รีเซต
อนุชาติ ดวงจันทร์ : สนามลำโพถึงจะเป็นบ้านชั่วคราว แต่ก็เป็นบ้านที่อบอุ่น ... by "ตรู่ เชียร์ไทย"

อนุชาติ ดวงจันทร์ : สนามลำโพถึงจะเป็นบ้านชั่วคราว แต่ก็เป็นบ้านที่อบอุ่น ... by "ตรู่ เชียร์ไทย"

อนุชาติ ดวงจันทร์ : สนามลำโพถึงจะเป็นบ้านชั่วคราว แต่ก็เป็นบ้านที่อบอุ่น ... by "ตรู่ เชียร์ไทย"
kentnitipong
13 มิถุนายน 2562 ( 19:11 )
1.3K
8

ฤดูกาล 2014 เป็นต้นมา ระเบียบการแข่งขัน ฟุตซอล ไทยลีก บังคับให้ทุกทีมต้องมีสนามเหย้าเป็นของตัวเอง… ผ่านมา 5 ปี ฤดูกาล 2019 สนามเหย้าที่เรียกว่า “บ้าน” ได้แบบเต็มปากเต็มคำของ นนทบุรี ฟุตซอล คลับ นั่นก็คือ สนามองค์การบริหารส่วนตำบลลำโพ หรือ “ลำโพ สเตเดี้ยม”

มองไกล “ลำโพ สเตเดี้ยม” เป็นสนามชั้นนำของไทย

การขึ้นชั้นกลับมาสู่ ไทยลีก 2019 พร้อมกับได้สนามเหย้าแห่งใหม่คือ “ลำโพ สเตเดี้ยม” หรือบางทีเรียกกัน “สนามลำโพ” โดย องค์การบริหารส่วนตำบลลำโพ สำหรับทีมเล็กๆ อย่าง นนทบุรี ฟุตซอล คลับ การได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจากหน่วยงานในจังหวัด ก็เป็นปัจจัยที่กระตุ้นวงการฟุตซอลเมืองนนท์ให้มีกระแสตื่นตัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ผู้ที่พัฒนาด้านสถานที่นั่นก็คือ นายสุรศักดิ์ จาดบุญนาค นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลำโพ

“ตอนแรกก็ยังไม่รู้ระเบียบของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังไม่รู้รายละเอียดของเค้าในหลายๆเรื่อง
มาตอนนี้ก็มีความรู้มากขึ้นแล้ว ก็ตั้งใจว่าจะพัฒนาสนามไปเรื่อยๆ ครับ ให้สมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไป ให้เป็นสนามต้นๆ ของประเทศเลย”

“การที่มาใช้สนาม อบต.ลำโพ เป็นสนามเหย้าเพราะว่าสนามของลำโพมีความพร้อมที่จะจัดแข่งขัน พอเรารู้ระเบียบของสมาคมกีฬาฟุตบอล เราก็ปรับปรุงพัฒนาในด้านสนาม หรืออัฒจันทร์คนดู การรักษาความปลอดภัย ให้ลงแข่งได้ครับ เป็นการช่วยฟุตซอลของจังหวัดนนท์ให้พัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป”

“ลำโพ สเตเดี้ยม” ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ ได้งบประมาณสร้าง 14 ล้านบาท เมื่อปี 2549 เป็นอาคารอเนกประสงค์ ใช้เป็นที่ประชุมของหน่วยงานต่างๆ ทำกิจกรรมของชุมชน เช่น จัดงานแต่งงาน ส่วนด้านกีฬาก็ใช้สำหรับการฝึกซ้อมในระดับนักเรียน รวมทั้งใช้จัดการแข่งขันกีฬาของชุมชน ก่อนจะมีการปรับปรุงอีก 8 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของ นนทบุรี ฟุตซอล คลับ ในฤดูกาล 2019 นับว่าคุ้มค่าที่ได้เห็นสถานที่นี้เป็นศูนย์รวมใจของชาวนนทบุรี

“ดีใจมากเลยครับ แมตช์ที่พบกับ ชลบุรี คนดูล้นสนาม แล้วก็มาแมตช์อื่นๆก็ 400 ถึง 500 คน
ซึ่งเดิมทีที่ นนทบุรี เคยเล่นลีกสูงสุดที่สนามเทศบาลตำบลปลายบาง
คนดูก็ประมาณ 100 กว่าคน 200 คน ส่วนใหญ่จะเป็นพวกอะคาเดมี่ พวกนักเรียนที่มาดูกัน
แต่ปีนี้ประชาชนทั่วไปเข้ามาชมกันมาก ก็ดีใจมากที่ประชาชนให้ความสนใจ”

แฟนคลับเยอะขึ้นเพราะใช้ “ลำโพ สเตเดี้ยม”

แม้ว่าผลงานจะอยู่อันดับที่ 14 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย หลังจากจบเลกที่ 1 มีเพียง 6 คะแนนเท่านั้น แต่ก็ได้การสนับสนุนจากแฟนคลับที่มีมากกว่าการลงเล่น ไทยลีก ทุกปีที่ผ่านมา นายอนุชาติ ดวงจันทร์ ประธานสโมสรนนทบุรี ฟุตซอล คลับ ที่นักเตะเรียกกันว่า “พี่เดียร์” ยกความดีความชอบให้กับ องค์การบริหารส่วนตำบลลำโพ

“โซนนี้ติดสุพรรณบุรี ชาวสุพรรณบุรีก็มานะครับ หรืออย่าง นครปฐม บางเลน ก็ใกล้นะครับ ก็เป็นข้อดีที่ทำให้สโมสรนนทบุรีที่มีแฟนคลับกระจายไปอยู่ สุพรรณบุรี และ นครปฐม หรือจาก อยุธยา ก็ใกล้นิดเดียว 25 กิโลครับ ก็ถือว่าบ้านหลังนี้ทำให้ นนทบุรี อบอุ่นขึ้นครับ ก็ต้องขอขอบคุณนายกอบต.ลำโพ ที่ให้สโมสรนนทบุรีเช่าสถานที่แห่งนี้เป็นสนามเหย้าครับ”

“ลำโพ สเตเดี้ยม ที่ใช้อยู่ถือว่าเป็น ‘บ้าน’ หลังแรกที่สโมสร นนทบุรี ได้เล่นในบ้านแบบสง่าผ่าเผย ว่าเป็นสนามเหย้าของตัวเองนะครับ แฟนคลับที่นี่เยอะมากๆ ครับ นนทบุรี ไม่เคยเห็นแฟนคลับเยอะขนาดนี้มาก่อนนะครับ”

ประธานสโมสรคนใหม่ ได้เผยข้อมูลว่าในอนาคตอีก 2 ปีข้างหน้าจะย้ายสนามเหย้าไปที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ อยู่ในอำเภอบางใหญ่ งบประมาณ 28 ล้าน ขนาด 2,000 ที่นั่ง รอขั้นตอนการประมูลงานของผู้รับเหมา หรือมีความเป็นไปได้ที่จะไปใช้โรงยิมของสนามกีฬากลางจังหวัดนนทบุรี เป็นงบที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี จะดำเนินการสร้างขนาด 4,000 ที่นั่ง คาดว่าจะเสร็จในปี 2565

ในอนาคตไม่ว่าจะย้ายไปสนามแห่งไหน แต่เป้าหมายในปีนี้คือต้องรอดตกชั้นให้ได้ หากมองดูผลงาน 9 นัดแรกไม่มีแม้แต่คะแนนเดียว นี่คือโจทย์ใหญ่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะอยู่ในลีกสูงสุดต่อไปให้ได้ ยังดีที่ท้ายเลกแรกผลงานกระเบื้อง ชนะ 2 นัด ขวัญกำลังใจดีขึ้น และพร้อมจะสู้ต่อในอีก 13 นัดที่เหลือ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือแรงเชียร์จากชาวจังหวัดนนทบุรี

“อยากจะเชิญเข้ามาชม เข้ามาเชียร์ ลูกหลานชาวจังหวัดนนทบุรีนะครับ พวกเขาได้เล่นอยู่บนลีกสูงสุดของประเทศนะครับ น้อยมากนะครับที่ลูกๆหลานๆของท่านจะได้โอกาสเล่นในระดับประเทศแบบนี้ครับ”

“สนามลำโพถึงจะเป็นบ้านชั่วคราว แต่ก็เป็นบ้านที่อบอุ่น”

ขึ้นชั้นยากแล้ว แต่รอดตกชั้นยากกว่า

นักเตะในชุดนี้ที่ได้เติบโตอยู่กับทีมมาตั้งแต่เด็กนั่นก็คือ อรรถพล แตงร่ม ชาวอุทัยธานี ได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ได้มาเล่นฟุตซอลเพราะว่าได้เจอกับ “โค้ชแอน” ปฐวีกรณ์ รื่นเสือ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนนี้ จนได้เล่น ไทยลีก ครั้งแรกฤดูกาล 2011/12 ก่อนจะย้ายไป สมุทรสาคร และไปอยู่กับบิ๊กทีมอย่าง การท่าเรือ พร้อมกับคว้าแชมป์อาเซียน

ในวันที่สโมสรต้องตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2018 อรรถพล ตัดสินใจย้ายกลับมาช่วยทีมเพราะตัวเองคือลูกหม้อของ นนทบุรี ฟุตซอล คลับ จนพาทีมกลับสู่ ไทยลีก 2019 และยังคงเป็นกำลังสำคัญประคองน้องๆในทีม พร้อมทั้งเป้าหมายที่ยากกว่าเดิมนั่นก็คือ ต้องรอดตกชั้นให้ได้

“ผมก็ไม่อยากให้เด็กนนทบุรีเสียโอกาส ผมคนนึงก็เกิดจากตรงนี้มา ผมอยากให้ตรงนี้เป็นเวทีให้น้องๆเค้า ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตซอลจาก เทคโนโลยีพงษ์สวัสดิ์ นนทบุรีวิทยาลัย หรือโรงเรียนอื่นๆ ใน นนทบุรี ผมมองว่ามันเป็นเวทีที่สร้างให้น้องๆ ไปอยู่ในเวทีทีมชาติไทย”

“ตอนตกชั้นโจทย์มันก็ยาก ต้องทำให้ขึ้นชั้นในปีเดียวอ่ะ ถ้าเราขึ้นชั้นกลับมาไทยลีกไม่ได้
มันก็อาจจะไม่มีสนามแห่งนี้ก็ได้ แต่เราก็ทำสำเร็จกลับขึ้นชั้นมาได้”

พอขึ้นชั้นกลับมาได้นอกจากจะได้ใช้สนามแห่งนี้ “ลำโพ สเตเดี้ยม” ยังทำให้มีคนในจังหวัดพร้อมให้การสนับสนุนมากขึ้น นี่คือสิ่งที่ทุกคนอยากเห็นรวมทั้ง อรรถพล คือการร่วมมือกันของคนในจังหวัดเพื่ออนาคตของฟุตซอลนนทบุรี

“พอเราขึ้นชั้นได้ ก็ทำให้มีผู้ที่อยากจะเข้ามาสนับสนุนมากขึ้น คนในจังหวัดก็เห็นความสำคัญมาช่วยกันมากขึ้น อย่างทีมงาน “ดอนทหารบก” ถ้าเป็นวงการเดินสายก็เป็นเบอร์ต้นๆ ของประเทศ เค้าอยู่ในนนทบุรี ก็เลยได้เข้ามาช่วยทีมนนทบุรีของเรา”

“สโมสรนี้มันไม่ได้เป็นของใครเลย มันเป็นของจังหวัดนนท์ แค่คนที่มาบริหารเนี่ย เข้ามาช่วยทำหน้าที่ให้สโมสรเดินหน้าไปได้ ที่สำคัญเลยทีมต้องรอด”

การอยู่รอดในลีกสูงสุดหรือต้องตกชั้นอีกครั้ง จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของฟุตซอลในจังหวัดนนทบุรีในอนาคต… ลุ้นกันอีก 13 นัดที่เหลือ

“ตรู่ เชียร์ไทย”

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้