"เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ชื่อนี้ถ้าเป็นแฟนบอลไทยอายุ 30 ปีขึ้นไป ต้องรู้จักเขาเป็นอย่างดี และไม่ใช่แค่รู้จักเท่านั้น แต่เชื่อว่ากว่าร้อยละ 90 ล้วนยกย่องให้ "เดอะตุ๊ก" คือนักบอลไทยที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศชาติเคยมีมา (credit รูปภาพ sport.trueid.net) วันนี้ผมมี 10 เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ของ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่น่าสนใจ และเชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ มาเล่าสู่กันฟังครับ 1. ปิยะพงษ์ เป็นลูกครึ่ง!!! พ่อชายไทยเป็นทหารบก ยศสิบเอก แม่เป็นชาวจีนแท้ๆ นั่งเรือสำเภาอพยพจากจีน มาอยู่กรุงเทพฯ เขาจึงเป็นลูกครึ่งแท้ ไทย-จีน 2. เด็กๆ เพื่อนไม่ได้เรียก "ไอ้ตุ๊ก" แต่เรียกว่า "ไอ้จิ๋ว" เพราะตัวเล็กมาก 3. เล่นฟุตบอลจริงจังครั้งแรกสมัยประถมให้กับโรงเรียนสารสิทธิ์ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ในตำแหน่ง "แบ็กซ้าย" 4. พอเข้า มศ.1 หรือเทียบเท่า ม.1 ในปัจจุบัน ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนศรีวิชัย จ.นครปฐม ขอสมัครเข้าเป็นนักฟุตบอล แต่อาจารย์ที่เป็นคนคัดเลือกบอกกับ ปิยะพงษ์ ว่า รูปร่างแบบนี้ไปเป็น นักตะกร้อ น่าจะรุ่งกว่า ท้ายที่สุด "เดอะตุ๊ก" ก็กลายเป็นนักตะกร้อของโรงเรียน เล่นตะกร้อแบบจริงจัง 1 ปีเต็ม โดยแทบไม่ได้กลับไปเตะบอลเลย ด้วยทักษะตะกร้อที่ได้มาครั้งนี้ ทำให้เขาได้ "ท่าไม้ตาย" ที่นำมาใช้กับเกมฟุตบอล จนเป็นที่ฮือฮา และเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว นั่นคือ "ลูกไขว้" ที่ทำได้ทั้งลูกยิงไขว้ และลูกจ่ายไขว้ 5. ได้ลงเล่นฟุตบอลถ้วย ก. ปีแรกกับสโมสรทหารอากาศ ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี และก็ส่อแววดัง ด้วยการคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด พร้อมพาทีมทหารอากาศได้รองแชมป์ถ้วย ก. 6. ปิยะพงษ์ ติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2524 และในปีเดียวกันนี้เอง เขาลงเตะซีเกมส์ พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ ที่สำคัญคือ "เดอะตุ๊ก" ยิงประตูได้ทุกนัด ซ้ำยังยิงนัดละ 2 เม็ดอีกต่างหาก สรุปเล่น 4 นัด ซัดไป 8 ประตู หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ของสิงคโปร์ ถึงกับพาดหัวหนังสือพิมพ์ยกย่องเขาว่า "The Seagames Pele is born" แปลเป็นไทยง่ายๆ ได้ว่า "เปเล่แห่งซีเกมส์ ถือกำเนิดแล้ว" (credit รูปภาพ sport.trueid.net) 7. สมคิด ผิวอ่อน คือภรรยาของปิยะพงษ์ ซึ่งในตอนแรก ปิยะพงษ์ ไม่ได้จีบคุณสมคิด แต่ขอให้ช่วยเป็น "แม่สื่อ" ให้หน่อย สุดท้ายกลายมาเป็นคู่ชีวิตตัวจริง 8. สมัยค้าแข้งอยู่กับสโมสร Lucky Gold Star ของเกาหลีใต้ เพื่อนที่สนิทที่สุด และนอนห้องเดียวกันก็คือ ปาร์ค ฮัง ซอ โค้ชทีมชาติเวียดนามในปัจจุบัน (credit รูปถ่าย : sport.trueid.net) 9. เพื่อนนักบอลที่เกาหลีใต้ เรียกเขาว่า "อาปง" มาจากชื่อ piyAPONG 10. สื่อเกาหลีใต้ตั้งฉายาให้เขาว่า "COBRA" หรือ "ไอ้งูเห่า" แม้ ปิยะพงษ์ จะแขวนรองเท้าอย่างเป็นทางการไปตั้งแต่ พ.ศ.2540 หรือ 23 ปีมาแล้ว ทว่าทุกวันนี้ แฟนบอลชาวไทยก็ยังพูดถึง กล่าวถึง เขามาโดยตลอด พอมีนักบอลไทยฝีเท้าดีคนใหม่ๆ ก้าวขึ้นมา ก็จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับ ปิยะพงษ์ แทบจะทุกคน นี่แหละคือบทพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า เขาคือดาวค้างฟ้า ตัวจริง เก่งจริง ยิงจริง!! (credit ภาพปก : instagram piyapong9) Bevsports ผู้เขียน ติดตามผลงานอื่นๆ ได้ ที่นี่