น้องเทนนิส พาณิภัควงศ์พัฒนกิจ ขึ้นชื่อมาแบบนี้ภาพในหัวของทุกท่านคงหนีไม่พ้น หญิงสาวร่างบางขายาว ที่สามารถยกเท้าเตะหัวผู้ชายตัวสูง ๆ โดยใช้เพียงการเขย่ง ภาพของการยืนบนโพเดียมแล้วโน้มตัวรับเหรียญรางวัลครั้งแล้วครั้งเล่า ไล่มาตั้งแต่กีฬามหาลัยไปถึงแชมป์โอลิมปิก แต่สิ่งที่ผมกำลังจะสื่อคือ วันนี้เวทีของน้องเทนนิสนักเทควันโดขวัญใจชาวไทย ได้เริ่มต้นใหม่กับอีกหนึ่งสังเวียนแล้วครับ นั่นคือการเข้าสู่ประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่ม “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี หลายคนที่ตามข่าวคงจิกหมอนแตก ไปกับความชื่มมื่นและร่วมยินดีกับคู่บ่าวสาวที่ The Venue Villa de Bua ย่านบางเขน ไปแล้ว บรรยากาศในงานนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มเสียงหัวเราะ และความประทับใจจากคนใกล้ชิด เรียกได้ว่า Lucky in Love & Lucky in Game โดยแท้ และบทความนี้ผมเองก็อยากจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในนั้นครับ เขาไม่ได้เชิญหรอกแต่อยากมีส่วนร่วม ก็ขนาดทุกครั้งที่น้องเทนนิสแข่ง ผมยังแหกปากกระโดดเตะโทรทัศน์ช่วยน้องเลย ว่าแล้วเราก็มาดูกันดีกว่าครับ ว่าจากสนามเทควันโดทรงแปดเหลี่ยม หนุ่มสาวคู่นี้เขาเปลี่ยนมันให้กลายเป็นสี่เหลียมกรอบประตูวิวาห์ไปได้ยังไง 1. จากเวทีแข่งขันสู่เวทีชีวิต กีฬาเทควันโดเป็นกีฬาของการต่อสู้ ภาพลักษณ์ของกีฬาชนิดนี้เต็มไปด้วยความรุนแรง ระหว่างการแข่งขันผู้เล่นก็จะกรีดร้องคำรามเพื่อเรียกจังหวะหรือเรียกความมั่นใจ มิหนำซ้ำตามเนื้อตัวของนักกีฬายังเต็มไปด้วยบาดแผลฟกช้ำ เลือดตกยางออก เรียกได้ว่าห่างไกลจากความรักสวยรักงามของสตรีเพศเป็นอย่างมาก ตลอดชีวิตการแข่งผมไม่แน่ใจว่าน้องเทนนิสเคยได้ที่สองหรือที่สามบ้างรึเปล่า แต่การที่ จูเนียร์ รามณรงค์ มองข้ามทุกสรรพสิ่ง และผลักดันตัวเองจนก้าวขึ้นไปยืนเคียงคู่กับ น้องเทนนิส บนตำแหน่งที่หนึ่งของโพเดียมได้ ก็คงไม่ต่างจากการ "คว้าเหรียญทองของหัวใจ" เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาคลิกกันและดูเหมาะสมกันสุด ๆ 2. คู่รักนักสู้ จูเนียร์ รามณรงค์ กับ น้องเทนนิส พาณิภัค เป็นนักเทควันโดกันทั้งคู่ เวลาพูดถึงนักกีฬาประเด็นในเรื่องของระเบียบวินัยดูจะเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญสูงสุด โดยเฉพาะนักกีฬาอาชีพยิ่งต้องควบคุมกันอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นตารางการฝึกซ้อมที่แน่นขนัด การกินอาหารที่จะเผลอให้มีสารต้องห้ามในร่างกายไม่ได้ การควบคุมน้ำหนักตัวที่แสนจะทรมาน รวมไปถึงเรื่องชีวิตส่วนตัวที่จะเข้ามาว่อกแว่กทำให้เสียสมาธิในการซ้อมไม่ได้เป็นอันขาด จะเห็นว่ามันยากมากนะครับกับการคบกันของคนคู่นี้ แต่ครานั้นผมก็ยังคิดว่าตัวกีฬาเองก็มีแง่งามอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือพาร์ทของการให้กำลังใจ ผมไม่รู้ว่า จูเนียร์ กับ เทนนิส ไปรักกันต่อนไหน แต่ผมมั่นใจว่าพวกเขาต้องมอบ "กำลังใจ" ให้แก่กันไม่ขาดอย่างแน่นอน 3. บรรยากาศงานแต่งสไตล์นักกีฬา คราวนี้มาพูดถึงบรรยากาศงานแต่งกันหน่อย ผมไม่ได้ไปหรอกครับแต่ใช้ดูรูปเอาเหอะ ๆ เอาเป็นว่าพิธีดำเนินไปด้วยความเรียบง่ายแต่โรแมนติก เจ้าบ่าวและเจ้าสาวอยู่ในชุดไทยประยุกต์โทนสีขาวและชมพูอ่อน ทำให้ลุคดูสง่างามและสะท้อนความอบอุ่นอย่างลงตัว บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มเสียงหัวเราะ มีทั้งญาติผู้ใหญ่จากสองฝ่ายอาทิ คุณสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ (บิดาของเจ้าสาว) และ คุณรณยุทธ เสวกวิหารี กับ คุณพัชรี สกุลเผือก (บิดาและมารดาของเจ้าบ่าว) ร่วมอยู่ในพิธีด้วยความอบอุ่น แต่ผมว่าบางทีอาจจะดูเป็นทางการไปหน่อย เพราะถ้าเป็นผมนะนักเทควันโดแต่งกันทั้งที มันต้องมี โค้ชเช มาใช้สิทธิขอชาเลจ์ (Challenge) ด้วย ต้องมีการดึงภาพช้าขึ้นมาหลาย ๆ มุม เพื่อให้แขกหรื่อในงานรู้ว่าคู่รักคู่นี้เขาไปรักกันตอนไหน แล้วนั่นจะกลายเป็น VDO พรีเซ้นท์เทชั่นที่เท่ห์สุด ๆ ไปเลยล่ะครับ 4. แม้จะพลาดท่าในบางวัน แต่ก็ยืนขึ้นสู้ต่อเหมือนในสนาม หัวข้อสุดท้ายไม่อยากพูดถึงเลยครับ แต่นั่นก็คือความจริงที่ทุกชีวิตคู่ในโลกใบนี้ต้องเจอ ลิ้นกับฟันกระแทกกระทั้นกันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีทางเลยที่คนสองคนอยู่ด้วยกันแล้วจะไม่ทะเลาะ อื้อหือ! จินตนาการนักเทควันโดทะเลาะกันดูสิครับ แล้วฝั่งผู้หญิงนี่แชมป์โอลิมปิก 2 เหรียญทองเชียวนะเออ! ผมจึงคิดว่าอย่างน้อย จูเนียร์ รามณรงค์ ก็เป็นเจ้าบ่าวที่หมาะ แกอาจจะไม่ถึงระดับโอลิมปิกแต่สกิลการป้องกันตัวและเคาท์เตอร์กลับ แกต้องดีกว่าผู้ชายส่วนใหญ่ในเมืองมนุษย์แน่เหอะ ๆ แต่อันนั้นล้อเล่นครับ เอาจริง ๆ คือ ผมอยากให้ทุกคนคิดถึงวันที่อะไร ๆ ก็ไม่ได้ดั่งใจ วันที่พยายามแทบตายแต่ก็ยังล้มเหลว สิ่งนี้ไม่ต่างจากการแข่งขันกีฬาเลย เพราะกีฬามีวันที่แพ้และชนะ แล้วใครจะเข้าใจสัจธรรมเรื่องนี้ได้เท่ากับนักกีฬาอาชีพอย่าง 2 คนนี้ได้อีกล่ะครับ สรุปสุดท้าย ถึงตรงนี้ไม่มีอะไรจะกล่าวนอกจากขอแสดงความยินดีกับ น้องเทนนิส พาณิภัค กับ จูเนียร์ รามณรงค์ ทั้ง 2 คนคือแบบอย่างที่ดีที่ไม่มีแม้แต่รอยด่างพร้อย แรงบันดาลใจและพลังบวกมากมายผุดลอยออกมาจากคนทั้งคู่ พวกเขาสร้างความสุขให้กับคนทั้งชาติ ทุกครั้งที่มีการแข่งขัน พวกเราจะรักและสามัคคีกันในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และวันนี้แม้บทบาทจะเปลี่ยนไป เราคงไม่ได้เห็น น้องเทนนิส กระโดดเตะหัวฝรั่งอีกแล้ว แต่ก็ดีใจกับน้องครับที่น้องได้เปลี่ยน "ศิลปะการป้องกันตัว" ให้กลายเป็น "ศิลปะแห่งความรัก" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ เครดิตรูปภาพ ภาพหน้าปก จาก IG : panipak2540 รูปที่ 1 จาก IG : panipak2540 รูปที่ 2 จาก IG : panipak2540 รูปที่ 3 จาก IG : panipak2540 รูปที่ 4 จาก IG : panipak2540 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !