ในสัปดาห์นี้ เมืองโตรอนโตแทบจะกลายเป็น “Blue City” อย่างแท้จริง เพราะ Toronto Blue Jays ไม่ได้แค่ไล่ล่าความฝันในเวที World Series เท่านั้น แต่พลังและบรรยากาศรอบทีมใน Game 6 มันมีบางอย่างที่พิเศษมากกว่าเกมกีฬา มันคือความศรัทธาที่ทั้งเมืองร่วมกันสร้างขึ้น เหมือน “เทศกาลแห่งความเชื่อ” ที่ทุกคนหยุดทุกอย่าง เพื่ออยู่ข้างทีมรัก ผมรู้สึกว่าปีนี้ Blue Jays มีบางอย่างที่แตกต่างออกไป ไม่ใช่แค่ฟอร์มในสนาม แต่คือพลังที่แผ่จากสนามสู่ท้องถนน จาก Rogers Centre สู่คาเฟ่ บาร์ และแผงขายของทั่วเมือง ทุกที่มีแต่เสียงพูดถึงทีมนี้ด้วยความหวัง มันทำให้ Toronto ดูเหมือนเมืองที่หายใจไปตามเสียงหวดไม้เบสบอลจริงๆ เมืองที่กลายเป็นสนามเหย้า ตอนนี้ในโตรอนโต ไม่มีมุมไหนที่ไม่พูดถึง Blue Jays แม้แต่คนที่ไม่ใช่แฟนเบสบอลยังรู้ว่าคืนวันศุกร์นี้สำคัญแค่ไหน เพราะ Game 6 ของ World Series จะตรงกับคืนฮาโลวีนพอดี คืนที่ทั้งเมืองพร้อมแต่งสีฟ้าแทนชุดแฟนซี รัฐบาลเมืองถึงกับสั่งปิดถนนรอบ Rogers Centre ตั้งแต่ Bremner Boulevard จนถึง Navy Wharf Court เพื่อรองรับแฟนบอลนับหมื่นที่จะหลั่งไหลมาทั้งเพื่อเข้าสนามและชมเกมผ่านจอยักษ์ตามจุดต่างๆ ทั่วเมือง ขบวนรถไฟใต้ดินและ GO Train ก็เพิ่มเที่ยวเป็นพิเศษหลังเกมจบ เรียกได้ว่าโตรอนโตทั้งเมืองพร้อม “ขยับ” ไปในจังหวะเดียวกันกับเกมนี้จริงๆ พลังแห่ง Game 6 ใครที่ติดตาม MLB จะรู้ดีว่า Game 6 มักเป็นเกมแห่งแรงกดดันสูงสุด มันคือจุดตัดระหว่าง “การปิดซีรีส์” หรือ “การลากเข้าสู่ Game 7” และไม่มีใครอยากให้ถึงจุดนั้น สำหรับ Blue Jays ที่ต้องเจอกับ Dodgers เกมนี้คือบทพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้มาถึงรอบนี้ด้วยโชค แต่เพราะ “สมควร” อยู่ตรงนี้จริงๆ ผมชอบที่ทีมชุดนี้ไม่ได้มีซูเปอร์สตาร์เต็มไปหมด แต่มีหัวใจนักสู้ในทุกตำแหน่ง ทั้ง Vladimir Guerrero Jr., Bo Bichette และ George Springer ต่างลงเล่นด้วยแววตาของคนที่รู้ว่าทุกสวิงอาจกลายเป็นประวัติศาสตร์ของเมือง เมืองที่หยุดเพื่อทีม สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือ โตรอนโตไม่ได้แค่ “เชียร์” Blue Jays แต่ทั้งเมือง “ร่วมมือ” เพื่อให้เกมนี้สมบูรณ์ที่สุด ทั้งการจัดระบบจราจร การอำนวยความสะดวกด้านขนส่ง และแม้แต่การออกประกาศให้แฟนบอลแต่งกายให้เหมาะสมในคืนฮาโลวีน ไม่มีหน้ากากหรือของมีคม เพื่อรักษาบรรยากาศแบบครอบครัวและความปลอดภัย นี่แหละภาพของเมืองที่รักทีมกีฬาอย่างสุดหัวใจ เมืองที่เข้าใจว่ากีฬาไม่ได้เป็นแค่ความบันเทิง แต่มันคือสิ่งที่เชื่อมผู้คนเข้าหากัน จุดรวมพลังของแฟน Blue Jays ถึงไม่มีตั๋วเข้าสนาม ก็ไม่ต้องกลัวพลาด เพราะทั่วโตรอนโตมี Watch Party เกือบทุกมุมเมือง ตั้งแต่ Scotiabank Arena ที่ MLSE จัดเต็มจอยักษ์และกิจกรรมแฟนโซน ไปจนถึงบาร์ดังอย่าง The Loose Moose, Real Sports Bar, Craft Beer Market และอีกหลายแห่งที่เต็มไปด้วยแฟนๆ ที่พร้อมส่งเสียงเชียร์จนสะเทือนทั้งเมือง มุมมองส่วนตัว สำหรับผมแล้ว Blue Jays ฤดูกาลนี้ไม่ใช่แค่ทีมกีฬา แต่เป็น “สัญลักษณ์ของความหวัง” ของโตรอนโต เมืองนี้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมามาก ทั้งเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลง และความเงียบเหงาที่เคยคลุมทั่วเมือง แต่ทีมนี้กลับจุดประกายให้ทุกคนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง คืน Game 6 ที่ตรงกับฮาโลวีนปีนี้ มันไม่ใช่แค่ “เกมชิงแชมป์” แต่มันคือ “พิธีแห่งความเชื่อ” ที่ทั้งเมืองพร้อมใจกันส่งพลังให้ทีมรักของพวกเขา และไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ผมว่าคืนนี้โตรอนโต “ชนะ” ไปแล้วในอีกแง่หนึ่ง เพราะพวกเขาได้แสดงให้เห็นว่ากีฬาไม่ใช่แค่เกม แต่มันคือเรื่องของผู้คน เมือง และความฝันที่พวกเขาเลือกจะเชื่อไปด้วยกัน สรุป: คืนนี้ Blue Jays จะลงสนามใน Game 6 ท่ามกลางแรงเชียร์ที่สะเทือนทั้งเมือง หากพวกเขาคว้าชัยได้ มันจะไม่ใช่เพียงชัยชนะของทีม แต่คือชัยชนะของโตรอนโตทั้งหมด เมืองที่ทั้งหัวใจเต้นไปพร้อมกับเสียงไม้กระทบลูกเบสบอล. รูปภาพปก 1 มาจาก Toronto Blue Jays :|: รูปภาพปกที่ 1 รูปภาพประกอบ 1 มาจาก Toronto Blue Jays :|: รูปภาพประกอบที่ 1 รูปภาพประกอบ 2 มาจาก Toronto Blue Jays :|: รูปภาพประกอบที่ 2 รูปภาพประกอบ 3 มาจาก Toronto Blue Jays :|: รูปภาพประกอบที่ 3 รูปภาพประกอบ 4 มาจาก Toronto Blue Jays :|: รูปภาพประกอบที่ 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !