วิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 5ทีมชาติจีน VS ทีมชาติไทยวันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 19.00 น.สนาม : เสิ่นหยาง โอลิมปิก สปอร์ต เซนเตอร์ สเตเดียม ,เมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีนถ่ายทอดสด : ไทยรัฐ ทีวี 32 , Youtube ช้างศึก, Facebook ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย (ช่องทางถูกลิขสิทธิ์ ดูฟรี มีเยอะแยะ อย่าดูเถื่อนกันเลยนะครับ >< )เกมนี้เป็นเกม ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 นัดที่ 4 การพบกันระหว่าง "ขุนพลแดนมังกร" ทีมชาติจีน และ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่สนาม เสิ่นหยาง โอลิมปิก สปอร์ต เซนเตอร์ สเตเดียม ,เมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน นัดแรกที่เจอกันที่กรุงเทพ ทีมชาติไทย พลาดท่าเปิดบ้านพ่ายให้กับ ทีมชาติจีน ไปอย่างน่าเสียดายด้วยสกอร์ 1 - 2 หลังนำไปก่อน 1 - 0 จาก สารัช อยู่เย็น ก่อนที่จะโดนทีมชาติจีนพลิกแซงได้ในที่สุด ซึ่งนัดนั้นยังเป็นการคุมทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง อยู่ การพ่ายแพ้ในนัดนั้นแฟนบอลทีมชาติไทยเสียดายเป็นอย่างมากเนื่องจากรูปเกมไม่เป็นรองเลย ทีมชาติจีนในวันนั้นไม่น่ากลัวเท่าไร ในนัดนี้มีโอกาสที่จะแก้มืออีกครั้ง โดยทีมชาติไทย มีพัฒนาการจากวันนั้นค่อนข้างชัดเจน ส่วนทีมชาติจีนก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกันในส่วนของผู้เล่นที่โอนสัญชาติมา และกุนซือที่เปลี่ยนจาก อเล็กซานดรา ยานโควิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ที่คุมทีมเจอไทยในนัดแรก มาเป็น บรังโก้ อีวานโควิช กุนซือไว้ 69 ปีชาวโครเอเชียสถานการณ์ล่าสุดของกลุ่ม C ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รอบที่ 2 โซนเอเชีย เกาหลีใต้มี 10 คะแนน นำเป็นอันดับ 1 อยู่ ทีมชาติจีน ตามมาเป็นที่ 2 โดยมี 7 คะแนน ขณะที่ทีมชาติไทยมี 4 คะแนน อยู่ในอันดับ 3 และสิงคโปร์อยู่อันดับสุดท้ายมีเพียงแต้มเดียว ในนัดนี้เป็นการวัดอนาคตทีมชาติไทยในการที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป หากนัดนี้เก็บ 3 แต้มได้ตามเป้าโอกาสผ่านเข้าสู่รอบต่อไปเปิดกว้างทันที ถ้าหากเสมอก็ยังมีโอกาสอยู่เพียงแต่เงื่อนไขเยอะขึ้น โดยไทยต้องชนะ สิงคโปร์ ในนัดสุดท้าย และ จีนต้องแพ้เกาหลีใต้ โดยทำประตูได้เสียให้มากกว่าจีนด้วย แต่ถ้าไทยแพ้ในนัดนี้ จะตกรอบทันที ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีมจีนชนะ : จีน 4 - 1 สิงคโปร์ (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)เสมอ: สิงคโปร์ 2 - 2 จีน (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)แพ้ : กาตาร์ 1 - 0 จีน (เอเชียน คัพ)เสมอ: เลบานอน 0 - 0 จีน (เอเชียน คัพ)เสมอ: จีน 0 - 0 ทาจิกิสถาน (เอเชียน คัพ)ไทยแพ้ : ไทย 0 - 3 เกาหลีใต้ (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)เสมอ : เกาหลีใต้ 1 - 1 ไทย (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)แพ้ : อุซเบกิซสถาน 2 - 1 ไทย (เอเชียน คัพ)เสมอ : ซาอุดิอาราเบีย 0 - 0 ไทย (เอเชียน คัพ)เสมอ: โอมาน 0 - 0 ไทย (เอเชียน คัพ)การพบกันของ 2 ทีม2023 : ไทย 1 - 2 จีน (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)2019 : จีน 0 - 1 ไทย (ไชน่า คัพ)2019 : ไทย 1 - 3 จีน (เอเชียน คัพ)2018 : ไทย 0 - 0 จีน (อุ่นเครื่อง)2014 : จีน 1 - 3 ไทย (อุ่นเครื่อง)ความพร้อมก่อนเกมทีมชาติจีนทีมชาติจีนหลังจากเปลี่ยนกุนซือมาเป็น บรังโก้ อีวานโควิช กุนซือไว้ 69 ปีชาวโครเอเชีย เพื่อเข้ามาพาจีนเข้าสู่รอบต่อไปให้ได้หลังผลงานก่อนหน้านี้ไม่ดีนัก โดยได้รวบรวมนักเตะทั้งหมดลงทำการฝึกซ้อมเป็นระยะเวลา 10 วันและวางเป้าหมายชัดเจนในเกมที่พบกับทีมชาติไทย คือการเดินหน้าคว้าชัยชนะเพื่อการันตีโอกาสเข้ารอบต่อไป รายชื่อผู้เล่นทั้ง 29 รายที่ประกาศออกมา ยังไม่มีนักเตะโอนสัญชาติใหม่เข้ามาในทีมชุดนี้ ซึ่งบรรดาแข้งบราซิลโอนสัญชาติยังคงถูกเรียกมาใช้งานทั้ง เฟอร์นันโด,เอลเกสัน และ อลัน ขณะที่ดาวยิงตัวเก่งอย่าง อู๋ เล่ย ที่ติดโทษแบนในนัดนี้ ถูกเรียกติดทีมมาด้วยเช่นเดียวกันเพราะต้องใช้งานในเกมที่จะต้องบุกไปเยือนเกาหลีใต้นัดส่งท้ายของการแข่งขันรอบสอง โดย 3 สโมสรใหญ่ในลีกจีนยังคงเป็นแกนหลักของทีมชาติคาดว่าเกมนี้ พวกเค้าน่าจะมาในระบบ 4 - 3 - 1 - 2 ผู้รักษาประตู หวัง ต้าเหล่ย จาก ชานดง ไทชาน แผงหลังมี เก้า จุนยี, ไทอัส บราวนิง (เจียง กวงไท), ซู่ เฉินจี้ และ หลิว หยาง ส่วนแผงกลางสามคนนำมาโดย เฟอร์นันดินโญ่ หรือชื่อจีนคือ เฟ่ย หนาน หัว ตัวบราซิลโอนสัญชาติ คุมเกมร่วมกับ เก้า เทียนยี่ และ หวัง ชางหยวน โดยมี เซียะ เปงเฝย ทำเกมอยู่หลังคู่กองหน้าที่โอนสัญชาติจากบราซิลอย่าง เอลเคสัน (อ้าย เค่อเซิน) และ อลัน คาวัลโญ่ ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 3 - 1 - 2 : หวัง ต้าเหล่ย - เก้า จุนยี, ไทอัส บราวนิง (เจียง กวงไท), ซู่ เฉินจี้, หลิว หยาง – เฟอร์นันดินโญ่ (เฟ่ย หนาน หัว), เก้า เทียนยี่, หวัง ชางหยวน - เซียะ เปงเฝย - เอลเคสัน (อ้าย เค่อเซิน), อลัน คาวัลโญ่ ทีมชาติไทยสภาพทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ในการเรียกตัวมาในรอบนี้ มีผู้เล่นหน้าใหม่ในยุค อิชิอิ ติดทีมมาหลายคนบางคนเคยติดทีมชาติมาก่อนยุค อิชิอิ บ้างแล้ว เช่น สมพร ยศ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แต่บางคนเป็นแข้งข้างศึกชุดใหญ่ใหม่ถอดด้ามเลย เช่น อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ, อิรฟาน ดอเลาะ เป็นต้น แม้ว่าจะขาดผู้เล่นคนสำคัญที่บาดเจ็บไปก่อนหน้านี้อย่าง นิโคลัส มิเกลสัน แต่ข่าวดีคือได้ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าเบอร์ 1 ของทีมชาติไทย กลับมามีชื่อในทีมชุดนี้แล้ว ในเกมนี้คาดว่าจะยึดโครงหลักจากนัดก่อนในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม มือ 1 ในยุค อิชิอิ เซ็นเตอร์แบ็กใช้ เอเลียส ดอเลาะ เป็นตัวยืนคู่กับ สุพรรณ ทองสงค์ แบ็กสองข้างมี ศุภนันท์ บุรีรัตน์ และ ธีราธร บุญมาทัน ประจำการ คู่กลางใช้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ วีรเทพ ป้อมพันธุ์ คอยคุมเกม แผงเกมรุก สุภโชค สารชาติ ทางด้านซ้าย และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ทางด้านขวา ก่อน เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ปีกฟอร์มแรงจากเมืองทอง ยูไนเต็ดที่เก็บไว้เป็นทีเด็ดช่วงครึ่งหลัง ในตำแหน่ง เพลเมกเกอร์ ใช้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยืนเหมือนเดิม กองหน้าตัวเป้าเป็น ศุภชัย ใจเด็ด ดาวซัลโวไทยลีกในฤดูกาลล่าสุด โดยมี ธีรศิลป์ แดงดา คอยลงมาพลิกเกมผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 : ปฏิวัติ คำไหม – ศุภนันท์ บุรีรัตน์, เอเลียส ดอเลาะ, สุพรรณ ทองสงค์, ธีราธร บุญมาทัน – พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, วีรเทพ ป้อมพันธุ์ - ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ - ศุภชัย ใจเด็ดวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเกมจากในนัดแรกที่พบกันทีมชาติจีนเป็นฝ่ายชนะไปได้ก่อน ทำให้สถานการณ์ขณะนั้น ทีมชาติจีนกุมความได้เปรียบไปก่อนสำหรับโอกาสเข้ารอบต่อไป แต่แล้วหลังจากนั้น ทีมชาติจีนไปสะดุดทำได้เพียงบุกไปเสมอกับสิงคโปร์ และ ทีมชาติไทยบุกไปเสมอเกาหลีใต้ได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พลิกล็อกทั้งคู่ ทำให้สถานการณ์การลุ้นเข้ารอบกลับมาสนุกอีกครั้ง นัดนี้เป็นนัดที่จะวัดว่าทีมชาติไทยจะยังมีโอกาสเข้ารอบได้หรือไม่ถ้าหากชนะจะกุมความได้เปรียบไปในทันที ถ้าหากเสมอ ก็ต้องไปลุ้นหนักในนัดสุดท้าย แต่ถ้าแพ้จะหมดลุ้นทันทีทางด้านเจ้าบ้านทีมชาติจีน มีการเรียก รวบรวมนักเตะทั้งหมดลงทำการฝึกซ้อมเป็นระยะเวลา 10 วันและวางเป้าหมายชัดเจนในเกมที่พบกับทีมชาติไทย คือการเดินหน้าคว้าชัยชนะเพื่อการันตีโอกาสเข้ารอบต่อไป ผลงานช่วงหลังไม่ค่อยดีนัก 8 นัดหลังชนะเพียงนัดเดียว และแพ้ไปถึง 4 นัด ถึงแม้ว่า 2 นัดหลังสุดนี้จะเปลี่ยนมาใช้ บรังโก้ อีวานโควิช แล้วแต่ก็เก็บได้เพียง 4 แต้ม จาก 2 นัดกับสิงคโปร์ ทั้งที่ควรจะเก็บได้ 6 แต้มเต็มส่วนทางด้านทีมชาติไทยที่มี มาซาทาดะ อิชิอิ เป็นเฮดโค้ช สไตล์การเล่นชัดเจน เน้นเกมรับแต่รับเป็นทีม เปลี่ยนรับเป็นรุกเป็นทีมเมื่อมีโอกาส นัดที่ไปเยือนเกาหลีใต้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถสู้กับทีมระดับโลกอย่างเกาหลีใต้ ด้วยวิธีการที่เป็นแบบแผน และมีวินัย แต่นัดล่าสุดก็ต้านทีมระดับโลกไม่ไหว นัดนี้พวกเขาต้องเล่นเกมรับต้องเล่นแบบมีสมาธิ มีวินัยแบบเดิม แต่อาจจะต้องเน้นการจบสกอร์เมื่อมีโอกาสให้คมกว่าเดิม เพื่อให้สามารถเก็บ 3 แต้มเต็มให้ได้ในนัดนี้ การได้กองหน้าตัวหลักอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง และการได้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่หายเจ็บกลับมาทัน ทำให้ทัพช้างศึกมีหวังในการเก็บชัยมากในนัดนี้เกมนี้เชื่อว่า ทีมชาติไทยจะเอาตัวรอดได้จากแบบแผนการเล่น วินัยในเกมรับ การเล่นร่วมกันของนักเตะที่เคยผ่านระดับเจลีก และยุโรป คาดว่าเกมนี้ทีมชาติไทยจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้อีกครั้งด้วยการ เอาชนะทีมชาติจีนไปได้และส้างความได้เปรียบในการเข้ารอบต่อไปได้ผลการแข่งขันที่คาดทีมชาติจีน 0 - 2 ทีมชาติไทยBYSILVER_SHARKภาพปกที่ 1 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทยภาพปกที่ 2 : เพจ China PR National Football Team 中國國足 ภาพปกที่ 3 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทยภาพปกที่ 4 : เพจ China PR National Football Team 中國國足 ภาพปกที่ 5 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทยภาพประกอบที่ 1 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทยภาพประกอบที่ 2 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทยภาพประกอบที่ 3 : เพจ China PR National Football Team 中國國足 ภาพประกอบที่ 4 : เพจ China PR National Football Team 中國國足 ภาพประกอบที่ 5 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทยภาพประกอบที่ 6 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทยภาพประกอบที่ 7 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย