ทำตัวเองแท้ๆ! ผีแดง 10 ตัว ดับคาบ้าน ปารีส บุกถอนแค้น 3-1 ลุ้นต่อนัดสุดท้าย

ปีศาจแดง ทำพลาดแบบไม่น่าให้อภัยอีกแล้ว หลังได้โอกาสทองหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะ 2 จังหวะยิงจ่อๆ ของมาร์กซิยาล และลูกยิงชนคานของคาวานี่ แต่เปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ ก่อนจะมาเสียประตูที่สอง แถมต้องเหลือ 10 คน เมื่อ เฟร็ด โดนไล่ออก ทำให้สุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เกมนี้ขอเพียงแค่ผลเสมอก็จะเข้ารอบ พ่ายให้กับ เปแอสเช 1-3 ต้องไปลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้ายกับ ไลป์ซิก จากสถานการณ์ที่เคยได้เปรียบ กลับหายไปในพริบตา

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 ของกลุ่มเอช เมื่อคืนวันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563 "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ "เปแอสเช" ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

GOAL!! เริ่มเกมมา ไม่ถึง 6 นาที ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้โอกาสยิง แต่บอลไปติดบล็อกแนวรับ ยูไนเต็ด ทว่าบอลกลับลอยไปเข้าทาง เนย์มาร์ ได้วอลเลย์ด้วยขวาเข้าประตูไป เปแอสเช บุกนำ 1-0

นาทีที่ 10 อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ได้โอกาสยิงบ้าง แต่ ดาบิด เด เคอา ยังพุ่งปัดบอลเอาไว้ได้

นาที 17 เนย์มาร์ ล้มตัวเตะกลับหลัง แต่บอลไม่แรงมากพอ เด เคอา จึงรับไว้ได้

นาที 22 ยูไนเต็ด เกือบจะเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ เฟร็ด ทำท่าเหมือนสะบัดหัวไปกระแทกใส่ เลอันโดร ปาเรเดส ทว่าหลังผู้ตัดสินวิ่งไปดู VAR แล้ว กลับแจกเพียงใบเหลืองให้ เฟร็ด

GOAL!! นาที 32 ปีศาจแดง ได้ประตูตีเสมอ โดยบอลเริ่มมาจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่หาจังหวะสับไกจากหน้าเขตโทษ แต่ เคย์เลอร์ นาบาส เซฟไว้ได้ ทว่าบอลกลับไปเข้าทาง อารอน วาน-บิสซาก้า ที่หักกลับเข้ากลางให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ซัดด้วยขวา บอลไปแฉลบบล็อกของ ดานิโล เปเรยร่า ก่อนเปลี่ยนทางเสียบเสาแรก ชนิดที่ เคย์เลอร์ นาบาส หมดสิทธิ์ป้องกัน ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 และจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง นาที 49 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสทองอย่างไม่น่าเชื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายบอลเข้ากลางให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้ยิงแบบโล่งๆ จากระยะไม่กี่หลา แต่ดาวยิงชาวฝรั่งเศส ยิงข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง

นาที 58 ยูไนเต็ด พลาดโอกาสได้ประตูอีก 2 ครั้งซ้อน จากจังหวะสวนกลับเร็ว เอดินสัน คาวานี่ หลุดเดี่ยว ก่อนชิพบอลข้ามหัว เคย์เลอร์ นาบาส ไปแล้ว แต่บอลไปชนคานกระดอนออกมา บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่งบอลต่อให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้ยิงแบบเน้นๆ กลางหน้าปากประตู แต่กลับยิงไปติดบล็อกของแนวรับปารีส ทำให้ผีแดงพลาดได้ประตูขึ้นนำ

นาที 64 อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ เปิดบอลให้ มาร์กวินญอส ขึ้นโหม่ง แบบบอลลอยไปชนคาน ก่อนหลุดออกหลังไป

นาที 68 เนย์มาร์ จ่ายให้ มิตเชล บัคเกอร์ ตัวสำรอง ได้สอดขึ้นมายิง แต่ ดาบิด เด เคอา ยังป้องกันไว้ได้

GOAL!! ทว่า นาทีต่อมา จากจังหวะเตะมุม อันเดร เอร์เรร่า ตัวสำรองปารีส ได้ยิงจากแถวสอง บอลไปเข้าทาง อับดู ดิยัลโล่ ก่อนเปลี่ยนทางไปหน้าปากประตู แล้วเป็น มาร์กวินญอส ล้มตัวกวาดบอลเข้าประตูไป โดยแม้ว่าภาพช้าบางมุม จะถ่ายทำให้เห็นเหมือนกับว่า ขาของ มาร์กวินญอส ก้ำกึ่งว่าจะล้ำหน้าหรือไม่ แต่ VAR กลับไม่ได้ส่งสัญญาณ เช็กว่าประตูนี้เป็นลูกล้ำหน้าหรือไม่ ทำให้ปารีสได้ประตูขึ้นนำ 2-1

RED CARD!! แต่แล้ว หลังเสียประตูไปไม่กี่วินาที สถานการณ์ของแมนยู ก็ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อ เฟร็ด จับบอลยาว แล้วจะยืดเท้าไปเล่นบอลต่อ แต่ อันเดร เอร์เรร่า เข้าถึงบอลได้พอดี ทำให้ขาของเฟร็ดไปปะทะเข้ากับ เอร์เรร่า ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดง ให้ เฟร็ด ทว่าเมื่อดูจากภาพช้าแล้ว เหมือนว่าจังหวะนี้ เฟร็ดจะโดนบอลก่อนก็ตาม

นาที 80 แฮร์รี่ แม็คไกวร์ โหม่งตั้งให้ ปอล ป็อกบา ตัวสำรองเจ้าบ้าน วอลเลย์ด้วยขวา ทว่าบอลลอยข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น

นาที 89 เปแอสเช เกือบได้ประตูที่สาม จากจังหวะสวนกลับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กระชากบอลจากกลางสนาม ก่อนได้หลุดเข้าไปยิง แต่บอลหลุดกรอบออกไปไม่ไกล

GOAL!! ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือนมาได้ประตูที่สามจนได้ ราฟินญ่า ได้บอล แล้วหลุดไปถึงเกือบสุดเส้นหลัง แล้วเปิดเข้ากลางใส่พานทองให้ เนย์มาร์ แปบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างง่ายดาย ปารีส หนีห่างเป็น 3-1

ทำให้จบเกมการแข่งขัน เป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่บุกเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่น 3-1 ทำให้ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ รวมถึง แอร์เบ ไลป์ซิก ต่างมี 9 แต้ม เท่ากัน ทั้ง 3 ทีม จะต้องไปวัดกันในเกมนัดสุดท้าย เพื่อหา 2 ทีม ที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา (GK) - อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, อเล็กซ์ เตลลิส - เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - เอดินสัน คาวานี่

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : เคย์เลอร์ นาบาส (GK) - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มาร์กวินญอส, เพรสแนล คิมเพมเบ้, อับดู ดิยัลโล่ - มาร์โก แวร์รัตติ, ดานิโล เปเรยร่า, เลอันโดร ปาเรเดส - เนย์มาร์, มอยเซ่ คีน, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> สุดเนื้อหอม!! แมนยู-เชลซี-สเปอร์ส รุมแย่งตัว เบน ไวท์ เสริมแนวรับ

>> โอเล่ฟังไว้!! บรูโน่ ชี้ชัดจุดไหนที่ แมนยู ต้องรีบแก้ไข หากหวังซิวแชมป์

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

เก็งไม่มีพลาด! ฟันธงคู่ไหนเด็ด! เจาะลึกก่อนเกมพรีเมียร์ลีก สมัครทาง SMS พิมพ์ R1 ส่งมาที่ 4238066 หรือคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้