เกม “Trail Blazers vs Warriors” เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้เป็นแค่แมตช์ธรรมดาในฤดูกาล NBA แต่มันคือคืนที่พอร์ตแลนด์ต้องการ “ลุกขึ้นยืน” ท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวายที่สุดในรอบหลายปี โค้ชคนเก่าถูกจับกลางสัปดาห์, ทีมกำลังสับสน, และคู่แข่งคือทีมที่มีสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในยุคใหม่อย่าง Golden State Warriors พร้อมกับ “สเต็ฟ เคอร์รี” ที่ยิงสามแต้มได้จากทุกมุมสนาม แต่ผลลัพธ์กลับออกมาเหนือความคาดหมาย Portland Trail Blazers ถล่ม Warriors ไป 139-119 ในเกมแรกของยุค “Tiago Splitter” โค้ชชั่วคราวที่เพิ่งก้าวขึ้นมาจากผู้ช่วยได้ไม่ถึง 48 ชั่วโมง พลังใหม่ของพอร์ตแลนด์: เล่นเหมือนไม่มีอะไรจะเสีย สิ่งแรกที่รู้สึกได้จากเกมนี้คือ “ความปลดปล่อย” ของนักบาสพอร์ตแลนด์ พวกเขาเล่นเหมือนทีมที่ถูกยกภาระออกจากบ่า ไม่มีความกังวล ไม่มีการยั้งจังหวะ ทุกคนดูตั้งใจจะพิสูจน์ว่าทีมนี้ไม่ได้มีชีวิตอยู่ด้วยชื่อของโค้ชคนใด Deni Avdija คือคนที่สะท้อนภาพนั้นได้ดีที่สุด 26 คะแนน 6 แอสซิสต์ กับการยิงที่มั่นใจเต็มร้อย เขาควบคุมบอล เล่นเพลย์เมคได้อย่างมีจังหวะและเข้าใจเพื่อนร่วมทีม ซึ่งน่าสนใจมากเพราะนี่คือเกมที่เขาเพิ่งเริ่มคุ้นระบบใหม่ นอกจาก Avdija แล้ว Jerami Grant ก็ยังคงเป็นตัวความหวังที่ไว้ใจได้ 22 คะแนนจากม้านั่งสำรอง, Toumani Camara กับ 19 คะแนนและ 3 สตีล คืออีกคนที่เรียกว่า “สร้างโมเมนตัม” ให้ทีมได้ตลอดเกม ส่วน “Shaedon Sharpe”, “Donovan Clingan” และ “Kris Murray” ต่างคนต่างมีส่วนเติมเต็มเกมรุกให้ไหลลื่นกว่าที่เคยเห็นในปีที่ผ่านมา Warriors ยังยิงได้ แต่ป้องกันไม่ทัน ต้องพูดตามตรงว่า Stephen Curry ยังสุดยอดเหมือนเดิม 35 คะแนนจากการยิงสามแต้ม 7 จาก 14 ครั้ง เขายังมีความแม่น ความมั่นใจ และความสงบที่แฟนบาสทั่วโลกคุ้นเคยดี แต่สิ่งที่ Warriors ไม่มีในเกมนี้คือ “สมดุล” และ “พลังขา” ของผู้เล่นรอบตัว Curry Golden State ยิงสามได้ดี (42%) แต่ปัญหาคือพอร์ตแลนด์ทะลวงเข้าวงในได้ง่ายเกินไป แต้มในพื้นที่ใต้แป้นคือ 66-30 ซึ่งถือว่าโดนทำลายแบบไม่เหลือเกียรติทีมเก่าที่เคยเล่นเกมรับแกร่งที่สุดทีมหนึ่งในลีก ผมมองว่า Warriors ตอนนี้ยังไม่ใช่ทีมที่สมบูรณ์ แม้จะมี Curry, Kuminga, Draymond และ Jimmy Butler แต่จังหวะเกมโดยรวมยังช้าและอาศัยการยิงมากเกินไป พอเจอทีมที่วิ่งเร็วอย่าง Blazers ก็โดนเล่นงานทันที เกมที่บุกกันแบบไม่มีเบรก สิ่งที่ทำให้แฟนบาสต้องลุกขึ้นดูคืนนั้นคือ “สปีด” ของเกม ทั้งสองทีมเล่นเร็วสุดๆ โดยเฉพาะ Blazers ที่ดูเหมือนตั้งใจจะ “วิ่ง” ตลอดเวลา แม้แต่ตอนที่โดนทำแต้ม พวกเขาก็ยังเอาบอลขึ้นหน้าเร็วแบบไม่รอให้ Warriors ตั้งรับเลย สิ่งนี้สะท้อนถึงแนวทางของ Tiago Splitter ได้ชัด เขาเลือกจะเน้นเกมรุกที่ “แอ็กเกรสซีฟ” กว่าระบบของ Chauncey Billups มาก และผลคือทีมได้ถึง 103 คะแนนภายในสามควอเตอร์ ในฐานะคนดู ผมรู้สึกว่าพอร์ตแลนด์เล่นด้วยพลังบางอย่างที่ไม่ใช่เพียงแท็กติก แต่คือ “อารมณ์ร่วม” ของทั้งทีม เหมือนพวกเขาบอกโลกว่า “เราจะไม่ปล่อยให้เรื่องนอกสนามมากำหนดอนาคตเรา” จุดเปลี่ยนอยู่ที่ควอเตอร์สอง ควอเตอร์แรกทั้งคู่ยังสูสี 28-28 แต่ควอเตอร์สองคือจุดเปลี่ยนใหญ่ Blazers ยิงสามเข้าไป 10 จาก 11 ครั้ง และควบคุมเกมจน Warriors แทบไม่มีโอกาสตอบโต้ ช่วงนั้น Camara และ Grant ยิงสามติดๆ กันก่อนที่ Avdija จะระเบิดฟอร์มต่อเนื่อง ผลคือพอร์ตแลนด์นำห่างถึง 13 แต้มก่อนพักครึ่ง และหลังจากนั้นเกมก็ไม่กลับมาอีกเลย เกมรับยังไม่สมบูรณ์ แต่ดุดันขึ้น ถึงจะเสีย 119 แต้ม แต่ต้องชมการ “กดดันบอล” ของ Blazers พวกเขาสร้างเทิร์นโอเวอร์ได้ถึง 25 ครั้ง มีสตีลถึง 13 ครั้ง เกมนี้เห็นชัดว่าพอร์ตแลนด์ใช้ความเร็วเข้ากดคู่แข่งมากกว่าเดิม โดยเฉพาะตอนที่ไม่มีเซ็นเตอร์อยู่ในสนาม พวกเขาสลับมาใช้ Small Lineup เพื่อเพิ่มความว่องไวและโอกาสในการบีบเพรส แน่นอนว่าระบบนี้ยังมีจุดอ่อนเรื่องรีบาวด์ แต่ก็ช่วยให้ได้โอกาสสวนกลับเร็วๆ ซึ่งเป็นจุดแข็งใหม่ของทีมนี้เลย สิ่งที่ผมชอบที่สุดในเกมนี้ คือ “จิตใจของทีม” บางทีชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่แต้มบนสกอร์บอร์ด แต่มันคือการที่ทีมลุกขึ้นสู้หลังจากโดนมรสุมถาโถม พอร์ตแลนด์เมื่อคืนเล่นเหมือนทีมที่มีหัวใจร่วมกันทุกคน แม้โค้ชเพิ่งเปลี่ยน แม้สถานการณ์จะสั่นคลอน แต่พวกเขากลับเล่นด้วยความมั่นใจ และที่สำคัญคือ “สนุกกับเกม” อีกครั้ง รูปภาพปก 1 มาจาก Golden State Warriors :|: รูปภาพปกที่ 1 รูปภาพประกอบ 1 มาจาก Golden State Warriors :|: รูปภาพประกอบที่ 1 รูปภาพประกอบ 2 มาจาก Portland Trail Blazers :|: รูปภาพประกอบที่ 2 รูปภาพประกอบ 3 มาจาก Golden State Warriors :|: รูปภาพประกอบที่ 3 รูปภาพประกอบ 4 มาจาก Portland Trail Blazers :|: รูปภาพประกอบที่ 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !