ความอัปยศหนึ่งของการเป็นแฟนบอลคือการไม่ได้ดูทีมรักเล่นสด อุปกรณ์ดูการถ่ายทอดพร้อม แต่ด้วยภารกิจบางอย่างทำให้ผมต้องกลับมาดูแมทซ์นี้แบบย้อนหลังเฮ้อ..ผมนี่ได้แต่ถอนใจ ผลการแข่งขันออกมาว่าลิเวอร์พูลชนะบอร์นมัธ 3 - 1 โดยมี Luis Díaz , Salah , Jota 3 ประสานในแนวรุกผลัดกันยิงกันคนละตุง เสียดายที่ไม่ได้ดูสดก็ส่วนหนึ่งแต่ก็แอบดีใจเยอะอยู่ เพราะทีมสามารถเก็บสามแต้มแรกในฤดูกาลมาได้ ภาพในหัวของผมก็คือลิเวอร์พูลน่าจะครองบอลพับสนามบุก พวกเขาน่าจะโจมตีแบบบ้าคลั่งระห่ำแหลกต่อหน้าแฟนๆ แล้วก็มาผ่อนเกมทีหลังจนบังเอิญโดนยิงหนึ่งลูกตอนท้ายเกม จบเกมไปแบบไม่มีปัญหา มีแต่ความประทับใจฝังไว้ในแกนสมองขนมพร้อมน้ำอัดลมถืออยู่ในมือ แม้จะรู้ผลแล้วแต่ผมก็ยังไม่รู้รายละเอียดเกมนี่นา ว่าแล้วก็เลยตั้งใจดูสักหน่อยซึ่งนั่นล่ะครับที่ทำให้แกนสมองของผมถึงกับช้ำไปเลย! ภาพในหัวที่สวยงามขาดสะบั้นลงนับตั้งแต่เขี่ยบอลไปได้แค่ 55 วินาที! เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ คือตัวเอกของซีนนี้ ส่วนคนอื่นๆก็ตามมาสมทบกันอีกเพียบ ลิเวอร์พูลการละครกำลังฉายอะไรให้ผมดู แค่ Intro เรื่องยังสยองขวัญขนาดนี้ คนที่ดูสดเขาไม่เอาหมอนปิดหน้ากรีดร้องขอชีวิตกันเลยเหรอ? มาครับ มาดูกันว่าผมเห็นอะไรในเมทซ์ (ย้อนหลัง) นี้บ้าง 1. Trent Alexander-Arnold พลาด 2 จังหวะติด!เริ่มเกมมาได้แค่ 55 วิ บอลถูกสาดโด่งมาจากกลางสนาม เทรนด์ที่ตอนนั้นเล่นเป็นแบ็คขวาดันกะจังหวะบอลพลาด เขาคงต้องการจะยื่นเท้าไปดูดบอลลงอย่างสง่างาม แต่บอลเจ้ากรรมดันผิดเหลี่ยมมาโดนที่ปลายเท้าแทน ประกอบกับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่วันนี้ก็ดูแปลกๆ จะด้วยความไม่ไว้ใจรุ่นน้อง หรือเพราะได้กลิ่นอายแห่งความบรรลัยก็มิอาจทราบ แกถึงได้ปรี่ออกไปจะช่วยจนกลายเป็นการกั๊กจังหวะกันเอง ทำให้กองหน้าคู่แข่งเก็บส้มลูกนี้เข้าไปยิงแบบนิ่มๆ โชคดีที่ล้ำหน้าแต่เดชะบุญครับคุณผู้อ่าน! ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก เพราะหลังจากผ่านไปได้แค่ 1.40 นาที เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เจ้าเก่าก็เอาอีกแล้ว! เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนแกเปลี่ยนมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ตำแหน่งตรงนี้เคยเป็นจุดที่เทรนด์ทำได้ดีมากตามแท็คติกใหม่ของเจอร์เก้น คล็อปป์ แต่กับวันนี้วิกฤตการณ์ดันมาเบ่งบานที่แอนฟิลด์! เทรนด์จับบอลที่ถูกส่งมาโดยโรเบิร์ตสันไม่อยู่ บอลมันกระฉอกแรงอย่างน่าเกลียด เสียบอลตรงไหนก็ได้แต่ไม่ใช่หน้ากรอบเขตโทษตัวเอง ภาพตัดมาอีกทีฟานไดค์ก็วิ่งไปชนกับโรเบิร์ตสันที่จะลงมาซ้อน เกิดเป็นการดวลเดี่ยวระหว่างกองหน้าเก็บส้มของทีมคู่แข่งกับมือประตู แล้วก็ตู้มมมม! หนึ่งศูนย์! บอร์นมัธขึ้นนำชนิดที่ช็อคกันทั้งสนาม ช็อคทะลุจอออกมาถึงไมค์ผู้บรรยายเลยครับ!การพลาดของ เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ถือเป็นเรื่องปกติ เราเห็นมาหลายฤดูกาลแล้วว่าถ้าเขาพลาดเขาจะปล่อยจอย เขาจะยืนดูไม่ค่อยวิ่งไล่กลับมารับผิดชอบความชิบหายของตัวเองเท่าไหร่ ทว่าในตอนนั้นมันพลาดบริเวณริมเส้น เทรนด์พลาดในขณะที่ตัวเองเป็นแบ็คขวา มันยังมีโอกาสที่จะมีเซ็นเตอร์มาช่วยซ้อนได้ทัน แต่กับเคสนี้ในนาทีที่ 2 ของเกมแกดันมาพลาดตอนที่ตัวเองเป็นมิดฟิลด์ ความรับผิดชอบมันเป็นคนละเรื่อง! แล้วผลก็คือเสียประตู! บทบาทการหุบเข้ามาเป็นอินเวอร์สฟูลแบ็ค แท็คติกขั้นเทพชนิดนี้ช่างมีราคาค่างวดที่ต้องจ่ายมากมายเหลือเกินครับ.. 2. กระบวนท่า "ระบำกังหันลม" ไม่รู้ว่าคุณผู้อ่านเห็นเหมือนผมไหม แล้วก็ไม่รู้ว่าผู้บรรยายภาษาไทยได้พูดถึงสิ่งนี้บ้างรึเปล่า เพราะช่องย้อนหลังภาษาอังกฤษที่ผมดูเขาขำกับสิ่งนี้กันมาก นั่นก็คือจังหวะการเล่นลูกเตะมุมของทีมหงส์แดง ตัวผมเองก็เพิ่งเคยเห็นการจัดรูปแบบเข้าทำแบบนี้เหมือนกัน นั่นก็คือนักเตะลิเวอร์พูลจะเอาฟานไดค์มายืนค้ำตรงกลาง ส่วนนักเตะคนอื่นๆก็จะวิ่งวนทวนเข็มนาฬิกาล้อมตัวฟานไดค์เอาไว้ ลักษณะมันจะเหมือนกับกังหันลมเลย หรือไม่ก็เหมือนกับดอกไม้ที่มีนักเตะตัวใหญ่อย่างฟานไดค์เป็นเกสร ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็จะกลายเป็นกลีบดอก ทีนี้พอมาผนวกรวมเข้ากับแท็คติกการตั้งรับของบอร์นมัธที่ใช้การแมนมาร์ค ใครประกบกับใคร! ใครตามคนไหนก็ต้องตามให้สุด! ภาพที่ออกมาจึงเหมือนกับกังหันลมขนาดใหญ่สีแดงๆ ขาวๆ ฟ้าๆ หมุนติ้ว..ว..ว~~! แล้วก็ได้ผลด้วยนะครับ! เพราะมีจังหวะหนึ่งที่ฟานไดค์แกโถมโหม่งได้จริงๆ แต่เสียดายที่บอลดันเด้งไปชนคาน 3. Szoboszlai เงียบมากแต่เรียกจุดโทษได้อันนี้นับเฉพาะครึ่งแรกนะครับ เพราะเป็นเรื่องจริงที่ผมแทบจะไม่ได้ยินผู้บรรยายเรียกชื่อ "โซบอสซ์ไล" เลย แฟนบอลไทยบางคนถึงกับล้อแกว่า "สลบไสล" ไปแล้วก็มี เพราะแกเงียบมาก บางทีอาจจะเป็นเพราะการเตรียมทีมมาดีของบอร์นมัธด้วยก็ได้ พวกเขาไล่บอลเร็วเข้าถึงตัวตลอด ทำให้ผู้เล่นลิเวอร์พูลผิดพลาดกันเองหลายครั้ง (พลาดแม้กระทั่งมือประตู) แต่ก็นั่นล่ะครับ! พอเกมดำเนินผ่านไปสักพัก พอเริ่มจับจังหวะกันได้ โซบอสซ์ไลก็เริ่มฉายแสง เขาใช้สกิลส่วนตัวแหวกฝ่าแนวกองหลังเข้าไปถึงกรอบเขตโทษก่อนจะโดนเตะสกัดล้มลง ด้วยความสัตย์จริงพริบตาแรกผมคิดว่าแกพุ่ง! แล้วก็พุ่งแบบโคตรจะไม่เนียนด้วย สองขาพับไปด้านหลังราวกับจะกระโดดน้ำในสระโอลิมปิค กรรมการเป่าปี๊ดดดด!!! "เอาแล้ว..ใบเหลืองชัวร์" ผมคิดในใจ แต่ก็คิดผิดเพราะกรรมการดันเป่าให้จุดโทษเฉยซึ่งพอไปดูภาพช้าใน VAR เราก็จะเห็นเลยว่าขาของโซบอสซ์ไลมีการถูกขัดจริงๆ มีการเจตนากีดขวางการเล่นเกิดขึ้น การสกัดนั้นไม่โดนลูกบอล องค์ประกอบทุกอย่างจึงชี้ว่าเป็นจุดโทษ แล้วกรรมการก็เลยเป่า แต่ที่ผมติดใจคือทำไมท่าล้มแกมันไม่สวยเอาซะเลย! ทำไมโซบอสซ์ไลถึงล้มได้อย่างไร้ศิลปะ แต่ก่อนทีมลิเวอร์พูลเคยมีโค้ชทุ่มไกลใช่ไหมครับ? แล้วผมก็เคยเห็นในม้านั่งสำรองจะมีทีมสตาร์ฟที่เป็นผู้หญิงอยู่ด้วย ผมล่ะอยากจะให้เจอร์เก้น คล็อปป์ รู้จักกับครูเงาะบ้านเราซะจริงๆ เรียนแอ็คติ้งเพิ่มสักนิดฝึกการแสดงเพิ่มสักหน่อย รับรองล้มทีไรจุดโทษเป่าง่ายไม่ต้องง้อ VAR (ปล. แซวเล่นนะครับอย่าดราม่ากันเน้อ แต่พี่โซบอสซ์ไลนี่คือหล่อจริง หล่อแบบนี้ไม่ให้คิดถึงดาราได้ไง) 4. ใบแดงโดยตรงของ Alexis Mac Allisterแดงจากสองเหลืองแบน 1 นัด แต่ถ้าแดงโดยตรงจะถูกแบนถึง 3 นัด และนี่ล่ะครับที่เขาเรียกว่าหายนะขนานแท้! ผมไม่รู้ว่าสามนัดถัดไปลิเวอร์พูลจะต้องเจอกับใครบ้าง แต่ที่รู้คือลิเวอร์พูลยุคนี้ฝากทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับแม็คอลิสเตอร์! หลักฐานก็คือการเร่งคว้าตัวเขาเข้าสู่ทีมตั้งแต่เนิ่นๆ รีบซื้อ , รีบปิดดิลให้เร็ว , รีบฉีกสัญญาให้มันจบๆ จะได้เอาตัวมาซ้อมให้เข้ากับระบบทีมตั้งแต่ช่วงพรีซีซั่น และจากแมทซ์การแข่งขันที่ผ่านมา เราก็ล้วนแต่เห็นแล้วว่าบอลต้องขึ้นที่เขาแทบทั้งสิ้นบอกตามตรงครับการโดนแบน 3 นัดแบบนี้ทำให้ผมคิดถึงใบแดงของ "ดาร์วิน นูนเญซ" เมื่อฤดูกาลก่อนเลย ณ ตอนนั้นศูนย์หน้าชาวอุรุกวัยกำลังมั่นใจ เขากำลังเริ่มที่จะยิงได้ กำลังเล่นเข้าขากับเพื่อนๆ แถมระบบทุกอย่างก็ออกแบบมาเพื่อป้อนให้เขาเป็นผู้ทำประตู แต่พอเจ้าตัวไปน็อตหลุดเฮดบัดใส่คู่แข่ง ทุกสิ่งก็พังทลายลงไป! ทีมเหมือนสูญเสียเสาหลัก! แผนการเล่นทุกอย่างต้องเปลี่ยนใหม่หมด ทำให้จากรถที่จะวิ่งฉิวต้องวกกลับมาเข้าอู่ใหม่ ต้องจูนเครื่องกันใหม่ เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา แล้วก็ตลกร้ายสุดๆครับคุณผู้อ่าน! เพราะจวบจนป่านนี้ดาร์วิน นูนเญซก็ยังกลับมายึดตัวจริงในทีมไม่ได้อีกเลย! ทีนี้ทุกคนเห็นอิทธิฤทธิ์ของใบแดงโดยตรงกันรึยังครับ?เหมือนเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ผมเห็นใบแดงของแม็คอลิสเตอร์เป็นแบบนั้นจริงๆครับ ทุกอย่างเหมือนเดจาวูกลับมาหมด ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าในทีมมีใครที่จะเล่นแทนเขาได้ เอ็นโดะก็เพิ่งย้ายมา แถมยังเน้นแต่เกมรับพาบอลขึ้นหน้าไม่ได้ , เคอร์ติสโจนส์ก็เจ็บแต่ต่อให้ไม่เจ็บก็ไม่ค่อยจะเก่งเท่าไหร่ , เอลเลียตก็เด็กเกินไปแถมนัดล่าสุดก็ฟอร์มไม่ค่อยจะโสภา ไม่น่าจะแบกความผิดพลาดที่เกิดจากเทรนด์ อาโนลด์ได้ , ธิอาโก้ก็ไม่รู้ว่าหายรึยัง ฯลฯ จะเห็นว่าความกังวลนี่เต็มไปหมด รู้ว่าปัญหามีไว้ให้แก้ครับ แต่ก็ไม่คิดว่าปัญหาจะมาไวและเหมือนกับปีที่แล้วขนาดนี้ 5. Szoboszlai โชว์ลูกยิงไกล!การยิงไกลอาวุธไม้ตายก้นหีบของโซบอสซ์ไล เรียกได้ว่าถูกงัดออกมาใช้ได้ถูกที่ถูกเวลามากๆ เนื่องจากทีมกำลังเสียเปรียบตัวผู้เล่น พอคนน้อยกว่าไอ้ครั้นจะทำชิ่งต่อบอลเจาะเข้าไปก็เป็นเรื่องยาก การวิ่งมาตะบันเต็มข้อจากนอกกรอบนี่แหละจึงเหมาะสมที่สุด บอลพุ่งแหวกอากาศแฉลบกองหลังบอร์นมัธเล็กน้อย แต่ก็มากพอที่จะทำให้มือประตูต้องปัด แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับโจวต้าที่วิ่งเข้ามาจบงาน ด้วยการตวัดบอลเข้าประตูไป กลายเป็นว่าลิเวอร์พูลขึ้นนำ 3 -1 ทั้งที่มีผู้เล่นน้อยกว่าเฉยเลย น้อยครั้งนะครับที่จะมีเหตุการณ์แบบนี้ในโลกฟุตบอล เพราะปกติทีมที่เสียเปรียบตัวผู้เล่นก็มักจะตั้งรับเพื่อรักษาสกอร์มากกว่า ลูกยิงไกลของโซบอสซ์ไลเลยทำให้ทีมเล่นง่ายขึ้นเยอะ เพราะถ้าสกอร์ยังเป็น 2 - 1 อยู่ล่ะก็ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าแผงกองหลังเราอุดไม่อยู่แน่ ต้องขอบคุณนักเตะใหม่รายนี้เลย ฝีเท้าเขาดูจะหล่อพอๆกับหน้าตา 6. เปิดตัว Wataru Endo กลางรับตัวใหม่ถือเป็นการ Debut เปิดตัวที่เซอร์ไพรต์พอสมควร ลึกๆผมคิดว่าถ้าแม็คอลิสเตอร์ไม่โดนไล่ออกเอ็นโดะก็คงยังไม่น่าจะได้ลง เพราะแกเพิ่งมาถึงอังกฤษเมื่อวานนี้เอง แกจะได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมสักเท่าไหร่กัน เผินๆรองเท้าสตั๊ดแกยังย่ำหญ้าที่สนามซ้อม AXA Training Centre ไม่ทั่วเลยด้วยซ้ำ ทว่าสถานการณ์ย่อมสร้างวีระบุรุษ ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปที่ตัวรับชาวอาทิตย์อุทัยรายนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว สิ่งแรกที่ผมประทับใจก็คือช่วงขาของแกที่สั้นแต่ซอยเท้าได้เร็วมาก! รูปร่างปราดเปรียวคล่องแคล่วเหมือนตัวการ์ตูน มิหนำซ้ำลงไปปุ๊บก็โชว์การอ่านเกมก่อนเลย ผมเห็นเอ็นโดะควบทะยานเข้าตัดบอลก่อนจะถึงเท้าของคู่แข่ง ก่อนจะทำการป้ายบอลต่อให้เพื่อน หลังจากนั้นแกก็วิ่งซอยยิกๆๆๆเติมขึ้นไปเพื่อรับบอลต่อ แล้วก็แทงต่อให้โจวต้าหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษอีกที แม้ภาพช้าจะบอกว่าส่งช้าไปนิดนึงจนล้ำหน้าก็ตาม แต่สำหรับแฟนบอลแล้วบอกเลยว่าฟิน!แต่ความจริงก็คือความจริงครับคุณผู้อ่าน เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเอ็นโดะแกเพิ่งมา ช็อตหลังจากนั้นจึงเต็มไปด้วยความผิดพลาด ผมว่าแกช้าไปจังหวะหนึ่ง แล้วเราก็ได้เห็นการทำฟาล์วจากแกค่อนข้างบ่อย มีจังหวะหนึ่งพี่แกดันไปเตะข้อเท้าคู่แข่งที่หน้ากรอบเขตโทษตัวเองจนเสียฟรีคิกในระยะอันตราย แล้วก็มีอีกจังหวะที่ผู้เล่นบอร์นมัธหลุดเข้ามาถึงเส้นหลัง เอ็นโดะรีบทิ้งพื้นที่ตัวเองเพื่อจะเข้าไปบล็อค แต่ก็โดนเปิดบอลสวนกลับออกมาได้ แล้วก็กลายเป็นผู้เล่นบอร์นมัธอีกคนที่ได้ยืนยิงแบบโล่งๆ (เพราะเอ็นโดะออกจากตำแหน่งตัวเอง) เดชะบุญที่บอลลูกนั้นเหินข้ามคานออกไป อีกประเด็นก็เห็นจะเป็นการกระโดดโหม่ง ผมมีโอกาสได้ดูสถิติมาบ้างและตัวเลขมันก็บอกว่า เอ็นโดะเอาชนะลูกกลางอากาศได้ด้วยเปอร์เช็นต์ระดับสูง ในแมทซ์นี้ผมเลยได้เห็นกับตาตัวเองครับว่าเขาโหม่งบอลเก่งจริงๆ กระโดดสูงมาก กระโดดโหม่งอยู่คนเดียวด้วย แต่วิถีของบอลที่เคลียร์ออกไปนี่สิที่ดันมาตกอยู่หน้ากรอบเขตโทษตัวเอง คู่แข่งเขาเก็บบอลได้โดนยิงสวนไป 2 - 3 ทีอยู่เหมือนกัน โดยสรุปผมว่าแกมีแววดีอยู่ แต่ขอเวลาให้แกได้ซ้อมอีกสักนิดทำความเข้าใจกับเพื่อนอีกสักหน่อย จะวิจารณ์แกตอนนี้ยังเร็วเกินไปมันไม่แฟร์กับเอ็นโดะแก ย่อหน้าสุดท้ายแล้วครับคุณผู้อ่าน พิมพ์ยาวขนาดนี้จะมีคนอ่านมาถึงตรงนี้ไหมก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าถ้าผมได้ดูแมทซ์ย้อนหลังมันก็จะประมาณนี้ล่ะครับ ผมจะดูแบบไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่เพราะผมรู้ผลการแข่งมาแล้ว กลับกันถ้าแมทซ์นี้ผมดูสดผมก็คงมีหนาวๆร้อนๆมีหัวร้อนหงุดหงิดไม่ต่างจากทุกท่าน เพราะรูปเกมมันพลิกผันไปมาอย่างกับนั่งรถไฟเหาะ โดยสรุปแล้วสิ่งที่ได้จากแมทซ์นี้คือ "แมทซ์หน้ามึงจะยากกว่านี้อีก!" การเล่นโดยไม่มีแม็คอลิสเตอร์คือการวัดกึ๋นเจอร์เก้น คล็อปป์ โคตรโค้ชของเราแบบเต็มๆ มันคือจุดพลิกผันของฤูดูกาลได้เลย จะสตาร์ทติดวิ่งฉิวไปยาวๆหรือตะกุกตะกักสำลักน้ำมันตัวเอง เครื่องจักรสีแดงจะเป็นเครื่องเบนซินหรือโซล่า 3 นัดหลังจากนี้จะออกหมู่หรือจ่า เป็นสิ่งที่น่าตั้งตาดูแบบสดๆ เหลือเกินครับ เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก (1) จาก FB : Liverpool FCภาพหน้าปก (2) จาก FB : Liverpool FCภาพที่ 1 จาก FB : Liverpool FCภาพที่ 2 จาก FB : Liverpool FCภาพที่ 3 : ผู้เขียนวาดเอง มีภาพเดียวในโลกไม่มีลิขสิทธิ์ที่ไหนหรอกครับภาพที่ 4 จาก FB : Liverpool FCภาพที่ 5 จาก FB : Liverpool FCภาพที่ 6 จาก FB : Liverpool FCภาพที่ 7 จาก FB : Liverpool FCส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !