
น่าจับตามอง.! ทำความรู้จัก ดิโอโก้ และ โทปรัค 2 รุกกี้ โมโตจีพี 2026

มาทำความรู้จักสองนักแข่งโมโตจีพี ที่ทำผลงานได้อย่างน่าจับตามองทั้ง โทปรัค ราซกัตลิโอกลู และ ดิโอโก้ โมเรยร่า ในปี 2026
แต่ โมโตจีพี เองก็ยังมีนักบิดที่คุ้นเคยกับสนาม และมาพร้อมดีกรีแชมป์โลก โมโต 2 จากบราซิล ดิโอโก้ โมเรยร่า ที่น่าจะมาท้าทายตำแหน่งรุกกี้ยอดเยี่ยม ดังนั้นในซีซั่นใหม่ที่รออยู่ ทุกการแข่งขันจะดุดันกว่าเดิม
ประวัติ โทปรัค ราซกัตลิโอกลู
โทปรัค ราซกัตลิโอกลู เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1996 ณ เมืองอลันยา ประเทศตุรกี เป็นลูกชายคนที่สองของ อาริฟ ราซกลาติโอกลู นักขับมอเตอร์ไซค์ผาดโผดที่ได้รับฉายาว่า "Tek Teker Arif" (อาริฟ ยกล้อ) ซึ่งคุณพ่อของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ที่เมืองอันตัลยาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017
ด้วยความที่เกิดมามีคุณพ่อเป็นสตันท์แมน ทำให้เขาได้รับการปลูกฝังและถ่ายทอดวิชาจากรุ่นสู่รุ่น โดยเริ่มบิดคันเร่งเป็นตั้งแต่อายุได้เพียงแค่ 5 ขวบ ทำให้เขามีพื้นฐานการขับขี่รถ 2 ล้อเป็นอย่างดีทั้งในเรื่องสตันท์และคอนโทรลรถในระดับสูง
เขาเริ่มต้นเข้าร่วมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในระดับเยาวชนหลากหลายรายการและเริ่มสร้างชื่อในการแข่งขัน รุกกี้ คัพ กับการคว้าชัยชนะในสนามที่7 ของฤดูกาล 2014 ที่ประเทศเยอรมนี จุดเด่นของนักขับรายนี้คือเรื่องของการเบรกหนักและการควบคุมรถขณะที่เสียการทรงตัว
จากนั้นในปีเดียวกันเขาชนะการแข่งขันในการเปิดตัวรายการ European Superstock 600 Championship ก่อนจะคว้าแชมป์รายการนี้ในปี 2015 ภายใต้การขับรถ คาวาซากิ ZX-6R
โทปรัค ราซกัตลิโอกลู ลุยเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์
ผลงานของเขาเริ่มโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ European Superstock 1000 ในปี 2017 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาได้โอกาสขยับขึ้นไปแข่งขันในระดับเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ในฐานะนักแข่งดาวรุ่งของทีมคาวาซากิ ในปี 2018 และก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับการประเดิมฤดูกาลแรกด้วยการขึ้นโพเดียมไป 2 ครั้ง และติดอันดับท็อป10 เป็นประจำในการแข่งขัน ทำให้เขาได้รับรางวัล รุกกี้แห่งปีไปครอง
เข้าสู่ปี 2019 เขาประเดิมชัยชนะครั้งแรกในเวทีซูเปอร์ไบค์ และเริ่มสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักในฐานะนักขับที่เบรกหนักและโหดที่สุดของการแข่งขัน ปีที่สองของเขาในซูเปอร์ไบค์ได้ขึ้นโพเดียมไปถึง 13 ครั้ง และเป็นการคว้าชัยชนะไปได้ถึง 2 ครั้ง จากนั้นในปี 2020 เขาถูกทีม พาตา ยามาฮ่า เซ็นสัญญาคว้าตัวไปร่วมทีม
การเซ็นสัญญาเข้าสู่สังกัด ยามาฮ่า กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญไปตลอดกาล เขาผงาดคว้าแชมป์โลก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ในปี 2021 กลายเป็นนักขับตุรกีคนแรกที่ประสบความสำเร็จในรายการนี้ ด้วยผลงานชนะ 13 สนาม ขึ้นโพเดียมรวมกันไปถึง 28 ครั้ง โค่นคู่แข่งสำคัญอย่าง โจนาธาน เรีย เจ้าของแชมป์โลก 6 สมัย ของทีมคาวาซากิ
ในฤดูกาล 2022-2023 ทีมยามาฮ่า ของเขาประสบปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ ทำให้ไม่สามารถเค้นศักยภาพที่ดีที่สุดของตัวเองออกมาได้ โดยจบเพียงแค่รองแชมป์โลกเท่านั้น ก่อนที่ในปี 2023 ต้นสังกัดจะเปิดกว้าง ไม่ปิดโอกาสเขาในการไปร่วมทดสอบกับทีมBMW ก่อนที่เขาจะย้ายไปขับให้ค่ายดังจากเยอรมนี
โทปราก ราซกลาติโอกลู ประสบความสำเร็จกับการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 กับทีม BMW ในปี 2024 และเริ่มมีข่าวเชื่อมโยงกับการแข่งขันในโมโตจีพี ทั้งการได้รับความสนใจจากทีโรงงานฮอนด้า ที่มีข่าวว่าต้องการตัวเข้าไปแทนที่ ลูก้า มารินี่ ที่สัญญาจะหมดลงหลับจบฤดูกาล 2025 แต่ทว่าสุดท้ายกลายเป็น ยามาฮ่า ที่ปาดหน้าคว้าตัวไปร่วมทีม ภายใต้ทีมรองทีมใหม่ของพวกเขาอย่าง พราแม็ค ยามาฮ่า
แม้ว่าจะเป็นการย้ายมาขับในฐานะทีมรอง แต่ก็มีข่าวว่าบอร์ดบริหารทีมพร้อมจะซัพพอร์ตเขาอย่างเต็มที่ในรูปแบบเดียวที่ทำกับ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ และ อเล็กซ์ รินส์ 2 นักขับของทีมโรงงาน
ในวัย 29 ปีเต็ม เขามีพร้อมทั้งประสบการณ์ในสนามและความสามารถ แม้อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับรถคันใหม่ที่มีความแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยพรสวรรค์และการปลูกฝังที่ได้รับมาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะประสบความสำเร็จ
ประวัติ ดิโอโก้ โมเรยร่า ดาวรุ่งดวงใหม่ชาวแซมบ้า
ดิโอโก้ เกิดวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 2001 ที่ เซา เปาโล ประเทศบราซิล ขณะที่เพื่อนๆ วัยเดียวกันมุ่งหน้าในเส้นทางลูกหนัง กีฬายอดนิยมของชาติ แต่ ดิโอโก้ กลับเรียนรู้การทรงตัวและการควบคุมรถท่ามกลางฝุ่นคลุ้งในวงการโมโตครอสฝุ่นคลุ้งบนสนามดิน
พรสวรรค์ของดิโอโก้ฉายแววตั้งแต่อายุยังน้อยจนครอบครัวยอมตัดสินใจครั้งสำคัญ พาลูกชายวัยเพียงสิบสามปีเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังสเปน เพื่อเข้าสู่โรงเรียนฝึกสอนการขับขี่ที่เข้มข้นที่สุดแห่งหนึ่งในโลกมอเตอร์สปอร์ต ต้องใช้ทั้งความอดทนและความมุ่งมั่นในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่
ดิโอโก้ เริ่มต้นสร้างชื่อในรายการเอเชีย ทาเลนต์ คัพ และยูโรเปียน ทาเลนต์ คัพ เป็นเด็กสร้างในสังกัดฮอนด้า มีสไตล์การขับขี่ที่ดุดันจนได้รับโอกาสให้เข้าร่วมรายการเรดบูล โมโตจีพี รุกกี้ คัพ ซึ่งเป็นเวทีที่พิสูจน์ฝีมือเพชรยอดมงกุฎที่จะก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับโลก โดยสามารถคว้าชัยชนะและขึ้นโพเดียมได้อย่างน่าทึ่งจนทีมในระดับโมโต 3 ต้องรีบดึงตัวเข้าสังกัด เข้าสู่ทีมเคทีเอ็ม
ปี 2024 เมื่อย้ายจากค่ายสัญชาติออสเตรียมาที่ คาเล็กซ์ และขยับขึ้นสู่รุ่นรอง ผ่านไป 6 สนาม ดิโอโก้ เก็บแต้มได้เพียงสนามเดียวเท่านั้น แต่ก่อนเข้าสู่กึ่งกลางซีซั่นที่ ซัคเซนริง ก็เกือบขึ้นโพเดียม ด้วยอันดับ 4 ความพยายามของเด็กหนุ่มวัย 19 ปีในตอนนั้นมาสำเร็จที่ คาตาลุนญา เซอร์กิต ในช่วงปลายซีซั่น ขึ้นโพเดี้ยมเป็นครั้งแรก และแม้จบในอันดับ 13 ของฤดูกาล แต่ก็คว้ารางวัลรุกกี้ยอดเยี่ยมมาครอง
ปีถัดมา ดิโอก้ เปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยอันดับ 4 ที่ ไทย กรังด์ปรีซ์ และติดท็อป 5 ถึง 4 จาก 6 สนามแรกของซีซั่น แต่นั่นยังไม่ใช่เป้าหมายที่ต้องการ เมื่อมาถึง ซิลเวอร์สโตนที่อังกฤษ ดิโอโก้ ขึ้นโพเดียมในอันดับ 2 ต่อเนื่องที่ อารากอน และสนามที่ 10 ของฤดูกาล ทีที แอสเซน หนึ่งในสนามที่ทั้งสวยงามและหฤโหด ก็คว้าแชมป์แรกที่รอคอย และได้อีก 1 แชมป์ที่ออสเตรีย
จากนั้นในช่วงปลายซีซั่นก็ยังร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดย 6 สนามสุดท้ายคว้า 2 แชมป์ 2 โพเดี้ยม แม้แฟนๆ ต้องลุ้นตัวโก่ง ที่บาเลนเซีย เพราะเริ่มต้นไม่สวย แต่จบในอันดับ 10 เพียงพอสำหรับการสะสมคะแนนคว้าแชมป์โลกในรุ่นรอง ทำให้ก้าวขึ้นสู่รุ่นใหญ่อย่างเต็มภาคภูมิ ในฐานะชาวบราซิลคนแรกที่คว้าแชมป์ โมโต 2
ความโดดเด่นของ ดิโอโก้ ที่ใครเห็นเป็นต้องทึ่งคือการควบคุมรถที่พลิ้วไหว นำทักษะจากการแข่งโมโตครอสมาประยุกต์ใช้ในการแข่งขันทางเรียบ โดยเฉพาะจังหวะการสไลด์เข้าโค้งหรือการจัดการรถในยามที่ยางเริ่มหมดสภาพ มีความสามารถยอดเยี่ยมในการเบรกลึกและกล้าตัดสินใจในพื้นที่ที่จำกัดอย่างมากด้วยการใช้ร่างกายโหนรถไปตามแรงเหวี่ยงด้วยความเร็วสูงทำให้เขารักษาความเร็วในโค้งได้ดี คู่แข่งหลายคนมักจะยอมรับว่า ดิโอโก้ เป็นนักแข่งที่แซงผ่านได้ยากที่สุดคนหนึ่ง เพราะมีสัมผัสที่ไวต่อการตอบสนองของเครื่องยนต์และการทรงตัวเป็นเลิศ
มีข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ดิโอโก้ เนื่องจากเป็นชาวบราซิล ที่ชอบอากาศร้อนชื้น ทำให้ผลงานการแข่งขันในโซนเอเชียอย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย มักจะทำผลงานได้ดี ส่วนที่อากาศอบอุ่นอย่างสเปน ก็มักจะมีผลงานยอดเยี่ยมเช่นกัน เพราะย้ายถิ่นฐานมาฝึกฝนที่นี่ตั้งแต่อายุ 13 ปีเท่านั้น
แต่ในท้ายที่สุด รุกกี้ทั้งสองที่มาจากต่างถิ่น ต่างประสบการณ์ มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม จะมีใครได้สัมผัสแชมป์หรือโพเดี้ยมบ้าง เป็นสิ่งที่ต้องติดตามเมื่อการแข่งขันที่แท้จริงมาถึง
