เครดิตภาพปกจาก : https://sport.trueid.net/detail/dBYwqjEYlDJk จนถึงวันนี้ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษถูกโจมตีโดยไวรัสโควิด-19 จนต้องพักการแข่งขันนานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว โดยคู่สุดท้ายที่ลงเล่นคือเกมที่ เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดคิงพาวเวอร์สเตเดี้ยม ไล่ถล่มผู้มาเยือนจากมิดแลนด์อย่าง แอสตัน วิลล่า ไปขาดลอย 4-0 เมื่อ 9 มีนาคม หลังจากนั้นเอฟเอและพรีเมียร์ลีกก็ได้สั่งเลื่อนเกมการแข่งขันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสในสหราชอาณาจักรยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีข้อสรุปถึงการตัดสินใจว่าฤดูกาลปัจจุบันจะได้กลับมาลงเล่นเมื่อไร หรืออาจต้องยกเลิกการแข่งขันหากยังไม่สามารถควบคุมการติดเชื้อไวรัสลงได้ แต่หลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกก็เริ่มมองถึงการปรับปรุงทีมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงเล่นฤดูกาลหน้าแล้ว หนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่เจ้าของแชมป์ลีกสูงสุด 20 สมัย หากแต่ต้องร้างลาถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกมานานกว่า 7 ปี นับจากที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ จากผลงานที่ไม่คงเส้นคงวา แม้จะอยู่ในอันดับ 5 ของตารางคะแนนล่าสุด แต่แต้มที่เหนือกว่า วูล์ฟแฮมป์ตัน และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เพียง 2 คะแนน นั่นทำให้โอกาสในการคว้าตั๋วไปเล่นบอลยุโรปฤดูกาลหน้าของปีศาจแดงยังคงไม่น่าวางใจ ส่วนหนึ่งเป็นความรับผิดชอบของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แต่บอร์ดบริหารนำโดย เอ๊ด วู้ดเวิร์ด Executive vice-chairman ผู้ซึ่งมีหน้าที่ดูแลในส่วนของการซื้อขายผู้เล่นของสโมสรโดยตรง ก็ควรต้องน้อบรับคำก่นด่าจากแฟนบอลเช่นกัน หลังจากที่ไม่สามารถเสริมทีมได้อย่างที่แฟนบอลคาดหวังไว้ นั่นจึงทำให้เขาต้องแก้ตัวในซัมเมอร์นี้ หากหวังให้ทีมกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง และนี่คือรายชื่อนักเตะที่ถูกเชื่อมโยงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และมีโอกาสย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ฤดูกาลหน้า ดีน เฮนเดอร์สัน (ผู้รักษาประตู : เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมตัวจาก แมนฯ ยูไนเต็ด) แม้ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ทำผลงานได้น่าพอใจให้กับทีมในฤดูกาลนี้ แต่ก็มีเสียงเรียกร้องจากแฟนบอลจำนวนไม่น้อยให้ทีมดึงตัว ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่ปล่อยให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมตัวกลับมาสู่ทีมในฤดูกาลหน้า หลังจากเจ้าหนูดีนโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมแม้เป็นเพียงฤดูกาลแรกของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีก แต่ก็เป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีมน้องใหม่ทำผลงานบินสูงอยู่ในอันดับ 7 ของตาราง และมีลุ้นไปเล่นบอลสโมสรยุโรปฤดูกาลหน้าอีกด้วย เฮนเดอร์สัน ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไป 27 นัด เก็บได้ถึง 10 คลีนชีท เท่ากับ อลิสซอน เบคเกอร์ และ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เป็นรองเพียง นิค โป๊ป ของ เบิร์นลี่ย์ ที่เก็บไป 11 คลีนชีท เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วน เด เคอา ลงเล่น 29 นัด มีเพียง 8 คลีนชีท นัดเดียวในลีกฤดูกาลนี้ที่ เฮนเดอร์สัน ไม่ได้ลงสนาม คือเกมที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดที่แท้จริงของเขาไปอย่างดุเดือด 3-3 ซึ่งไม่แน่ว่าหากทีมดาบคู่มี เฮนเดอร์สัน อยู่ในสนาม พวกเขาอาจมีมากกว่า 1 คะแนนก็เป็นได้ คาลิดู คูลิบาลี่ (เซ็นเตอร์แบ็ก : นาโปลี) จริง ๆ แล้ว ชื่อของ คาลิดู คูลิบาลี่ ปราการหลังตัวแกร่งของ นาโปลี นั้นถูกเชื่อมโยงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ซัมเมอร์ 2019 แล้ว แต่สุดท้ายด้วยค่าตัวมหาโหดที่ทาง ออเรลิโอ เด ลอเรนติส เจ้าของ นาโปลี ตั้งไว้ ทำให้ทีมปีศาจแดงต้องหันไปคว้าตัว แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังจาก เลสเตอร์ ซิตี้ จนกลายเป็นสถิติกองหลังที่แพงที่สุดในโลกแทน แม้จะพลาดหวังมาทั้งในตลาดซัมเมอร์ 2019 และตลาดหน้าหนาวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ทีมงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังติดตามดูฟอร์มของ คูลิบาลี่ อย่างใกล้ชิด และโอกาสที่จะดึงตัวกองหลังตัวเก่งชาวเซเนกัลคนนี้มาจาก นาโปลี ด้วยค่าตัวที่ลดลงจากซัมเมอร์ก่อนก็มีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะอายุของเจ้าตัวที่ใกล้จะครบ 29 ปี รวมทั้งวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ทีมจากอิตาลีได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า จนอาจต้องยอมปล่อยดาวดังของทีมเพื่อนำเงินมาจุนเจือสโมสรต่อไป คูลิบาลี่ มีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง รวมทั้งความแม่นยำในการจ่ายบอล เขามีสถิติจ่ายบอลสำเร็จ 89.3% จากการลงเล่นเซเรีย อา 15 นัดในฤดูกาลนี้ รวมทั้งชนะในการดวลกลางอากาศเฉลี่ย 2.3 ครั้งต่อเกม ซึ่งหากได้มาจับคู่กับ แม็คไกวร์ ที่มีสถิติจ่ายบอลสำเร็จ 85.2% ดวลกลางอากาศชนะเฉลี่ย 4.7 ครั้งต่อเกม และเคลียร์บอลเฉลี่ย 4.6 ครั้งต่อเกม น่าจะทำให้เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด เหนียวแน่นขึ้นมากทีเดียว จาดอน ซานโช่ (กองกลางตัวรุก : โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์) นี่คือนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในบุนเดสลีกาฤดูกาลปัจจุบัน ด้วยผลงาน 14 ประตู 15 แอสซิสต์ (ซานโช่ เป็นนักเตะคนเดียวในลีกเยอรมนี ที่ทั้งยิงและจ่ายได้ถึงเลข 2 หลัก และเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำได้จากนักเตะใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป) จากฤดูกาลก่อนที่เขาทำผลงานได้ดีจนเป็นที่รู้จักของแฟนบอลในวงกว้าง มาถึงฤดูกาลนี้เขาก็ตอกย้ำให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมที่เขามี ด้วยวัยเพียง 20 ปี เขาสามารถขึ้นมาเป็นนักเตะตัวรุกที่สำคัญที่สุดของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปแล้ว ซานโช่ เป็นที่ต้องการของเหล่ายอดทีมชั้นนำในยุโรป ไม่เพียงแต่ แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้น ทั้ง เชลซี, ลิเวอร์พูล, รีล มาดริด รวมถึง บาร์เซโลน่า ต่างก็ต้องการเด็กคนนี้มาร่วมทีม แต่เหมือนมีแค่ 2 ทีมที่มีโอกาสได้ลายเซ็นของ ซานโช่ ไปครอบครอง คือ แมนฯ ยูไนเต็ด และ รีล มาดริด ซึ่งปีศาจแดงก็มีภาษีดีกว่า ทั้งความพร้อมในการทุ่มซื้อตัวมาเป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก ทั้งการได้กลับมาเล่นในเมืองแมนเชสเตอร์อีกครั้ง และหาก ซานโช่ ย้ายมาจริง เบอร์ 7 ที่ตำนานหลายคนของทีมเคยใส่ ก็จะตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน เพราะเจ้าของคนปัจจุบันอย่าง อเล็กซิส ซานเชส อาจโดนปล่อยตัวออกไปหลังจบฤดูกาลนี้ก็เป็นได้ แฮร์รี่ เคน (กองหน้า : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) จู่ ๆ กระแสการย้ายทีมของ แฮร์รี่ เคน ก็ประทุขึ้นมาในสัปดาห์ก่อน หลังจากมีข่าวว่า แดเนี่ยล เลวี่ ประธานของทีมไก่เดือยทองไม่พอใจบทสัมภาษณ์ของยอดกองหน้าทีมชาติอังกฤษที่กล่าวใน IG ส่วนตัวว่า ตัวเขาเองอาจจะพิจารณาถึงการย้ายออกจาก สเปอร์ส หากหวังถึงความสำเร็จที่จับต้องได้ รวมทั้งเรื่องที่ว่า พรีเมียร์ลีกควรถูกตัดจบฤดูกาลไปเลย หากยังไม่สามารถกลับมาเล่นกันได้ภายในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นความต้องการที่สวนทางกับ เลวี่ ที่หวังให้ฤดูกาลกลับมาลงเล่นกันต่อ เนื่องจากหนี้สินที่สโมสรต้องแบกรับอยู่ในขณะนี้ จากทั้งการสร้างสนามใหม่และการเสริมทัพในปีที่ผ่านมา หากพรีเมียร์ลีกในปีนี้ถูกยกเลิกไปรายได้ที่ทีมจะได้รับก็จะหายไปมหาศาล แต่ค่าตัวที่ เลวี่ ตั้งไว้สูงเป็นสถิติโลกถึง 200 ล้านปอนด์ ย่อมเป็นปัญหาใหญ่หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการ เคน มาร่วมทีมอย่างจริงจัง รวมถึงคู่แข่งในการแย่งซื้อตัวอย่าง รีล มาดริด ก็เป็นเรื่องชวนปวดหัวของทีมปีศาจแดงเช่นกัน แต่หากคิดในกรณีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตัว เคน มาจริง เขาจะเพิ่มความอันตายให้เกมบุกของทีมอย่างแน่นอน นับตั้งแต่ แฮร์รี่ เคน ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกให้กับ สเปอร์ส ในปี 2012/13 เขายิงไปแล้วเกือบ 140 ประตูในลีก หากจะหากองหน้าสักคนที่ย้ายมาแล้วแทบไม่ต้องปรับตัว เคน น่าจะเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด และน่าจะทำให้แฟนบอลของปีศาจแดงชื่นชอบไม่ต่างไปจาก เท็ดดี้ เชอริ่งแฮม, ไมเคิล คาร์ริค รวมถึง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีต 3 ดาวเตะที่ย้ายมาจาก สเปอร์ส นั่นเอง ภาพประกอบจาก Sport.True-ID ภาพที่1/ ภาพที่2/ ภาพที่3/ ภาพที่4/ ภาพที่5