เเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเก้าอี้ร้อนที่กลายเป็นเต็งหนึ่งที่จะถูกปลดจากเก้าอี้ผู้จัดการทีม ด้วยผลงานที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ของจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ที่แข่งไป 7 นัด ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นแถมเสียไป 22 ประตู ซึ่งผลงานแกว่าน้องใหม่เจ้าป่า น๊อตติ้งแฮม ฟอร์เรส ซึ่งแน่นอนแหละว่าผลงานที่ย่ำแย่ขนาดนี้ก็คงต้องมาวิเคราะห์หาสาเหตุกันซักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้จัดการทีมที่พร่ำหวอดในเวทีพรีเมียร์ลีกรายนี้ แล้วหลังจากเบรคทีมชาติจะมีวี่แววกลับมาได้หรือไม่ หรือจะโดนปลดก่อนกันแน่1. ประเด็นแรกคงมองไปที่การเสียผู้รักษาประตูมือดี แคสเฟอร์ ชไมเคิล ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น อย่าลืมว่านี่คือผู้รักษาประตูมือดีที่พร้อมเซฟในด่านสุดท้ายเมื่อฤดูกาลที่แล้วของจิ้งจอกสยาม ตลอดเวลาที่เขาเป็นผู้เล่นของจิ้งจอกสยาม 284 เกม ทำไป 82 คลีนชีต เมื่อไร้ซึ่งนายด่านที่เป็นความเชื่อมั่นด่านสุดท้าย นั่นส่งผลให้เหล่านักเตะแนวรับไม่กล้าดันขึ้นสูง อีกทั้งการวางบอลยาวของเขาก็ยังมีประสิทธิภาพและมีส่วนในเรื่องการส่วนกลับเร็วที่เป็นอาวุธของจิ้งจอกสยาม แต่ไม่ใช่ว่าผู้รักษาประตูคนใหม่ แดนนี่ วอร์ด ไม่มีคุณภาพ แต่มองในเรื่องของการมองตารู้ใจเพื่อน หรือการออกที่เข้าใจแนวรุกยังทำไม่ได้เท่าที่ควรเมื่อเทียบกับนายด้านคนเก่า2. ประเด็นต่อมาก็คือตัวเปลี่ยนเกมที่แทบจะมองหาไม่มีบนม้านั่งสำรอง ย้อนกลับไปเกมที่เจอกับ เชลซี แม้ว่าจะมีนักเตะเหนือกว่าตั้งแต่นาทีที่ 28 หลังจาก คาราเกอร์ โดนใบแดง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชิงความได้เปรียบของสิ่งวที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งยังเป็นฝ่ายโดนนำ แม้ว่าจะมีเวลาให้แก้เกมเพื่อกำชัยชนะ แต่เมื่อเหลียวมองไปยังม้านั่งสำรองกลับไม่มีตัวเปลี่ยนเกมที่จะสร้างความแตกต่างได้เลย หากยังจำกันได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วยังพอจะมี อเดโมล่า ลุคแมน ที่เป็นตัวจี๊ดสร้างความแตกต่างเรื่องเกมรุกริมเส้นได้บ้าง แต่ในตอนนี้กลับไม่มีนักเตะที่พอจะเปลี่ยนรูปแบบเกมแบบนั้นได้แล้ว นี่จึงเป็นหนึ่งในปัญหาที่ เเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังหาทางออกไม่ได้ ณ เวลานี้3. ประเด็นสุดท้ายที่พอจะมองในแง่ดีได้บ้างก็เป็นเรื่องของโปรแกรมเริ่มฤดูกาลที่แสนโหดที่เจอทั้ง อาร์เซน่อล เชลซี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ตบท้ายด้วย ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส เป็นสี่เกมที่ถือว่างานหินเอาเรื่องแม้ว่าอีกสามเกมที่เหลือจะเจอทีมที่อาจจะเรียกได้ว่าชนชั้นวรรณะเดียวกันก็จริง แต่หากมองความพร้อมในเรื่องของนักเตะ จิ้งจอกสยามแทบจะสู้ไม่ได้แทบจะทุกตำแหน่ง นั่นแปลว่าโปรแกรมหนักของจิ้งจอกสยามเหลือเพียงแค่ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น หลังเบรกทีมชาติห้าเกมแรกมีโอกาสสูงที่จะเก็บสามแต้มเพราะเจอทีมระดับโซนเดียวกัน ประกอบไปด้วย ฟอร์เรส , บอร์นมัท , คริสตัล พาเลส , ลีดส์ ยูไนเต็ด และ วูลฟ์แฮมตันคำถามที่หลายคนคงอยากจะรู้ก็คือ เเบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะโดนปลดหรือไม่ก่อนที่จะกลับมาเตะกันอีกครั้งในเดือนหน้า คำตอบโดยส่วนตัวของกระผมเองก็คงบอกได้เลยว่า ไม่มีทางแน่นอน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะนาทีนี้คงไม่มีใครที่จะกล้ามารับงานแก้ต่อจากเขาแน่นอน อีกทั้งสโมสรเองก็ยังมีทีท่าไว้วางใจในตัวผู้จัดการทีมตาหวาน ที่วาดหวังว่าจะพาทีมหาหนทางกลับมายืนอยู่ในพรีเมียร์ลีกได้อย่างแน่นอน ด้วยโปรแกรมการแข่งขันหลังพักเบรกทีมชาติที่ดูจะเบากว่าตอนเปิดฤดูกาล ฉะนั้นแล้ว 5 เกมแรกก่อนจะเจอโคตรทีมเรือใบสีฟ้า คือหนทางรอดเดียวของ เลสเตอร์ ซิตี้ และ เเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่จะยืนหยัดได้ในเวทีพรีเมียร์ลีกที่แสนโหดแห่งนี้ เครดิตภาพปก twitter.com/LCFC :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2เครดิตภาพประกอบ twitter.com/LCFC :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 4 , premierleague.com/ :: ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 ผู้เขียนส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !