การกระโดดเชือกอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน เป็นกีฬาพื้นเมืองที่เล่นกันแถบทุกจังหวัด สมัยก่อนคนภาคกลางจะนิยมเล่นกระโดดเชือกในงานรื่นเริงสำคัญต่าง ๆ จนปัจจุบันกระโดดเชือกเป็นกีฬาที่ใช้ออกกำลังกายในยามว่าง เล่นได้ทุกที่ตราบใดที่มีเชือกกระโดด อีกทั้งยังถูกบรรจุเป็นกีฬาสากลชนิดใหม่ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ในต่างประเทศ จะไม่ได้เป็นแค่การละเล่นสมัยเด็กที่เราเล่นกันอีกต่อไป โดยสมาพันธ์กระโดดเชือกนานาชาติ FISAC-IRSF (International Rope Skipping Federation) เป็นสมาพันธ์ที่ตั้งกฎกติกาและรูปแบบการแข่งขัน ประเทศครองแชมป์กระโดดเชือกแบบสปีดอยู่ที่ประเทศฮ่องกง ล่าสุดประเทศไทยได้ชนะฮ่องกงไปได้แล้วแบบเฉียดฉิว ที่ 89-88 ขอขอบคุณภาพ รูปแบบการแข่งขัน การแข่งขันกระโดดเชือก แบ่งได้ 2 ประเภท คือ การแข่งแบบฟรีสไตล์กับการแข่งขันแบบสปีด โดยการแข่งขันแบบฟรีสไตล์จะเน้นการแข่งลีลาท่าทางไม่จำกัด ซึ่งนำไปประยุกต์ใช้กับยิมนาสติก การพิจารณาการให้คะแนนจะคล้ายกับยิมนาสติก เน้นที่ลีลาท่าทางที่สวยงาม ความต่อเนือง ความยากง่ายของท่า เป็นต้น ส่วนการแข่งขันแบบสปีด เป็นการแข่งขันความเร็วในการกระโดดเชือก โดยนับจากจำนวนครั้ง ในเวลาต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะให้เวลา 1 นาที นอกจากจะมีกระโดดเชือกเดี่ยว ก็ยังมีกระโดดเชือกทีม โดยใช้เชือกยาวสองเส้น มีทั้งในการแข่งแบบฟรีสไตล์และสปีด ขอขอบคุณภาพ ในประเทศไทยก็มีการจัดการแข่งขันกระโดดเชือกเหมือนกันทุกภูมิภาคและตามงานกีฬาสีของโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งจัดโดยโครงการกระโดดเชือก ทางเลือกเยาวชน พ้นโรคหัวใจ : Jump Rope of Thailand" ของมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เกือบทุกปี ประโยชน์การกระโดดเชือก 1. สร้างสมาธิ ช่วยพัฒนาสมองซีกซ้ายและขวาพร้อมกัน 2. ช่วยระบบหายใจดีขึ้น สร้างสมดุลร่างกาย 3. เพิ่มความหนาแน่นมวลกระดูกและเพิ่มความสูงได้ 4. ช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกจากร่างกาย 5. ช่วยเกิดการผ่อนคลาย 6. สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น 7. ลดอาการบาดเจ็บที่เท้า ข้อเท้า และขาท่อนล่าง 8. พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างมือและตา ขอขอบคุณภาพ เป็นยังไงบ้าง สำหรับกีฬากระโดดเชือกที่เป็นการละเล่นในสมัยที่เราเคยเล่นกันในตอนเด็ก ตอนนี้กลายเป็นกีฬาสากลที่เราต้องจับตามองกันเลยทีเดียว อยากเชิญชวนให้มาเป็นนักกีฬากระโดดเชือกกันเยอะ ๆ นะคะ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไป
