นิวคาสเซิล ทีมผู้ไม่เคยยอมแพ้และความหวังแห่งยุคสมัยใหม่นิวคาสเซิล ในอดีตเป็นทีมที่เป็นทีมนอกสายตาในการลุ้นแชมป์ แต่ในปัจจุบันเรียกได้ว่าทีมนิวคาสเซิลนั้นเราสามารถ เป็นทีมที่สามารถลุ้นแชมป์ได้ใกล้เคียงกับทีมใหญ่ๆในพรีเมียร์ลีกทั้ง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ซิตี้ อาร์เซนอล เชลซี และลิเวอร์พูลเป็นต้น ในปัจจุบันทีมนิวคาสเซิลในปัจจุบันสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างสมศักดิ์ศรี และต้องขอยอมรับว่าทีมนิวคาสเซิลนั้นสามารถมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะทีมนิวคาสเซิล มีสิ่งที่ไม่เหมือนทีมอื่นๆคือ เป็นทีมที่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และ การไม่ย่อท้อของทุกคนในทีม ในสถานการณ์ต่างๆที่กำลังพบเจอ แม้ได้เปรียบหรือเสียเปรียบด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้หลายๆคนได้หวังให้นิวคาสเซิลนั้นประสบความสำเร็จโดยเร็วและเป็นความหวังของแฟนบอลในการสร้างประวัติศาสตร์ยุคใหม่ให้กับโลกของฟุตบอล ที่จะมาเปลี่ยนความคิดของใครหลายๆคนว่า ทีมที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องเป็นทีมที่มีแต่นักเตะที่มีชื่อเสียงและหลากประสบการณ์ แต่ในปัจจุบันเราเห็นแล้วว่าสิ่งที่นิวคาสเซิลกำลังทำคือการรวมตัวกันเป็นหนึ่ง และ ทำในสิ่งที่หลายๆทีมนั้นไม่คิดจะทำคือ "การเปลี่ยนทัศนคติมากกว่าเปลี่ยนผู้เล่นภายในทีม" ด้วยเหตุนี้จึงอยากจะบอกกับทุกคนแม้ไม่ใช่แฟนบอลว่า "สิ่งที่จำนำพาเราไปสู่ความสำเร็จนั้นไม่ใช่เพียงแค่ปัจจัยของสิ่งรอบข้าง แต่คือสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจของตัวเราเอง" แต่ถึงอย่างไรสิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีผู้ที่ชี้นำแนวทางต่างๆ โดยคนที่น่ายกย่องและน่าชื่นชมที่สุดที่เป็นส่วนสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมนั่นก็คือ "เอ็ดดี ฮาว" ผู้ที่เป็นสุดยอดผู้นำแก่ทีมนิวคาสเซิลเอ็ดดี ฮาวในมุมมองของผมทีมนิวคาสเซิลไม่ได้มีเพียงแค่มีนักฟุตบอลที่โดดเด่นในการกระหายชัยชนะ แต่มีโค้ชอย่าง เอ็ดดี ฮาว ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ในการนำพาทีมอย่างนิวคาสเซิลประสบความสำเร็จในปัจจุบันโดยสำหรับตัวผมนั้น เอ็ดดี ฮาว ถือว่าเป็นส่วนช่วยที่สำคัญที่สุดของนิวคาสเซิล ทั้งแทคติค และ ทัศนคติต่างๆในการปลุกฝังความเชื่อให้แก่เหล่านักเตะของตน ว่าการที่จะสามารถเอาชนะได้นั่นก็คือการไม่เกรงกลัวต่อคู่แข่งและเชื่อมั่นว่าทีมจะสามารถเอาชนะคู่แข่งที่เหนือกว่าได้ โดนเราสามารถเห็นได้จากการแข่งขันต่างๆของทีม ที่สามารถเอาชนะทีมต่างๆอย่างไม่น่าประหลาดใจ โดยผมเชื่อว่า เอ็ดดี ฮาว นั้นจะเป็นคนนำพานิวคาสเซิลไปสู่จุดของความสำเร็จในภายภาคหน้า และในขณะนี้จุดเริ่มต้นของความสำเร็จนั้นได้เริ่มไปแล้วจากการที่นิวคาสเซิลสามารถเอาชนะทีมต่างๆและขึ้นมาอยู่จุดที่สูงกว่าทีมใหญ่ๆหลากหลายทีม โดยในตารางการแข่งขันพรีเมียร์ลีกก่อนศึกฟุตบอลโลกนั้น ทีมนิวคาสเซิลครองตารางอยู่ที่อันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีกตามจ่าฝูงอย่างทีมอาร์เซนอลอยู่ 7 แต้ม และตามอันดับสองอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้อยู่ 2 แต้ม และในการแข่งขัน 5 นัดหลังสุด ทีมนิวคาสเซิลนั้นสามารถเก็บชัยชนะไปได้ทุกแมตช์ และหนึ่งในนั้นคือการเอาชนะทีมอย่าง เชลซีไปด้วยสกอร์ 1-0 และเป็นการประกาศชัยชนะที่มีความหมายอย่างมากและเป็นการประกาศการยกระดับเป็นทีมใหญ่อย่างไม่มีข้อโต้แย้งได้ในเวลานี้ เราจะเห็นได้ว่าทีมอย่างนิวคาสเซิลนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเพราะถ้าเราย้อนไปในฤดูกาลก่อนๆนั้นทีมนิวคาสเซิลเรียกได้ว่าเป็นทีมที่สามารถลุ้นได้เพียงTop 10 ของพรีเมียร์ลีกเพียงเท่านั้น โดยในปีก่อนๆต้องบอกว่าทีมนิวคาสเซิลในเวลานั้นตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีปัญหาต่างๆมากมายโดยปัจจัยหลักๆก็เกี่ยวกับการใช้เงินเพื่อซื้อนักเตะและพัฒนาระบบต่างๆนั้นไม่ดีพอและปัจจัยภายในอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบอย่างมากทั้งเรื่องของคู่แข่งมีมีความแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ทีมเล็กๆต่างพากันพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ต่างกับทีมนิวคาสเซิลที่มีการพัฒนาอย่างล่าช้า แต่ถึงอย่างไรสิ่งที่น่าชื่นชม คือนักเตะในสโมสรนั้น ไม่ย่อท้อต่อสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นและช่วยกันประครองทีมของตนจนมาถึงทุกวันนี้ เครดิตภาพภาพปกภาพที่ 1 / Facebook:Newcastle Unitedภาพที่ 2 / Facebook:Newcastle Unitedภาพที่ 3 / Facebook:Newcastle Unitedภาพในเนื้อหาภาพที่ 1 / Facebook:Newcastle Unitedภาพที่ 2 / Facebook:Newcastle Unitedภาพที่ 3 / Facebook:Newcastle Unitedภาพที่ 4 / Facebook:Newcastle United อัปเดตข่าวสาร ติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบไม่พลาดทุกนัดที่ ทรูไอดี คอมมูนิตี้ ห้อง 'ฟุตบอล'