มิเกล เมริโน่ กองหน้าจำเป็นพาอาร์เซนอลกลับสู่เส้นทางแห่งชัยชนะด้วยการทำประตูชัยจากลูกโหม่งพาทีมชนะเชลซีไล่จี้ลิเวอร์พูลเหลือ 12 คะแนน จบกันไปแล้วกับการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกประจำสัปดาห์ที่ 29 กับศึกลอนดอนดาร์บี้ อาร์เซน่อล พบ เชลซี จบลงด้วยชัยชนะของเจ้าบ้านอย่างอาร์เซน่อลขยับช่องว่างไล่จี้จ่าฝูงลิเวอร์พูล 12 คะแนนและเพิ่มช่องว่างหนีห่าง น็อตติ่งแฮม ฟอเรสต์ที่อยู่อันดับที่ 3 อีกด้วย ก่อนเกมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลยในช่วง 3 เกมหลังสุดในลีก แต่ในเกมนี้พวกเขาคืนฟอร์มได้สำเร็จ คว้าชัยได้อีกครั้งจากประตูชัยของ มิเกล เมริโน่ กองหน้าจำเป็นของทีม จากลูกโหมง่ที่มาจากการเตะมุมของ มาร์ติน นับเป็นการได้ประตูจากลูกเซ็ทพรีทของพวกเขาอีก 1 เกม ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก กดสมัครแพ็กเกจ TrueVisions Now ผ่าน TrueID คลิกเลย! ปัญหาก่อนเกมของเชลซีสำหรับเกมนี้คือ ขาดหายไปของกองกลางตัวเก่งอย่าง โคล พาล์มเมอร์ ที่มีอาการป่วย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนถึงการสร้างสรรคเกมที่หายไปของแนวรุกเชลซี ดังจะเห็นได้จากผลงานตลอดทั้งเกม ทีมของ เอ็นโซ มาเรสก้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนักหลังพักครึ่ง อีกทั้งเมริโน่เองยังเกือบที่จะทำประตูเพิ่มเป็น 2-0 จากจังหวะ วอลเลย์ในครึ่งหลังแต่ถูกทาง โรเบิร์ต ซานเชซ เซฟไว้ได้ทำให้สกอร์ยังไม่ถูกทิ้งห่างและจบลงด้วยสกอร์ 1-0 ในท้ายที่สุด ชัยชนะของอาร์เซนอลทำให้พวกเขาตามหลังลิเวอร์พูลจ่าฝูงอยู่ 12 คะแนน ขณะที่เชลซียังคงอยู่ที่อันดับ 4 โดยห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่อยู่อันดับที่ 5 เพียงแต้มเดียวและนำนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อยู่ 2 คะแนน ภาพรวมของรูปเกม แนวรับของเชลซีถูกโจมตีเจาะทะลวงได้บ่อยครั้งในช่วงต้นเกมจากทั้ง 2 ฝั่ง นำโดย เลอันโดร ทรอสซาร์ดและกาเบรียล มาร์ติเนลลีจนเกือได้ประตู อีกทั้งยังมีจังหวะที่ดิแคลน ไรซ์ จะยิงข้ามคานออกไปจากจังหวะซ้ำดาบ 2 จากการปัดบอลของโรเบิร์ต ซานเชซ จากนั้นไม่นาน อาร์เซนอลก็ใช้จุดเด่นจากลูกเตะมุม ทางฝั่งขวาของโอเดการ์ดส่งให้เมริโนที่โหม่งบอลย้อนไปข้ามเสาไกลจนซานเชส หมดสิทธิ์ป้องกัน เบิกร่องให้อาร์เซน่อลออกนำ 1-0 จากนั้นอาร์เซน่อลปล่อยให้เชลซีครองเกมบุกเพื่อท่วงประตูคืน จนกระทั่งเกือบมาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 37 เมื่อลูกวอลเลย์ของมาร์ก คูคูเรย่า ยิงไป ดาบิด รายา พลาดรับบอลหลุดมือ(ซองแตก) บอลหลุดเฉียดเสาออกไปชนิดที่เสียวแฟนบอลอารฺเซน่อลทั้งโลก เริ่มต้นครึ่งหลังอาร์เซน่อลเกือบได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เมริโนวอลเลย์ด้วยซ้าย แต่เป็นทางด้าน โรเบิร์ต ซานเชสเซฟจากเส้น ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 1-0 มาร์ค คูคูเรย่า เองก็พยามยามดันสูงช่วยเกมรุกเต็มที่แล้วเค้าแทบจะเป็นคนเดียวของเชลซีที่ได้บอลแล้วดูจะมีความอันตรายมากสุดของทีม อีกทั้งยังมีลูกโหม่งของของ ไทริก จอร์จ ตัวสำรองที่ลงมาแต่ก็ยังไม่สามารถ สร้างงานที่ยากให้ ดาบิด ราย่าได้ ท้ายที่สุดอาร์เซนอลก็รักษาสกอร์ความชัยชนะ เก็บ 3 คะแนนในล้านก่อนเบรกทีมชาติได้สำเร็จ อาร์เตต้าพาทีมกลับมาคว้าชัยชนะได้อีกครั้งในรอบ 4 เกม หลังจากที่เห็นทีมของมิเกล อาร์เตต้า สะดุดไม่ชนะใครในลีกมา 3 นัดติดต่อกัน ทั้งการเสมอกับฟอเรสต์ที่ฟอร์มดี และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผลงานกระท่อนกระแท่น และพ่ายแพ้ต่อเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในบ้านอย่างน่าผิดหวัง มานั้น อาร์เซนอลเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างดุดันตั้งแต่ต้นเกมตามสไตล์ โดยใช้ปีกที่มีความเร็ว 2 ข้างทั้งทรอสซาร์ดและมาร์ติเนลลี อีกทั้งยังมีไรซ์ที่ค่อยสอดแทรกเข้าไปในกรอบเขตโทษหาจังหวะยิงได้เสมอ แถมยังมีออฟชั่นจากลูกครอสของ ยูเรียน ทิมเบอร์ ทำให้เกิดความหลากหลายในการโจมตีพื้นที่ในกรอบเขตโทษของเชลซี นอกจากนี้ยังมีประเด่นที่ มาร์ค คูคูเรลลา รอดพ้นจากจังหวะแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ โดย VAR ยืนยันคำตัดสินของผู้ตัดสินคริส คาเวอนาห์ ที่มองว่าแขนของแบ็กซ้ายชาวสเปนอยู่ในตำแหน่งธรรมชาติ โดยไม่ได้มีเจตนาที่จะเอามือไปโดนลูกฟุตบอลแต่อย่างใด โปรแกรมของอาร์เซนอลในนัดถัดไปจะเกิดขึ้นหลังจากเบรกทีมชาติเมื่อพวกเขาจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของฟูแล่ม ทีมอันดับที่ 6 ของตารางคะแนน ซึ่งเอาชนะท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ มาได้ 2-0 ในเกมล่าสุด เชลซีขาดพาล์มเมอร์ เหมือนขาดใจ ก่อนเกมเอ็นโซ่ มาเรสก้ายอมรับแบบแมน ๆ ว่า ทีมเชลซีของเข้านั้น ห่างชั้นกันอาร์เซน่อลค่อนข้างมาก และการที่พวหเขาไม่มีทางด้านของ โคล พาล์มเมอร์ ที่มีอาการป่วย ยิ่งทำให้ความแตกต่างทางด้านคุณภาพนั้นยิ่งชัดเจนมากขึ้น แม้ว่าพาล์มเมอร์จะมีฟอร์มการเล่นในช่วงหลังไม่ค่อยดีนักที่ไม่สามารถทำประตูหรือแอสซิสมาหลายนัดติด แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 ที่เชลซีลงสนามในพรีเมียร์ลีกโดยไม่มีเขา โดยในครั้งนั้นพวกเขาแพ้อาร์เซนอล 5-0 ในเกมนี้ เปโดร เนโต้ , คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคูและจาดอน ซานโชไม่สามารถสร้างผลงานที่ดีออกมาได้ มีเพียงมาร์ค คูคูเรย่าที่ดูจะมีความอันตรายให้กับเชลซีมากที่สุดในทีมนอกนั้นก็จะมีจังหวะลุ้นประตูเพียงเล็กน้อยจาดเนโต้ แต่ก็ไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ให้ราย่าต้องเหนื่อยไปมากกว่านี้ สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดถัดไปขอฃเชลซีหลังพักเบรกทีมชาติ พวกเขาจะต้องเปิดบ้านทำศึกลอนดอนดาร์บี้ ต่อจากการเจอคู่ปรับอย่างสเปอร์ส สถิติที่น่าสนใจหลังเกม มิเกล อาร์เตต้า หลังจากคุมทีมแพ้ 2 จาก 3 เกมเหย้า 3 นัดแรกกับการเจอกับเชลซี ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ก็พาทีมคว้าชัยชนะได้ 3 นัดติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นสถิติการคว้าชัยชนะในบ้านยาวนานที่สุดต่อเชลซีในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ระหว่างฤดูกาล 2001/2002 ถึง 2003/2004 (3) เชลซีไม่ชนะใครเลยในเกมเยือน 7 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 2 แพ้ 5) ซึ่งถือเป็นสถิติเกมเยือนที่ไม่ชนะใครในลีกนานที่สุดของพวกเขา นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ภายใต้การคุมทีมของเกรแฮม พ็อตเตอร์ (เสมอ 4 แพ้ 4) นับตั้งแต่โคล พาล์มเมอร์ย้ายมาร่วมทีม เชลซีลงเล่นเกมเยือนในบ้าน 3 นัดโดยไม่มีเขา และแพ้ทั้ง 3 นัด อีกทั้งยังยิงไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว (เสียไป 8 ประตู) นี่เป็นเกมลีกนัดแรกของพวกเขาที่ไม่มีพาล์มเมอร์ นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 ซึ่งยังเป็นเกมที่พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับอาร์เซนอล (0-5) อีกด้วย ช่องทางการติดตามผู้เขียน : Tiktok : รวมพลังส้มตำไก่ย่าง https://www.tiktok.com/@sukimaisaipuk1412?_t=ZS-8uko6eGCgDd&_r=1 Facebook : รวมพลังส้มตำไก่ย่าง บทความแนะนำ https://sport.trueid.net/detail/VELv9az08MpD https://sport.trueid.net/detail/kQXP3ooAE4zQ ขอบคุณภาพประกอบจาก : Premier League ภาพปก 1 / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4 / ภาพประกอบ 5 / ภาพประกอบ 6 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !