หลายปัจจัย!! เปิดแผล ช้างศึก เหตุใดถึงชวดคว้าทอง ซีเกมส์ อย่างน่าเสียดาย
เปิดเหตุผลสำคัญ เหตุใด ทีมลูกหนังไทย ถึงชวดคว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ อย่างน่าเสียดาย
สุดท้ายแล้ว "ช้างศึก" ทีมฟุตบอล ทีมชาติไทย ก็ไม่สามารถทวงแชมป์ซีเกมส์กลับมาได้ หลังจากอกหักพ่ายให้กับเจ้าภาพ "ดาวทอง" เวียดนาม คู่ปรับเบอร์ 1 ไปอย่างน่าเสียดาย
ที่ต้องบอกว่าน่าเสียดาย ก็เพราะว่าจากฟอร์มการเล่นตลอดทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ถือว่าทำผลงานได้ดีแล้ว ไม่นับนัดแรกที่พ่าย มาเลเซีย เพราะเหลือ 10 คน นัดอื่นๆ ช้างศึก ก็เป็นฝ่ายไล่ขโยกคู่แข่งแทบทั้งสิ้น
แต่ต่อให้เล่นดีแค่ไหน สุดท้ายถ้าไม่สามารถคว้าเหรียญทองกลับมาครองได้ ก็คือไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นมันก็อยู่ในจุดที่ต้องย้อนกลับมาดูกันว่าทำไม ทีมชาติไทย ถึงผิดหวังอีกครั้ง
ปัญหาข้อแรก ที่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด ของทีมชุดนี้เลย คือปัญหาเรื่องของการเตรียมทีม ด้วยความที่ฟุตบอลไทยลีก ในฤดูกาลที่ผ่านมา เจอกับปัญหาการแพร่ระบาดของ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในช่วงเดือนมกราคม
ทำให้บางสโมสรขอเลื่อนโปรแกรมกันหลายครั้ง จนทำให้การขยับโปรแกรมส่งผลถึงช่วงท้ายฤดูกาล ครั้นจะขยับโปรแกรมเพื่อให้มีช่วงเวลาในการเตรียมตัวมากขึ้น ก็ทำได้ยากลำบาก
เอาจริงๆ ตอนแรกโปรแกรมไทยลีก นัดสุดท้าย จะต้องหวดกันในวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับโปรแกรมนัดแรกของกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยการเจรจาของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม กับสโมสรใน ไทยลีก ทำให้อย่างน้อยเลื่อนโปรแกรมนัดสุดท้ายจบวันที่ 4 พฤษภาคม พอให้ยืดหยุ่นขึ้นมาบ้าง
แต่สุดท้ายแล้ว กว่าที่ทีมชาติไทยชุดนี้ จะได้มีเวลาลงซ้อมแบบครบ 20 คนครั้งแรก เป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นก่อนจะเตะกับ มาเลเซีย ในเกมนัดแรก
ถ้าลองไปเปรียบเทียบกับทีมอื่นๆ ที่มาในซีเกมส์ครั้งนี้ เวียดนาม นั้นมีเวลาซ้อมกว่า 4 เดือนเต็ม โดยที่ ปาร์ค ฮัง ซอ เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ มีเวลาคลุกคลีกับนักเตะ ใส่แผนการเล่นต่างๆ และเลือกนักเตะอายุเกินเข้ามาใส่ในทีมชุดนี้ได้อย่างเหมาะสม แถมไม่มีดราม่าที่จะเลือกนักเตะที่ดีที่สุดมาเล่น เพราะพวกเขาไม่ได้มีโปรแกรมชนกับลีกเหมือน ประเทศไทย
หรืออย่าง อินโดนีเซีย เอง อาจจะเจอปัญหาเรื่องการเรียกตัวนักเตะมาบ้าง เพราะบางคนเล่นอยู่ต่างประเทศ กว่าจะมาร่วมทีมได้ก็เกมนัดที่สอง แต่นักเตะคนอื่นๆ ในทีมนั้น ได้รวมตัวฝึกซ้อม และยังไปเก็บตัวต่างประเทศอีกด้วย ทำให้มีความพร้อมพอสมควร
ปัญหาอีกข้อที่ตามมาจากโปรแกรมการแข่งขันลีก ก็คือเมื่อฟุตบอลลีกยังไม่จบดี แถมในช่วงซีเกมส์เองก็จะมีโปรแกรมฟุตบอลถ้วยที่เหลืออยู่ทั้ง ช้าง เอฟเอ คัพ กับ รีโว่ ลีก คัพ ในรอบรอง และรอบชิงชนะเลิศ
เมื่อบวกกับการแข่งขันซีเกมส์ ไม่ใช่ช่วง ฟีฟ่าเดย์ ทำให้สโมสรนั้นสามารถเลือกที่จะไม่ปล่อยตัวนักเตะในสังกัดของตัวเองมาร่วมทีมชุดนี้ได้ แม้ว่าทาง "มาดามแป้ง" จะพยายามต่อสายคุยกับเหล่าประธานสโมสรแล้ว แต่ก็ไม่สามารถได้ตัวมาร่วมทีมอยู่ดี
เดิมที ผู้เล่นรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ยังมีตัวผู้เล่นที่เป็นตัวหลักๆ อย่างเช่น ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา, นพพล ละครพล จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ กฤษดา กาแมน, ฉัตรมงคล เรืองฐนโรจน์, บุคฆอรี เหล็มดี จาก ชลบุรี เอฟซี เป็นต้น
ซึ่งถ้าได้ผู้เล่นเหล่านี้มาจะช่วยยกระดับทีมชาติไทยชุดนี้ได้เพิ่มอีกมากมายแน่นอน
อีกหนึ่งปัญหาเลย ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาเป็นทอดๆ จากการขาดเวลาเตรียมตัว มีเวลาฝึกซ้อมน้อยแล้วนั้น คือเรื่องของสภาพร่างกายนักกีฬาที่มาแข่งขันครั้งนี้
อย่างที่รู้กันว่า ฟุตบอลลีกลงเตะกันมาอย่างต่อเนื่อง นักกีฬาก็ต้องลงเล่นมาโดยตลอด แล้วมาเจอกับการแข่งขันซีเกมส์ ทัวร์นาเมนต์ที่เตะแบบไม่ค่อยเป็นปกติเท่าไหร่ เพราะต้องลงเล่นแบบวันเว้นวัน บวกกับผลการแข่งขันนัดแรกไม่เป็นใจ ทำให้เกมที่เหลือในรอบแรกต้องจัดเต็มเกือบทุกนัด ทำให้ไม่มีจังหวะให้ได้ฟื้นฟูร่างกายมากเท่าที่ควร
เรียกว่าความเหนื่อยสะสมมันค่อยๆ ทวีคูญมากยิ่งขึ้น บวกกับในรอบตัดเชือก ที่ต้องเตะแบบ 120 นาทีกับทีมที่เข้มข้นแบบ อินโดนีเซีย สุดท้ายมันมาออกชัดเจนในรอบชิงชนะเลิศ ที่แทบจะไม่มีแรงเพรสซิ่งหรือแรงในการทำเกมรุก จนมาเสียประตูในช่วงท้ายเกมอย่างที่เห็นกัน
และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องความเหนื่อยสะสม จุดหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าขุมกำลังสำรองของทีมชุดนี้ ไม่ได้ดีเทียบเท่ากับชุดตัวจริงได้
เราลองย้อนกลับไปตอน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่ได้แชมป์ มาโน่ โพลกิ้ง สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนนักเตะได้แบบไม่เคอะเขิน พร้อมเปลี่ยนผู้เล่นตัวหลักออกมาพักโดยที่สำรองก็ทำผลงานออกมาได้ดีไม่แพ้กัน
แต่กลับมาในครั้งนี้ เราแทบจะมอง 11 ผู้เล่นตัวจริงของทีมชาติไทยออกมาได้แบบไม่ผิดเพี้ยนเลยก่อนที่จะประกาศรายชื่อออกมาด้วยซ้ำ เพราะนั่นคือชุดแบบที่ดีที่สุด แบบที่คนอื่นไม่สามารถเล่นให้ทดแทนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
วาง 11 ตัวจริงของทีมชาติไทย จะมีเพียงตำแหน่งเดียวที่ถูกสลับไปมาก็คือกองหน้าตัวเป้า ระหว่าง กรวิชญ์ ทะสา กับ พาตริก กุสตาฟส์สัน ที่มักจะสลับกันลงเล่น
ที่เห็นได้ชัดว่าสำรองของไทยทดแทนไม่ได้ คือเกมกับอินโดนีเซีย ที่ตามหลักแล้วในทัวร์นาเมนต์นี้สามารถเปลี่ยนได้ 5 คน ใน 3 ครั้ง แต่ 90 นาทีเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น ก่อนจะมาค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนตอนต่อเวลาพิเศษ เพราะนักเตะบางคนหมดแรงกันไปแล้ว
สุดท้ายแล้ว ปัญหาของทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ชุดนี้ คือเรื่องของการเตรียมตัว ที่ไม่ไปพร้อมกับความคาดหวัง เชื่อว่าต่อให้พูดว่าเอาชุดนั้น ชุดนี้ไปแข่ง แต่สุดท้ายความคาดหวังมันก็คือเหรียญทองอยู่ดี ซึ่งการจะได้เหรียญทอง มันควรจะต้องมาพร้อมกับการเตรียมทีมที่ดีกว่านี้
ดังนั้นมันก็คงต้องย้อนกลับไปที่หัวเรือใหญ่อย่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่จะต้องวางแผนกันให้ดีตั้งแต่เนิ่นๆ
เพราะซีเกมส์ที่ กัมพูชา มันก็มาจ่อรอในปีหน้าแล้วเช่นกัน
รับชมเเละเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทย ดูสดได้ที่
ชมฟรีคลิปไฮไลต์ และ Full Match Rerun ย้อนหลังแบบเต็มอิ่ม พร้อมเกาะติดข่าวสารควา เคลื่อนไหว เจาะลึกการแข่งขันทุกกีฬาแบบเข้นข้นตลอดทั้งวัน ได้ที่ ทรูไอดี ซีเกมส์ .. คลิกเลย!!
🥇🏆 "ร่วมเชียร์ไทย คว้าชัยในซีเกมส์" ดูได้ทั้ง แอป เว็บ และ กล่องทรูไอดี ทีวี
#คนไทยหัวใจนักสู้ #เชียร์ไทยไม่อั้นที่ทรูไอดี #TrueIDSEAgame2021
-------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เวียดนาม VS ไทย 1-0 : ช้างศึก อกหักพ่าย ดาวทอง ชวดแชมป์ซีเกมส์ (คลิปไฮไลท์)
- ตารางเหรียญกีฬาซีเกมส์ 2021 SEA Games 2021 อัปเดตล่าสุด
- โปรแกรมการแข่งขันกีฬา 'ซีเกมส์ 2021' ตารางถ่ายทอดสดวันนี้ พร้อมลิ้งก์ดูสด
- สุดแสนง่าย!! วิธีการเช้าชม ซีเกมส์ ที่ทรูไอดี ทั้ง แอป - เว็บ - กล่อง
-------------------------------------------------
ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก