ถือเป็นเกมเปิดสนามสุดมันส์เลยนะครับสำหรับในศึกฟุตบอลยูโร 2024 ในครั้งนี้โดยเป็นทางฝั่งเจ้าภาพอย่าง ทีมชาติเยอรมนี บุกถล่มเอาชนะ ทีมชาติสกอตแลนด์ ไปได้อย่างขาดรอยถึง 5-1 โดยหลังเกมทที่เราจะมาพูดคุยกันในวันนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง เราไปดูกันเลยครับเริ่มที่ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนามของทั้ง2ฝั่งกันเลยนะครับ ทีมชาติเยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์ ,โยชัว คิมมิช ,อันโตนิโอ รูดิเกอร์, โยนาธาน ทาห์, มักซิมิเลี่ยน มิตเทลสตัดท์, โรเบิร์ต อันดริช, โทนี่ โครส, จามาล มูเซียล่า, อิลคาย กุนโดกัน, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ส่วนอีกฝั่ง ทีมชาติสกอตแลนด์ : แองกัส กันน์, แจ็ค เฮนดรี้, ไรอัน ปอร์เตอุส, แกรนท์ แฮนลี่ย์, แอนโธนี่ รอลสตัน, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, คัลลั่ม แม็คเกรเกอร์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอห์น แม็คกินน์, ไรอัน คริสตี้ และ เช อดัมส์ดู EURO 2024 ฟรีที่ทรูไอดี และเชียร์สนุกกว่า เมื่อดูผ่าน TVS Now package รับทรูพอยท์ และพบกับนักพากย์ชั้นนำระดับประเทศ ที่ชาวบอลคุ้นเคยtrueid://channel.trueid.net/a0pqla6xoeR4โดยตั้งแต่เริ่มเกมมาในช่วงแรกนะครับจะเห็นได้ชัดเลยว่าทางฝั่งของสกอตแลนด์ที่ว่ามาเพื่อเล่นตั้งรับและรอจังหวะสวนกลับ โดยพวกเขาแพ็กเกมรับแน่นหน้ากรอบสร้างปัญหาให้กับฝั่งเยอรมนีเหมือนกันในช่วงแรก แต่พอเวลาผ่านไปสักพักพวกเขาเริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ก็มีจังหวะที่น่าลุ้นไปส่งคำเตือนให้ฝั่งสกอตแลนด์บ้างเหมือนกัน และไม่นานครับประตูแรกก็เกิดขึ้นซึ่งแค่นาทีที่ 10 เท่านั้นเอง และเป็นเจ้าหนู จามาล มูเซียล่า ที่ก่อนเริ่มยูโรเจ้าตัวเองก็ถือเป็นนักเตะที่น่าจับตามองอีกคนในรายการนี้เลย ซัดเข้ามุมสุดสวยส่งให้เยอรมนีเจ้าภาพขึ้นนำไปก่อน 1-0หลังจากนั้นไปนานครับ เรียกได้ว่ายิ่งสร้างความฟินให้กับแฟนๆของเจ้าภาพเข้าไปอีกเมื่อทีมมาได้อีกประตู และคนที่ยิงประตูนี้ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่น่าจับตามองของทีมเช่นเดียวกันอย่าง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ซัดจากหน้ากรอบประตูโดยที่ผู้รักษาประตูปัดได้แล้วนะครับ แต่ว่าวิถีของบอลมันไม่พ้นกรอบประตูบอลพุ่งเบียดเสาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เยอรมนีนำห่างออกเป็น 2-0 และเกมก็ดำเนินไปเรื่อยๆนะครับโดยเป็นฝั่งเจ้าภาพที่ครองเกมได้เหนือกว่าบุกขึงเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว ทางฝั่งสกอตแลนด์เองก็ถือว่ามีได้ลุ้นบ้างจากจังหวะฟรีคิกได้เปิดบอลเข้าไปกดดันเกมรับของเยอรมนี แต่ก็ไม่ได้สร้างความอันตรายหรือความกดดันให้ทางฝั่งเจ้าภาพมากเท่าไหร่นักและแล้วจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมก็มาถึงนะครับ โดยในช่วงก่อนจบครึ่งแรกทีมชาติสกอตแลนด์มาเสียจุดโทษจากจังหวะที่ ไรอัน พอร์เทียส ไปเปิดปุ่มเข้าใส่ อิลคาย กุนโดกัน ในกรอบเขตโดทษโดยในจังหวะนี้ผู้ตัดสินยังไม่ได้ให้จุดโทษในทันทีนะครับ แต่สุดท้ายแล้วก็มีสัญญาณส่งมาจากVARว่ามีโอกาสที่จะเป็นจุดโทษให้ผู้ตัดสินไปดูจอด้วยตัวเอง และผู้ตัดสินก็เข้าไปดูไม่นานครับก่อนที่จะหันกลับมาเป่าจุดโทษให้ฝั่งเยอรมนี พร้อมทั้งแจกใบแดงให้ทางฝั่ง ไรอัน พอร์เทียส ไปแบบที่แฟนๆฟุตบอลต่างพากันอึ้งไปตามๆกันเลยทีเดียว (โดยจังหวะนี้ถ้าดูจากจังหวะที่เจ้าตัวหงายปุ่มเข้ามาใส่หน้าแข้งของ กุนโดกัน แล้วนั้นก็ถือว่าเป็นการเข้าบอลที่อันตรายเกินความจำเป็นจริงๆครับ เพราะฉะนั้นในจังหวะนี้ผมเลยมองว่าก็มีโอกาสที่จะเป็นใบแดงได้ ไม่ได้รู้สึกค้านการตัดสินในจังหวะนี้ของผู้ตัดสินแต่อย่างใด) ก่อนที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ จะรับหน้าที่สังหารจุดโทษครั้งนี้และยิงเข้าไปทำให้เจ้าภาพขึ้นนำเป็น 3-0 พร้อมตัวผู้เล่นที่มีมากกว่าเริ่มครึ่งหลังมาก็ถือว่าเกมเป็นไปตามที่คาดนะครับเยอรมนีครองบอลได้มากกว่า เดินหน้าบุกเข้าใส่โดยทางฝั่งสกอตแลนด์เองก็ลงไปตั้งรับซะส่วนใหญ่ด้วยความที่ตัวผู้เล่นเป็นรอง และในนาทีที่ 68 เยอรมนีก็มาได้เพิ่มอีก1ประตูจากตัวสำรองที่พึ่งลงมาอย่าง นิคคลัส ฟีลคลูค ที่ถือว่ายิงได้คมเอามากๆในจังหวะนี้ทำให้ทีมนำห่างขึ้นไปอีกเป็น 4-0 แต่ในขณะด้วยกันทางฝั่งสกอตแลนด์ก็มาได้ประตูปลอบใจไล่ขึ้นมาเป็น 4-1 จากบอลที่โหม่งไปแล้วไปแฉลบหัวของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เข้าประตูตัวเองไปแบบที่ปลุกใจแฟนบอลฝั่งสกอตแลนด์ให้ใจชื่นขึ้นมาได้นิดหน่อยเลยครับแต่ก็ถือว่าไม่เป็นปัญหาเลยนะครับโดยในนาทีที่ 90+2 พวกเขามาได้อีกประตูเป็น 5-1 จากลูกปั่นหน้ากรอบเขตโทษของ แอมเร ชาน ที่ก็ถือว่าลงมาเป็นตัวสำรองอีกหนึ่งคนซัดเบียดเสาเข้าประตูไป สุดท้ายผู้ตัดสินก็เป่าจบเกมนะครับเป็นชัยชนะของทางฝั่งเจ้าภาพเยอรมนี เป็นเกมเปิดที่สนุกและเอาใจแฟนบอลไม่น้อยเลยสมกับเป็นทีมอันดับต้นๆที่คาดว่าจะเป็นแชมป์ในรายการนี้ด้วยเหมือนกัน โดยทางฝั่งสกอตแลนด์บ้างนะครับผมมองว่าในช่วงต้นๆของเกมนั้นพวกเขาทำได้ดีเลย แพ็คเกมรับได้เหนียวแน่นทำเอาเยอรมนีหาช่องเจาะไม่ได้อยู่พักหนึ่งเลยเหมือนกัน แต่จุดเปลี่ยนหลักๆเลยก็คงจะไม่พ้นจังหวะจุดโทษพร้อมใบแดงในช่วงก่อนจบครึ่งแรกนั่นแหล่ะครับ ถือว่าเป็นอะไรที่ส่งผลโดยตรงเลยกับสภาพจิตใจและขวัญกำลังใจของทีม แต่ก็นี่พึ่งเกมแรกครับพวกเขายังมีเวลาให้ลุกขึ้นมาสู้ได้อีกครั้งในเกมต่อไป เป็นกำลังใจให้คัมแบ็คกลับมาให้ได้เหมือนกันครับ เครดิตรูปภาพภาพปก ภาพโดย : Germany Football Teamภาพที่ 1 ภาพโดย : UEFA EURO 2024ภาพที่ 2 ภาพโดย : UEFA EURO 2024ภาพที่ 3 ภาพโดย : UEFA EURO 2024ภาพที่ 4 ภาพโดย : UEFA EURO 2024ภาพที่ 5 ภาพโดย : UEFA EURO 2024ภาพที่ 6 ภาพโดย : UEFA EURO 2024ภาพที่ 7 ภาพโดย : Scotland National TeamCommunity ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์