ถ้าบัลเลต์คือพื้นฐานของการเต้น เราคิดว่ายิมนาสติกคือพื้นฐานของกีฬาเช่นกัน การเล่นกีฬาทุกชนิดต้องอาศัยทั้งความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของร่างกาย กีฬายิมนาสติกจึงถือเป็นพื้นฐานของกีฬาอื่น ๆ เพราะมีครบทุกอย่าง ปัจจุบันกีฬายิมนาสติกเองก็เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย มีสโมสรเล็กใหญ่เกิดขึ้นมากมาย ผู้ปกครองเองก็มีแนวโน้มที่จะเห็นความสำคัญของกีฬายิมนาสติกมากขึ้น เรามาทำความรู้จักกีฬาประเภทนี้ให้มากขึ้นไปอีกกันดีกว่าค่ะ ยิมนาสติก ภาษาอังกฤษเขียนว่า Gymnastic เป็นกีฬาที่เกี่ยวกับการแสดงความแข็งแรง ความสวยงาม ความคล่องแคล่ว โดยอาศัยการทำงานที่สอดประสานกันของร่างกาย บางประเภทเป็นการสอดประสานระหว่างร่างกายและดนตรี เช่น ยิมนาสติกสีลา ยิมนาสติกในประเทศไทยเริ่มมีสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเปิดสอนที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเป็นแห่งแรก มีการจัดเข้าเป็นหลักสูตรโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษา ปัจจุบันกีฬายิมนาสติกในประเทศไทยดูแลโดยสมาคมยิมนาสติกแห่งประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2511 ลูกสาวของผู้เขียนเองก็เรียนยิมนาสติกเช่นกัน จุดเริ่มต้นมาจากการรักในการเรียนบัลเลต์ และเรามีความเห็นตรงกันว่ากีฬายิมนาสติกเองสามารถส่งเสริมเรื่องความพร้อมของร่างกายสำหรับเรียนบัลเลต์ด้วย จึงเริ่มเรียนประกอบกันเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่น แต่เมื่อเรียนไปสักพักเราเห็นถึงคุณประโยชน์ที่มากมายกว่าที่เราคาดไว้มาก จึงอยากจะมาเล่าสู่กันฟัง ประโยชน์ของกีฬายิมนาสติก 1. ด้านร่างกาย ทำให้มีรูปร่างสมส่วน ส่งผลต่อบุคคลิกภาพที่ดี มีความแข็งแรงขึ้น (ลูกสาวป่วยน้อยลงตั้งแต่เรียนยิมนาสติก) มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เตรียมพร้อมสำหรับการเล่นกีฬาอย่างอื่นได้ สายตาและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายสอดประสานกันได้ดี ร่างกายมีความยืดหยุ่น อ่อนตัว 2. ด้านจิตใจ ทำให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าแสดงออก ทำให้มีระเบียบวินัย ทำให้มีไหวพริบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อารมณ์ดี สถานที่เรียนยิมนาสติก ปัจจุบันมีสโมสรยิมนาสติกมากมายให้เลือกเรียนนะคะ วันนี้จะยกตัวอย่างชื่อสโมสรบางแห่งในกรุงเทพฯ เผื่อผู้ปกครองสนใจส่งบุตรหลานให้เข้าเรียนค่ะ แต่หากสนใจสโมสรอื่น ๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ สโมสรจินตนา สโมสรเยี่ยมยิม ชมรมยิมนาสติกลีลาสิงห์ PK ยิมนาสติก Bangkok Gymnastic Club เสนาชัยยิม สโมสรไทยแคนนาเดียน ฯลฯ ภาพประกอบทุกภาพ : ใบไม้ไหว