อไว้กดดัน อารอน แรมส์เดลล์ในการพัฒนาฝีมือ รวมไปถึงการโรเตชั่นเพื่อรับมือกับเกมการแข่งขันที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปัญหาของอาร์เซนอลคือจำนวนผู้เล่นที่ใช้งานแบบหมุนเวียนได้นั้นไม่เพียงพอ ทำให้เจอปัญหานักเตะบาดเจ็บหรืออ่อนล้าจากการลงสนามต่อเนื่องขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราย่า ตอบโจทย์อย่างมาก ด้วยฟอร์มการเล่นของเขากับเบรนท์ฟอร์ด และการที่เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าเก่งและคล่องแคล่วอย่างมาก แต่ด้วยที่อาร์เตต้ายังคงไว้ใจให้แรมส์เดลล์ยังเป็นตัวจริงต่อเนื่อง โอกาสที่ราย่าจะได้ลงสนามนั้นน่าจะเป็นในเกมบอลถ้วย หรือเกมยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ดังนั้นแล้ว เรายังคงบอกไม่ได้ว่าตอนนี้ราย่าผ่านหรือไม่ผ่าน ต้องหาโอกาสให้เขาได้ลงสนามโชว์ฟอร์มเสียก่อนฟอร์มโดยรวม 4 นัดแรก : ยังไม่ทราบ (แต่แรมส์เดลล์ก็เริ่มร้อนๆหนาวๆแล้วล่ะแบบนี้)นี่คือนักเตะหน้าใหม่ 4 คนของอาร์เซน่อลที่ตัดเกรดแล้วว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ซึ่งต้องดูกันต่อไปจนจบฤดูกาลว่า หลังจากนี้นักเตะหน้าใหม่เหล่านี้จะสามารถโชว์ฟอร์มดีช่วยเหลือทีมได้อย่างต่อเนื่องขนาดไหน ให้ผลการแข่งขันตัดสินพวกเขาแล้วกันครับขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Facebook Arsenalภาพที่ 2 จาก Facebook Arsenalภาพที่ 3 จาก Facebook Arsenalภาพที่ 4 จาก Facebook Arsenalภาพปกบทความ จาก Facebook Arsenal เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !