จิ้งจอกฆ่าไม่ตาย! มอร์แกน โขกชัยพา เลสเตอร์ 10 คน เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-1
เลสเตอร์ ซิตี้ เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่ในนาทีที่ 3 และทีมออกนำไปก่อนจากลูกฟรีคิกสุดสวยของ เจมส์ แมดดิสัน แต่ก็ถูก ดไวท์ แม็คนีล ยิงตีเสมอให้กับ เบิร์นลี่ย์ ได้ทันควัน และในนาทีสุดท้าย เลสเตอร์ มาได้ประตูชัยจากลูกโหม่งของ เวส มอร์แกน พาทีมชนะไป 1-2
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 31 คู่ระหว่าง เบิร์นลี่ย์ รับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 ส่วนทัพจิ้งจอกสยาม มาในระบบ 4-3-3
เริ่มเกมมาเพียง 2 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเกมรุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยูริ ติเลอม็องส์ เปิดบอลโค้งเข้ามาในกรอบเขตโทษ เจมี่ วาร์ดี้ ชาร์จไม่เข้า
🔴 นาทีที่ 3 เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน จากจังหวะที่ แฮรี่ แม็คไกวร์ ผู้เล่นตัวสุดท้ายทำฟาวล์ทางด้าน โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สัน ล้มลงไป ผู้ตัดสิน มาร์ค โอลิเวอร์ ชูใบแดงไล่แม็คไกวร์ ออกจากสนามไป
🔼🔽 นาทีที่ 5 เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องแก้เกมเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง เวส มอร์แกน ลงสนามแทน เดมาราย เกรย์
เกมผ่าน 20 นาที ทั้งสองทีมมีโอกาสลุ้นประตูด้วยกันทั้งคู่ แต่เป็นเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำเกมบุกขึ้นมาและดูจะม๊โอกาสมากกว่า
นาทีที่ 30 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ พาบอลขึ้นมาฝั่งขวา ตัดสินใจกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาหน้าประตู เจมี่ วาร์ดี้ เข้าไม่ถึงบอลไหลผ่านหน้าประตูออกไป
⚽ Goal!!!!! นาทีที่ 33 เจมส์ แมดดิสัน ถูกทางด้าน เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ทำฟาวล์หน้ากรอบเขตโทษ และลุกขึ้นมายิงฟรีคิกระยะกว่า 20 หลา เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติอังกฤษปั่นโค้งๆ บอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงามพา เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน นำไปก่อน 0-1
⚽ Goal!!!!! นาทีที่ 38 เบิร์นลี่ย์ ทำเกมบุกขึ้นมา ดไวท์ แม็คนีล จ่ายไปให้กับ ชาร์ลี เทย์เลอร์ ทางฝั่งซ้ายและตบกลับเข้ามาให้ ดไวท์ แม็คนีล ซัดตามน้ำด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปพาทีมตีเสมอได้สำเร็จ 1-1
ทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งแรก 2 นาที และจบเกมทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 1-1
เริ่มเกมในครึ่งหลัง เลสเตอร์ มีโอกาสลุ้นประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ เจมี่ วาร์ดี้ พาบอลขึ้นมาสุดเส้นหลังเปิดหักเข้ามาให้กับ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ แต่ยิงติดบล็อกและบอลไปเข้ามือ ทอม ฮีทตัน
🔼🔽 นาทีที่ 64 เลสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สองส่ง คริสเตียน ฟลุคส์ ลงมาแทน เจมส์ แมดดิสัน
🔼🔽 นาทีที่ 70 เบิร์นลี่ย์ เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงมาแทน คริส วูด
🔼🔽 นาทีที่ 76 เลสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายส่ง น็อมปาลิส เมนดี้ ลงแทน ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์
🔼🔽 นาทีที่ 79 เบิร์นลี่ย์ เปลี่ยนตัวคนที่สองส่ง ร็อบบี้ เบรดี้ ลงมาแทน โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สัน
⚽ Goal!!!!! นาทีสุดท้าย เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ลูกเตะมุมในครึ่งหลังเป็นครั้งแรก ติเลอม็องส์ เปิดบอลเข้าไป แต่ถูกสกัดออกมา ริคาร์โด้ เก็บบอลได้จ่ายกลับไป ติเลอม็องส์ โยนเข้าไปอีกครั้งบอลแฉลบและไปเข้าหัว เวส มอร์แกน โขกเต็มๆ ศรีษะบอลเข้าประตูไป พาจิ้งจอกสยามขึ้นนำอีกครั้งเป็น 1-2
จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ กลับมาเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ไปได้ 1-2
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
เบิร์นลี่ย์ : ทอม ฮีทตัน, ฟิล บาร์ดสลี่ย์, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, ชาร์ลี เทย์เลอร์, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, แจ็ค คอร์ก, โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สัน (ร็อบบี้ เบรดี้ น.79), ดไวท์ แม็คนีล, แอชลี่ย์ บาร์น, คริส วูด (ปีเตอร์ เคร้าช์ น.70)
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, เบน ชิลเวลล์, วิลฟรีด เอ็นดิดี้, ยูริ ติเลอม็องส์, เจมส์ แมดดิสัน (คริสเตียน ฟลุคส์ น.64), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (น็อมปาลิส เมนดี้ น.76), เดมาราย เกรย์ (เวส มอร์แกน น.5), เจมี่ วาร์ดี้
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports