🔴 หลังจากยอดกุนซือของทัพปีศาจแดงอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้อำลาทีมไปเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2012-2013 แล้วนั้นต่อมาก็มีกุนซือกว่า 5 คนแล้วที่ผลัดกันเข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและดูแล้วคงจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ง่ายๆ. สำหรับกุนซือคนปัจจุบันของแมนฯยูไนเต็ดนั่นก็คือเอริค เทน ฮากยอดกุนซือชาวดัตช์ที่พึ่งคุมทัพปีศาจแดงครบ 100 นัดอย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาในการบุกไปแพ้อริร่วมเมืองอย่างเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ไป 3 ประตูต่อ 1.🔴 บทความนี้เราจะมาวิเคราะห์+เปิดเผยสถิติการคุมทีมของเอริค เทน ฮากที่แฟนปีศาจแดงไม่ควรพลาดเมื่อคุมทีมครบ 100 นัดแรกเทียบกับ 3 กุนซือก่อนหน้านี้รวมไปถึงการวิเคราะห์การคุมทีมของกุนซือแต่ละคนซึ่งต้องบอกว่าเหตุการณ์การปลดโค้ช-แต่งตั้งโค้ชใหม่-ทีมทำผลงานได้ดีในปีแรก-ทีมทำผลงานได้ไม่ดีในปีถัดๆไป-ปลดโค้ช-แต่งตั้งโค้ชใหม่ของแมนฯยูไนเต็ดเป็นเหมือนเหตุการณ์เดจาวูที่เหมือนเป็นการฉายภาพซ้ำไปซ้ำมาที่ไม่จบไม่สิ้นซักที.👨💼 เอริค เทน ฮาก🟣 ฤดูกาลแรกของเทน ฮากกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จเลยทีเดียวคล้ายๆกับกุนซือ 3 คนก่อนหน้านี้เพราะว่าเขาสามารถพาปีศาจแดงคว้าแชมป์คาราบาวคัพได้ซึ่งถือเป็นถ้วยรางวัลในรอบหลายปีของสโมสรเลยทีเดียว. นอกไปจากนั้นเขายังพาทีมเข้าชิงฟุตบอลถ้วยเอฟเอ คัพและพาทีมจบอันดับที่ 3 ในพรีเมียร์ลีกคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จอีกด้วยเชื่อเหลือเกินว่าแฟนๆผีแดงทั่วโลกต่างก็พึงพอใจกับการคุมทีมในฤดูกาลแรกของกุนซือรายนี้อย่างแน่นอนและคงเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่อาจจะเป็นจุดจบของวัฏจักรการเปลี่ยนโค้ชบ่อยๆของทีมซักที.🟣 เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลที่ 2 นั้นแน่นอนว่าแฟนๆก็ย่อมฝันอยากที่จะเห็นผลงานของทีมที่ดีขึ้นแต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นดั่งฝันเมื่อผลงานของทีมแย่ลงกว่าฤดูกาลแรกเป็นอย่างมากจากปัจจัยต่างๆซึ่งเชื่อว่าแฟนบอลแต่ละคนก็มีมุมมองที่แตกต่างกันออกไปและปัจจุบันนั้นเสียงของแฟนบอลปีศาจแดงก็เริ่มแตกเป็น 2 ฝั่งอีกแล้วทั้งฝั่งที่ยังสนับสนุนเทน ฮากอยู่และฝั่งที่เริ่มไม่เชื่อมั่นในกุนซือชาวดัตซ์รายนี้และต้องการเห็นสโมสรเปลี่ยนกุนซือซักที.🟣 อย่างไรก็ตามเทน ฮากก็คุมทีมครบ 100 นัดไปแล้วเรียบร้อยและสถิตินั้นบอกว่าเขาสามารถนำทีมชนะได้ถึง 61 เกม เสมอ 11 และแพ้ไป 28 เกมซึ่งเมื่อนำมาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การพาทีมชนะก็พบว่าจะอยู่ที่ 61% เป็นรองเพียงแค่โชเซ มูรินโญ่ที่มีเปอร์เซ็นต์การพาทีมชนะอยู่ที่ 62% อยู่นิดเดียวเท่านั้นเอง.👨💼 หลุยส์ ฟาน กัล🔵กุนซือจอมปรัชญาชาวดัตช์เข้ามาคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2014-2015 ต่อจากเดวิด มอยส์ที่อยู่คุมทีมได้ไม่ถึง 100 เกม. เขามีโอกาสอยู่คุมทีม 2 ฤดูกาลด้วยกันซึ่งก็คือในฤดูกาล 2014-2015 และ 2015-2016 และสามารถพาปีศาจแดงคว้าถ้วยรางวัลได้ 1 รายการด้วยกันนั่นก็คือ FA cup ในฤดูกาล 2015-2016 ก่อนที่จะถูกปลดเมื่อจบฤดูกาลในท้ายที่สุด.🔵เมื่อกางสถิติการคุมทีม 100 นัดแรกของหลุยส์ ฟาน กัลกับแมนฯยูไนเต็ดดูแล้วนั้นก็พบว่าเกมที่คุมทีม: 100 เกมชนะ: 52 เกมเสมอ: 25 เกมแพ้: 23 เกมเปอร์เซ็นต์ชนะ: 52%ถ้วยแชมป์: 1 (FA cup ฤดูกาล 2015-2016)🔵 ซึ่งจากสถิติการคุมทีมก็ไม่ได้ถือว่าเป็นหายนะซะทีเดียวนะแต่ช่วงระยะเวลาของหลุยส์ ฟาน กัลกับแมนฯยูไนเต็ดนั้นเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ไม่ค่อยน่าจดจำสำหรับแฟนๆปีศาจแดงเพราะทีมนั้นทำประตูได้น้อยและเล่นเกมรุกได้ไม่ดุดันเท่าที่แฟนๆคาดหวังถึงแม้จะค่อนข้างเสียประตูน้อยก็ตามเพราะแน่นอนว่าปีศาจแดงที่แฟนๆคาดหวังคือเกมรุกที่ดุดันรวดเร็วและทะลวงตาข่ายได้เยอะและยิ่งช่วงเวลานั้นแฟนๆปีศาจแดงพึ่งจะผ่านช่วงดื่มด่ำกับความสำเร็จมาอย่างยาวนานเลยย่อมมีความคาดหวังที่สูงมากเป็นธรรมดาบวกกับผลงานในฤดูกาลที่ 2 ของเขาก็ค่อนข้างที่จะย่ำแย่พาทีมอดไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกทำให้หลุยส์ ฟาน กัลจึงถูกปลดออกจากทีมในท้ายที่สุด.👨💼 โชเซ่ มูรินโญ่🟠 กุนซือชาวโปรตุเกสเข้ามาคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่อจากหลุยส์ ฟาน กัลในฤดูกาล 2016-2017. มูรินโญ่มีโอกาสอยู่คุมทีม 3 ฤดูกาลด้วยกันซึ่งก็คือในฤดูกาล 2016-2017, 2017-2018 และ 2018-2019. ในช่วง 2 ฤดูกาลแรกเขามีผลงานการคุมทีมที่ค่อนข้างน่าพอใจเลยทีเดียวโดยพาทีมคว้าแชมป์ 3 แชมป์ในฤดูกาลแรกที่เขามาคุมทีมและในฤดูกาลที่ 2 ก็พาแมนฯยูไนเต็ดจบอันดับที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกได้.🟠 โดยสถิติการคุมทีมครบ 100 นัดของโชเซ่ มูรินโญ่กับแมนฯยูไนเต็ดนั้นออกมาว่าเกมที่คุมทีม: 100ชนะ: 62 เกมเสมอ: 23 เกมแพ้: 15 เกมเปอร์เซ็นต์การพาทีมชนะ: 62%ถ้วยแชมป์: 3 (Community Shield, League Cup และ Europa League ในฤดูกาล 2016-2017)🟠 สถิติการคุมทีมนี้ของมูรินโญ่ถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวทำให้เขาได้รับการต่อสัญญาให้คุมทีมต่อไปในฤดูกาล 2018-2019 แต่ในฤดูกาลที่ 3 นี้เองที่ทุกอย่างกลับพลิกผันเมื่อเขาเริ่มพาทีมแพ้บ่อยๆและเริ่มพาทีมหลุดจากพื้นที่ท็อปโฟร์จึงทำให้ในที่สุดสโมสรก็สั่งปลดเขากลางฤดูกาลก่อนที่ฤดูกาลจะสิ้นสุดด้วยซ้ำ.🟠 ดูเหมือนช่วงเวลาที่แมนฯยูไนเต็ดของมูรินโญ่จะค่อนข้างน่าผิดหวังที่เขาไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้แต่ในเวลาต่อมาโชเซ่ มูรินโญ่ก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ว่าการพาแมนฯยูไนเต็ดจบอันดับที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกกับสภาพทีมในขณะนั้นได้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานการคุมทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพการทำงานของเขาเลยทีเดียวและก็เชื่อเหลือเกินว่าแฟนๆปีศาจแดงหลายๆคนก็คงคิดถึงเขาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวและได้แต่คิดว่าถ้าในตอนนั้นทางสโมสรมีการบริหารงานที่ดีและสนับสนุนมูรินโญ่มากกว่านี้ไม่แน่เดอะสเปเชียลวัน มูรินโญ่อาจจะพาทีมพุ่งชนความสำเร็จสูงสุดอย่างแชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้วก็เป็นได้.👨💼 โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์🟢 กุนซือชาวนอร์เวย์เข้ามาคุมทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราวต่อจากโชเซ มูรินโญ่ในช่วงกลางฤดูกาล 2018-2019 เนื่องจากมูรินโญ่ถูกสโมสรสั่งปลดกลางซีซั่นแต่เนื่องจากผลงานการคุมทีมค่อนข้างจะดีเลยทำให้สโมสรให้สัญญาถาวรในการคุมทีมกับเขาทำให้โซลชาร์มีโอกาสอยู่คุมทีมราวๆ 3 ฤดูกาลด้วยกันซึ่งก็คือในฤดูกาล 2019-2020, 2020-2021 และ 2021-2022.🟢 เมื่อกางสถิติการคุมทีม 100 นัดแรกของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์กับแมนฯยูไนเต็ดดูแล้วนั้นก็พบว่าเกมที่คุมทีม: 100ชนะ: 55 เกมเสมอ: 21 เกมแพ้: 24 เกมเปอร์เซ็นต์การพาทีมชนะ: 55%ถ้วยแชมป์: 0🟢 ผลงานการคุมทีมของโซลชาร์นั้นก็ค่อนข้างที่จะเรื่อยๆไม่ได้แย่จนเกินไปและไม่ได้ดีจนเกินไปซึ่งเขาก็ไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์รายการใดๆได้เลยแต่เขาก็สามารถพาทีมจบท็อปโฟร์ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้ 2 ซีซั่นติดต่อกันทั้งในฤดูกาล 2019-2020 และ 2020-2021 ก่อนที่ผลงานการคุมทีมในฤดูกาลที่ 3 ของเขาจะย่ำแย่ลงและเริ่มพาทีมหลุดพื้นที่ท็อปโฟร์ไปเรื่อยๆจนถูกปลดช่วงกลางฤดูกาล 2021-2022 ในท้ายที่สุด (จะเห็นได้ว่าแพทเทิร์นคล้ายๆกันนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับโค้ชสองคนก่อนหน้านี้ทั้งหลุยส์ ฟาน กัลและโชเซ มูรินโญ่).👨💼 การเดิมพันครั้งสำคัญของปีศาจแดงชี้ชะตาอนาคต🔴 เป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมากว่าสุดท้ายแล้วนั้นในอนาคตทางสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะตัดสินใจอย่างไรต่อไปจะยังให้โอกาสเอริค เทนฮากต่อไปอีกจนสุดทางเพื่อหวังจะพาสโมสรออกจากวังวนที่เจอมานับสิบปีหรือไม่หรือจะลองเปลี่ยนกุนซือใหม่ดูอีกซักครั้งเพราะเจ็บมาหลายรอบแล้วลองอีกซักรอบจะเป็นอะไรไปไม่มีใครจะรู้อนาคตได้ซึ่งนี่แหละคือหนึ่งในความสวยงามของชีวิตนั่นก็คือเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นและการตัดสินใจแต่ละครั้งก็มีราคาที่ต้องจ่ายเสมอบางครั้งอาจจะตัดสินใจถูกบางครั้งอาจจะตัดสินใจผิดแต่ยังไงมันก็เป็นเรื่องปกติส่วนหนึ่งของชีวิตสิ่งที่เราทำไม่ได้นั่นก็คือการไม่ตัดสินใจทำอะไรเลยต่างหาก.🔴 แต่สำหรับแฟนๆปีศาจแดงแล้วนั้นไม่ว่าสโมสรจะตัดสินใจอย่างไรต่อไปแล้วไม่ว่าผลลัพธ์จะแย่ลงหรือดีขึ้นหรือไม่ผู้เขียนก็เชื่อมั่นว่าทุกคนก็พร้อมที่จะยืนเคียงข้างและสนับสนุนสโมสรที่ตัวเองรักตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตก็ตาม.เครดิตรูปภาพรูปปก: รูปประกอบที่ 1 จาก Manchester United Official X, รูปประกอบที่ 2 จาก Manchester United Official X, รูปประกอบที่ 3 จาก Manchester United Official X, รูปประกอบที่ 4 จาก Manchester United Official X, รูปประกอบที่ 5 จาก Manchester United Official Facebook, รูปประกอบที่ 6 Photo by Javid Naderi on Unsplash.ภาพประกอบ: ภาพประกอบที่ 1 จาก Manchester United Official X, ภาพประกอบที่ 2 จาก Manchester United Official X, ภาพประกอบที่ 3 จาก Manchester United Official X, ภาพประกอบที่ 4 จาก Manchester United Official X. เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !