หลายๆคนต้องเคยมีครั้งแรกใช้มั้ยล่ะคะ ... และนี่คือการวิ่งในระยะทาง 10 กิโลเมตรครั้งแรกในชีวิตของผู้เขียนเองค่ะ... จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกายอะไรเลย จนเริ่มวิ่งแบบงูๆปลาๆ แวะเดินบ้างอะไรบ้างแค่ขอให้ได้ขยับร่างกายบ้าง จนเริ่มลงสมัครงานวิ่งต่างๆ ปีแรกที่เริ่มสมัครงานวิ่งนั้น คือปี พ.ศ. 2561 (ปีที่แล้วนี่เองค่ะ) เรียกว่ากวาดระยะ fun run มาหมดทั้งจังหวัดตัวเองและพื้นที่ใกล้เคียง ในระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร โดยถือคติว่าเน้นถ่ายรูปและแวะบูทของกิน 5555 แต่ไม่นานก็มีเพื่อนๆที่ชอบไปวิ่งด้วยกันชวนลงสมัครงานวิ่งที่จังหวัดนครนายก แล้วเพื่อนทุกคนดันลงสมัครวิ่งในระยะทาง 10 กิโลเมตรกันหมดเลย ทุกคนก็ต่างพากันยุว่า สมัคร 10 กิโลเมตรสิ ลองดู ครั้งหนึ่งในชีวิต ... ผู้เขียนด้วยความเป็นคนยุขึ้นง่ายก็สมัครระยะทาง 10 กิโลเมตรแบบไม่ลังเล เรียกว่าเป็นงานแรก และครั้งแรกที่จะวิ่งไกลขนาดนี้ (โดยไม่ได้สำรวจเส้นทางการวิ่งใดๆ) รูปจากกล้องผู้เขียนเองค่ะ (เตรียมของๆ ^^) งานวิ่งนี้ ชื่อว่างาน “เดิน-วิ่ง เขาชะโงกซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน” สถานที่จัดงานคือ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก จุดปล่อยตัวนักวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร ที่เวลา 05.30 น. จำได้ว่าวันนั้นลมแรงมาก และเย็นพอสมควรเลยค่ะ แต่เมื่อมาแล้วเราต้องลุย! ผู้เขียนรู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่จุดปล่อยตัวแล้วค่ะ (หลังจากแอบไปดื่มน้ำเต้าหู้มา ^^) โดยไม่ตื่นเต้นและคิดว่าจะเดินๆวิ่งๆ เดี๋ยวก็ถึงเส้นชัย... รูปจากผู้เขียนเองค่ะ (ใช้นาฬิกาดิจิตอลจับระยะทางวิ่ง) แต่เหมือนแกล้งกัน เนื่องจากไม่ศึกษาเส้นทางวิ่งให้ดี หลังจากวิ่งจากจุดปล่อยตัวได้ 2 กิโลเมตร สองข้างทางจากต้นไม้เยอะๆ ก็เปลี่ยนเป็นแอ่งน้ำ และทางชันขึ้นเขา ฟังไม่ผิดค่ะ!! ทางขึ้นเขาจริงๆ ผู้เขียนเริ่มเปลี่ยนเป็นเดิน แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ คนเดินเป็นเพื่อนเยอะเลยคุณ ^^ ตอนนี้แดดเริ่มออกฟ้าเริ่มสว่างแล้วค่ะ รู้ตัวอีกผู้เขียนก็ขึ้นมายืนอยู่บนเขาแล้ว เมื่อได้มองลงไปข้างล่างบวกกับวิวพระอาทิตย์ขึ้น ต้องบอกว่าสวยจนหายเหนื่อยเลยค่ะ รู้สึกคุ้มที่พยามทั้งวิ่งทั้งเดินขึ้นมาและไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน ... และแล้วเราก็วิ่งถึงเส้นชัยในระยะทาง 10 กิโลเมตร ได้สำเร็จ ตอนเข้าเส้นชัยต้องบอกว่าเป็นความรู้สึกแปลกใหม่เลยนะคะ มันคนละอารมณ์กับวิ่งระยะทาง 5 กิโลเมตร บอกไม่ถูก คุณๆต้องลองเอง ^^ และที่สำคัญอีกเรื่องที่เราตัดสินใจสมัครวิ่งงานนี้คือเหรียญรางวัลค่ะ ซึ่งควรค่าแก่การเก็บรักษา และการใช้ความพยายามในการได้มาจริงๆ รู้สึกเป็นเกียรติ และภูมิใจมากค่ะ รูปจากกล้องผู้เขียนเองค่ะ สุดท้ายนี้อยากฝากถึงคุณผู้อ่านทุกท่านว่า ผู้เขียนเองไม่ใช่นักวิ่งที่เก่งอะไรเลยค่ะ แต่รู้สึกสนุกและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกไปวิ่ง มากบ้างน้อยบ้างให้เหงื่อออกก็ยังดี การขยับระยะทางวิ่งที่มากขึ้นเรื่อยๆถือเป็นการกำหนดเป้าหมายอย่างหนึ่งที่ทำให้การวิ่งไม่น่าเบื่อ อยากให้เรื่องของผู้เขียนเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกท่านที่ยังลังเลว่าจะวิ่งดีมั้ยนะคะ ลองตั้งเป้าหมายระยะทางใหม่ๆ แล้วลองขยับระยะทางเรื่อยๆดูค่ะ แล้วการออกกำลังกายของท่านจะสนุกขึ้นเยอะเลย :)