เรอัลมาดริด ราชันแห่งยุโรปตัวจริง คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมแปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 15ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค ถ้วยใบใหญ่สุดที่สำคัญมากสุด ของบรรดาทีมจากสโมสรในยุโรป ถ้วยใบนี้ที่ทีมจากสโมสรในยุโรปต่างอยากครอบครองกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทีมไหนๆ ยิ่งในยุคปัจจุบัน มันไม่ใช่แค่เกียรติยศ ศักดิ์ศรี แต่มันหมายถึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ไม่ใช่แค่เพียงเงินรางวัลจากการแข่งขันเท่านั้น แต่ที่ผู้เขียนหมายถึงมันคือเงินจากค่าถ่ายทอดลิขสิทธิ์มันช่างมากมายเหลือเกิน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสโมสรต่างๆจึงต้องไขว่คว้าไว้ให้ได้ดังนั้นถ้าเราจะพูดถึงทีมฟุตบอลสักทีม ในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีค คงต้องกล่าวถึง เรอัลมาดริด พี่ใหญ่แห่งวงการ ราชันแห่งยุโรป เจ้าของเวทีUCL นิยามอื่นๆอีกมากมายที่มันแสดงถึงความเป็นเจ้ายุโรปของทีม เรอัลมาดริด เรอัลมาดริด ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีค และ ยูโรเปี้ยน คัพ (ชื่อเดิม) รวมกันทั้งหมด 15 ครั้ง รวมครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านมาในเวมบลีย์ด้วย เป็นทีมที่ได้แชมป์มากที่สุดสำหรับทีมทีมเดียว พวกเขาประกาศศักดาและตอกย้ำกับคำว่า ราชัน ได้เป็นอย่างดีผู้เขียนจะไม่กล่าวถึงครั้งก่อนๆในประวัติศาสตร์ แต่เอาแค่ตั้งแต่ 2010 เป็นต้นมา ทีมเรอัลมาดริด เป็นสโมสรที่เข้าชิงถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยส์ลีค 11 ครั้ง จาก 14 ปีล่าสุด พลาดไม่ได้เข้าชิงไปแค่ 3 ครั้ง และใน 11 ครั้งนั้น พวกเขาได้แชมป์ถึง 6 ครั้ง ปีที่ได้แชมป์ 2014,2016,2017,2018,2022 และล่าสุด 2024 ลองคิดดูครับว่า ไม่มีทีมไหนทำได้อย่างพวกเขาอีกแล้ว พระเจ้า ราชัน จริงๆเหมือนพวกเขาจะรู้วิธีในการเล่นฟุตบอลถ้วยนี้โดยเฉพาะ เหมือนมันมีพลังงานบางอย่างให้กับทีม เหมือนแม่เหล็กที่มันดึงดูดเข้าหากัน เหมือนมือข้างขวาและข้างซ้ายที่คู่กัน เหมือนอะไรต่อมิอะไรที่มันต้องคู่กันเสมอ และนั่นแหละ เหมือนเรอัลมาดริดเกิดมาเพื่อคู่กับถ้วยยูฟ่า แชมป์เปี้ยนสีค เรอัลมาดริด บางเกมในนัดชิง พวกเขาเกมเป็นรอง แต่ถ้าคู่ต่อสู้ยังไม่สามารถเหยียบพวกเขาให้จมดินได้ พวกเขาจะกลับมา แล้วมันก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งเหลือเกินกับเกมนัดชิงที่พวกเขาได้เข้าไปเล่น สถิติบ่งบอกทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้น เกมนัดชิงที่เวมบลีย์ก็เช่นเดียวกัน ครึ่งแรกผู้เขียนว่า ดอร์ทมุนด์ มีโอกาสแต่ไม่สามารถกำจัดพวกเขาได้ ลูกหลุดเดี่ยว 1 ครั้ง ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ครึ่งแรกดอร์ทมุนด์ คุมสถานการณ์ไว้ได้ มาดริดมีโอกาสยิงน้อยมาก ไม่เข้ากรอบเลยสักครั้ง แต่มันยังไม่จบฟุตบอลเล่นกัน 2 ครึ่ง ครึ่งหลังลงมามาดริดค่อยๆโชว์ความสามารถ และคอนโทรลเกมไว้ได้หมด ยิ่งเล่นเหมือนดอร์ทมุนด์ทำได้ไม่เหมือนครึ่งแรก ต่อบอลกันขาดมั่งเกินมั่ง มาดริดค่อยๆควบคุมเกมให้อยู่ในมือพวกเขา แล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ เหมือนถ้วยใบนี้เชื่อขนมกินได้ เกมค่อยดำเนินต่อไปแต่เหมือนดอร์ดมุนด์ไม่เหมือนเดิม การเจาะเข้าไปเพื่อยิงประตูลำบากมากขึ้น ฟุตบอลไดเรคที่ใช้ได้ในครึ่งแรกไม่ค่อยเกิดขึ้นในครึ่งหลัง เกมมันกลายเป็นมาดริดที่คุมทุกอย่างไว้ในกำมือ หรือด้วยเพราะความตื่นเต้นของนักเตะดอร์ดมุนด์หรือเปล่าอันนี้มิรู้ได้ หรือเป็นเพราะความช่ำชองของนักเตะมาดริด ซึ่งหลายคนมีประสบการณ์ในการชิงดำถ้วยบื๊กเอียร์อยู่หลายครั้ง หรือเพราะการแก้เกมของอันเชล็อตติ หรือเพราะอะไรต่อมิอะไรที่มันดูเข้าข้างมาดริดไปเสียหมด แล้วราชันก็แสดงให้เห็นว่า.......ราชัน ก็แสดงให้เห็นว่าความเป็นราชัน มันเป็นอย่างไร พวกเขาสามารถคว่ำดอร์ทมุนด์ไปได้ 2-0 สามารถคว้าแชมป์ UCL สมัยที่ 15 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่สมกับความเป็นราชันเจ้าแห่งยุโรปหน้าประวัติศาสตร์ถูกเขียนอีกครั้งโดยฝีเท้าของพวกเขา และคงไม่มีใครกล้าเถียงว่า เรอัลมาดริด ราชันแห่งยุโรปตัวจริงขอบคุณที่มาแหล่งภาพ : Facebook Real Madrid C.F. : ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5Community ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์