ศึกแดงเดือดนัดแรกของฤดูกาลนี้ จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยผลปรากฏว่า ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 0-0 ซึ่งถ้าหากใครได้ดูแมตซ์นี้จะเห็นว่าเกมนั้นเดือดอยู่ฝั่งเดียว เจ้าบ้านเป็นฝ่ายเดินเกมรุกบุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นจนจบ ในขณะที่ทีมเยือนถอยกันลงไปตั้งรับจนเต็มพื้นที่ โอกาสลุ้นสวนกลับมีแทบนับครั้งได้ ในเมื่อรูปเกมเหนือกว่ามากมายขนาดนี้ ทำไมเจ้าบ้านถึงเก็บชัยชนะไม่ได้ ? วันนี้เราจึงพามาเจาะลึกหลังเกมถึง 4 ปัญหาของลิเวอร์พูล สาเหตุที่ทำให้ชัยชนะหลุดมือ1. ทิ้งโอกาสช่วงต้นเกมเกมนี้เชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ รู้อยู่แล้วว่าแมนยูจะมาเล่นตั้งรับแบบนี้ จึงสั่งให้ลูกทีมเปิดฉากบุกเข้าใส่ตั้งแต่นาทีแรก ด้วยการไล่บีบสูงตั้งแต่แดนบน จนมีโอกาสเปิดบอลเข้าไปลุ้นหลายครั้ง ซึ่งเวลาเจอกับทีมที่ถอยลงไปตั้งรับต่ำ จำเป็นต้องฉวยโอกาสโจมตีให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะช่วง 10-20 นาทีแรกการจัดระเบียบกองหลังยังไม่ดี พอมีช่องว่างให้โจมตีได้ หากได้ประตูขึ้นนำเร็วรูปเกมหลังจากนี้ก็จะเปลี่ยนไปทันที แต่สุดท้ายเมื่อนักเตะลิเวอร์พูลไม่สามารถฉกฉวยโอกาสไว้ได้ กลายเป็นทีมเยือนมีเวลาขันเกมรับกันแน่นหนา ทำให้ยากที่จะเจาะเข้าไป2. ขาดตัวสร้างสรรค์เกมเกมนี้แดนกลางของลิเวอร์พูลประกอบด้วย วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเวนเบิร์ช และ โดมินิก โซบอสซ์ไล แต่กลับไม่มีใครสร้างสรรค์เกมรุกให้ทีมได้เลย เอ็นโด เป็นคนคอยคุมจังหวะเกม และดักทำลายเกมสวนกลับของคู่แข่ง กราเวนเบิร์ช ครึ่งแรกบทบาทน้อยมาก แทบไม่มีส่วนร่วมในเกมรุกของทีม ครึ่งหลังพอเริ่มทำได้ดีขึ้นก็ดันมาบาดเจ็บซะอีก คนสุดท้าย โซบอสซ์ไล พยายามจะช่วยต่อบอลสร้างเกมรุกมากที่สุด แต่จังหวะยังขาดๆเกินๆเหมือนไม่เข้าใจกับเพื่อน เล่นเน้นปลอดภัย ไม่ค่อยกล้าเลี้ยงพาบอลเข้าพื้นที่อันตราย สุดท้ายต้องโดนเปลี่ยนตัวออก ถือว่าฟอร์มดร็อปลงจากเมื่อต้นฤดูกาลเยอะพอสมควร 3. ไม่เน้นจังหวะลูกนิ่งเกมเริ่มได้ไม่ถึง 5 นาที ลิเวอร์พูลมีโอกาสเปิดลูกเตะมุมเข้าไปลุ้น 2-3 ครั้ง โอกาสลุ้นเข้ากรอบครั้งแรกมาจากลูกเตะมุม เวอร์จิล ฟานไดจ์ค โหม่งแต่ไปตรงตัวของ อังเดร โอนาน่า ซึ่งเกมที่อึดอัดแบบนี้การเล่นลูกนิ่งไม่ว่าจะเป็นเตะมุมหรือฟรีคิก มีความสำคัญมากสามารถใช้เป็นอาวุธเด็ดทำลายกำแพงแนวรับได้เลย ตลอดทั้งเกมลิเวอร์พูลมีโอกาสเตะมุมมากถึง 12 ครั้ง รวมทั้งได้เปิดฟรีคิกเข้าไปลุ้นอีกหลายจังหวะ แต่กับไม่เน้นกันเท่าที่ควร เทรนต์-อาร์โนลด์, ซิมิคาส, โซบอสซ์ไล สลับกันเปิดบอลตรงบ้างล้นบ้าง ลูกไหนเปิดได้ดีเพื่อนก็จบสกอร์ไม่ดีอีก เรียกว่าทิ้งโอกาสไปหลายสิบครั้ง อย่างน่าเสียดาย 4. แนวรุกเคลื่อนที่น้อยสามประสานแนวรุกวันนี้แต่ละคนหาโอกาสยิงให้ตัวเองได้น้อยมาก หลุยส์ ดิอาซ เจาะเข้าพื้นที่อันตรายไม่ได้ ส่วนใหญ่ทำได้เพียงเลี้ยงตัดเข้ากลาง แล้วจ่ายบอลต่อให้เพื่อน ดาร์วิน นูเญซ ยืนใกล้กองหลังมากเกินไป บอลส่งไปไม่ถึง และไม่มีพื้นที่ให้เล่นอย่างที่ถนัด มีเพียงแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่มีส่วนในการเล่นเกมรุกมากที่สุด ได้โอกาสยิงครั้งสองครั้ง แต่มันก็ยังไกลเกินไป จุดที่น่าแปลกใจคือเกมนี้แนวรุกทั้งสามคน ยืนประจำตำแหน่งของตัวเองมากเกินไป แทบไม่มีการเคลื่อนที่สลับตำแหน่งกันเหมือนที่เคยทำ ทำให้แนวรับของคู่แข่งเล่นง่ายประกบไล่ตามไม่ห่าง พอได้บอลก็โดนประชิดติดตัวทันที ทุกปัญหาที่กล่าวมานั้นไม่ได้พึ่งเกิดแต่เกิดขึ้นมาแล้ว 2-3 เกมก่อนหน้านี้ เชื่อว่าแฟนลิเวอร์พูลส่วนใหญ่รู้สึกได้ เพียงแค่เกมนี้มันเริ่มเด่นชัด พอไม่มีโชคเข้าข้าง ประตูชัยช่วงท้ายเกมไม่เกิดขึ้น ปัญหาทุกอย่างก็เปิดออกมาแจ่มแจ้ง แต่หากมองในแง่ดีก็ยังมีเวลาให้ปรับปรุงแก้ไขอีกเยอะ สถานการร์ยังไม่ได้เลวร้ายอะไร ตามหลังทีมนำเพียงหนึ่งคะแนน ซึ่งถ้าหาก เจอร์เก้น คล็อปป์ จูนเครื่องให้กลับมาติดได้เร็วเมื่อใด ฤดูกาลนี้ก็เตรียมตัวลุ้นแชมป์กันไปยาวๆได้เลยถ้าหากเพื่อนๆชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueID : NPK Footballstyleเพจ Facebook : มาดู หงส์แดงเครดิตภาพภาพปก Liverpoolภาพ1 Liverpoolภาพ2 Liverpoolภาพ3 Liverpoolภาพ4 Liverpool