Road to Rio 2014 Finals - เยอรมัน ปะทะ อาร์เจนตินา

หลังจากต่อสู้ฟาดฟันกันมาอย่างยาวนานทั่วทุกมุมโลก จากเกมรอบคัดเลือก ถึง ณ เวลานี้ ก็ได้ 2 ประเทศที่จะพิสูจน์ว่าใครคือเบอร์ 1 ของโลกในครั้งนี้ สำหรับ ฟุตบอลโลก 2014 ณ ประเทศบราซิล โดยเกมนัดชิงชนะเลิศในครั้งนี้ จะเป็นการพบกันของ 2 ชาติที่เป็นยักษ์ใหญ่แห่วงวงการฟุตบอล ระหว่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน กับ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา เรามาดูว่าเส้นทางก่อนจะถึงนัดชิงชนะเลิศ เป็นอย่างไรบ้าง 

เริ่มกันที่พลพรรคอินทรีเหล็ก ได้ฝ่าฟันด่านอรหันต์มาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในรอบคัดเลือก โซนยุโรป ทีมชาติเยอรมัน อยู่ร่วมกลุ่ม 3 ที่มีทีมแกร่ง อย่าง สวีเดน, ไอร์แลนด์ และ ออสเตรีย ซึ่งผลงานก็เป็นไปตามเป้า ก็คือ เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่ม แข่ง 10 นัด ชนะ 9 และ เสมอ 1 ยิงประตูไปได้ถึง 36 ลูก เสียไปแค่ 10 ลูกเท่านั้น พอเข้าถึงรอบสุดท้าย ก็ถูกจับสลากมาอยู่สายที่แข็งเช่นกัน ซึ่งร่วมกลุ่ม G ที่มี โปรตุเกส, สหรัฐอเมริกา และ กานา พอลงสนามในรอบแรกแล้ว ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยผล ชนะ 2 เสมอ 1 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การกำราบ โปรตุเกส ราบคาบ 4:0 และส่งผลให้ โปรตุเกส ต้องกลับบ้านก่อนกำหนด นั่นเอง 

มาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็ต้องมาพบกับ แอลจีเรีย ที่น่าจะไม่ยากเย็นอะไร แต่ต้องออกแรงถึงต่อเวลาจนจบ 120 นาที ถึงสามารถเอาชนะไปได้ 2:1 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปพบกับของแข็งชิ้นโต อย่าง ฝรั่งเศส ที่มีฟอร์มจัดจ้านกันทั้งทีม แต่ก็สามารถเอาชนะไปได้ 1:0 จากลูกโหม่งของ มัทส์ ฮุมเมิลส์ ทะยานเข้าสู่รอบตัดเชือกไปเจอกระดูกที่แข็งที่สุด นั่นก็คือ เจ้าภาพ บราซิล 

ปรากฏว่า เกิดเหตุฟ้าผ่ากลางใจต่อชาวแซมบ้า เมื่อทัพอินทรีเหล็กดาหน้ายิงประตู 5 ลูกรวด ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงของเกม บวกอีก 2 ลูกสุดท้ายช่วงท้ายเกม ทำให้ เยอรมัน เอาชนะ เจ้าบ้านได้อย่างช็อกโลก ชนิดต้องพูดคำว่า “ยำคาบ้าน” ได้ก็ไม่ผิด ถึง 7:1 เข้าไปชิงชนะเลิศ พบกับ อาร์เจนตินา เพื่อแชมป์โลกสมัยที่ 4 ของแข้งเมืองเบียร์ 

มาทางฝั่งพลพรรคฟ้าขาว โดยในรอบคัดเลือกของโซนอเมริกาใต้ ก็ถือว่า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ซึ่งเล่นกันแบบพบกันหมด 9 ทีมในโซนนี้ เข้ารอบมาเป็นที่ 1 ของโซนอเมริกาใต้ ด้วยผลงาน ชนะ 9 เสมอ 5 และแพ้แค่ 2 ยิงไป 35 ลูก เสียแค่ 15 ลูก พอเข้ารอบสุดท้ายก็ถูกจับมาอยู่ในกลุ่ม F ที่มี บอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวินา, อิหร่าน และ ไนจีเรีย ก็ยังทำผลงานได้อย่างสวยหรู ด้วยการเอาชนะ 3 นัดรวด แต่ที่น่าสังเกตุก็คือ ชนะแบบเฉือนๆ ทุกเกม 

มาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็โคจรมาพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ ก็ต้องออกแรงถึง 120 นาที เอาชนะไปได้ 1:0 จาก อังเคล ดิ มาเรีย ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับทีมจากยุโรปทีมที่ 2 ก็คือ เบลเยียม ก็เฉือนเอาชนะได้ 1:0 เช่นกัน จากการทำประตูของ กอนซาโล อิกวาอิน จนมาถึงรอบรองชนะเลิศ ก็ต้องมาพบกับ เนเธอร์แลนด์ ที่มีเกมรุกจัดจ้าน แต่ก็สามารถต้านทานจนถึงการยิงลูกโทษ ก็สามารถเอาชนะไปได้ 4:2 จากการเซฟ 2 ช็อตของ เซร์คิโอ โรเมโร นายทวารของทัพฟ้าขาว ก็เข้ามาชิงชนะเลิศ กับ เยอรมัน ในที่สุด 

มาลุ้นกันว่าใครจะเป็นจ้าวลูกหนังโลกในครั้งนี้ เยอรมัน เพื่อแชมป์โลกสมัยที่ 4 และเป็นทีมยุโรปทีมแรกที่มาคว้าแชมป์บนแผ่นดินอเมริกาใต้ หรือจะเป็น อาร์เจนตินา ที่คว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ได้แชมป์โลกบนแผ่นดินลาตินอเมริกาใต้ ในแดนคู่ปรับตลอดกาล อย่าง บราซิล วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ รู้กันแน่นอน !!!