วิเคราะห์ คาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศ 2023/24 เชลซี VS ลิเวอร์พูลวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 22.00 น. สนาม : เวมบลีย์ถ่ายทอดสด : Thairath TV ช่อง 32ผู้ตัดสิน: Chris Kavanaghผู้ช่วยผู้ตัดสิน: Mark Scholes and James Mainwaringผู้ตัดสินที่ 4: Tim RobinsonReserve Assistant Referee: Wade SmithVAR: John Brooksผู้ช่วย VAR: Marc Perryคู่ชิง คาราบาว คัพ ของฤดูกาลนี้เป็นการพบกันของ "สิงห์บลู" เชลซี พบกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โดยอันดับในลีกล่าสุด เชลซี อยู่อันดับที่ 10 ส่วน ลิเวอร์พูล อยู่อันดับ 1 นำเป็นจ่าฝูงอยู่ ถึง แม้ว่าถ้าดูจากอันดับในตาราง ลิเวอร์พูลจะเหนือกว่าเชลซีเยอะก็จริง แต่ในช่วงหลังเชลซีกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีแล้ว ล่าสุดพึ่งเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ด้วย แถมทางฝั่งลิเวอร์พูลพึ่งเสีย กำลังหลักจากอาการบาดเจ็บไปเพียบ เกมนี้จึกเรียกได้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน ทั้งสองทีมมีโอกาสเป็นแชมป์ทั้งคู่แบบ 50 - 50 แต่การต่อสู้ในเกมสนุกแน่นอนในถ้วยนี้ ลิเวอร์พูล สามารถครองแชมป์ได้มากที่สุด 9 สมัย รองลงมาเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 8 สมัย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6 สมัย และ แอสตัน วิลล่า กับ เชลซี เท่ากันที่ 5 สมัย ทั้งสองทีมเจอกันมาในรอบชิงชนะเลิศแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในปี 2005 เชลซีชนะลิเวอร์พูล 3-2 และเพิ่งเจอกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยในเกมดังกล่าวลิเวอร์พูลชนะจุดโทษเชลซีไปได้ 11-10 หลังเสมอในเวลา 90 นาที 0-0เส้นทางสู่นัดชิงของคู่ ผ่านอะไรมาเยอะพอๆกัน ลิเวอร์พูล รอบ3 ชนะ เลสเตอร์ 3-1 (เหย้า), รอบ 4 ชนะ บอร์นมัธ 2-1 (เยือน), รอบ 8 ทีม ชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 5-1 (เหย้า) รอบตัดเชือกนัดแรกชนะ ฟูแลม 2-1 (เหย้า) นัดสองเสมอ 1-1 (เยือน)ทางด้าน เชลซี รอบ 2 ชนะเอเอฟซี วิมเบิลดัน 2-1 (เหย้า), รอบ 3 ชนะไบรท์ตัน 1-0 (เหย้า), รอบ 4 ชนะแบล็คเบิร์น 2-0 (เหย้า), รอบ 8 ทีม ชนะจุดโทษ นิวคาสเซิล 4-2 หลังเสมอในเวลา 90 นาที 1-1 รอบรองชนะเลิศ นัดแรกแพ้มิดเดิลสโบรช์ 0-1 (เยือน) นัดสองชนะ 6-1(เหย้า) ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีมเชลซีเสมอ: แมน ซิตี้ 1 - 1 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)ชนะ : คริสตัล พาเลช 1 - 3 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)ชนะ : แอสตัน วิลล่า 1 - 3 เชลซี (FA CUP รอบ 16 ทีม นัดรีเพลย์)แพ้ : เชลซี 2 - 4 วูล์ฟแฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)แพ้ : ลิเวอร์พูล 4 - 1 เชลซี (พรีเมียร์ลีก) ลิเวอร์พูลชนะ : ลิเวอร์พูล 4 - 1 ลูตัน ทาวน์ (พรีเมียร์ลีก)ชนะ : เบรนท์ฟอร์ด1 - 4 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)ชนะ : ลิเวอร์พูล 3 - 1 เบิร์นลี่ย์ (พรีเมียร์ลีก)แพ้ : อาร์เซนอล 3 - 1 ลิเวอร์พูล(พรีเมียร์ลีก)ชนะ : ลิเวอร์พูล 4 - 1 เชลซี (พรีเมียร์ลีก) การพบกันของ 2 ทีม2567 : ลิเวอร์พูล 4 - 1 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)2566 : เชลซี 1 - 1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)2566 : เชลซี 0 - 0 ลิเวอร์พูล (FA CUP)2566 : ลิเวอร์พูล 0 - 0 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)2565 : เชลซี 0 - 0 ลิเวอร์พูล (ลิเวอร์พูลชนะจุดโทษ, นัดชิงเอฟเอคัพ) ฟอร์มช่วงหลังลิเวอร์พูล ดูดีกว่า โดยถ้ามองย้อนกลับไป 15 นัดหลัง พวกเขาชนะไปถึง 11 นัด เสมอ 3 และแพ้ 1 นัด ในเกมที่ไปเยือน อาร์เซนอล ส่วนเชลซีฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ ไม่สม่ำเสมอ แต่ช่วงสามนัดหลังเริ่มเข้าสู่ช่วงที่ดีโดย ชนะ 2 นัด และเสมอรองจ่าฝูงอย่าง แมน ซิตี้ได้ในขณะที่การพบกันของทั้งสองทีมหนักไปทางเสมอกัน มีนัดล่าสุดที่พบกันเท่านั้นที่ เชลซี พลาดท่า โดนหงส์แดงถล่มไป 4-1 ดังนั้นถึงอันดับจะห่างกันแต่ไม่ใช่เกมที่ง่ายของ ทัพหงส์แดง ที่ตัวหลักเจ็บเยอะอย่างแน่นอน ความพร้อมก่อนเกมเชลซี สิงห์บลู ยังมีรายชื่อผู้เล่นบาดเจ็บยาวเป็นผู้เล่นชุดเดิม มี เวสลีย์ โฟฟาน่า, โรเบิร์ต ซานเชซ, รีซ เจมส์, มาร์ค กูกูเรยา, โรเมโอ ลาเวีย, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เลสลีย์ อูโกชุกวู แต่ไม่ได้เป็นปัญหามากเมื่อรายชื่อที่กล่าวไป มีคนที่เป็นตัวหลักได้ไม่กี่คน และที่ทีมทำผลงานได้ดีในช่วงหลังก็ไม่มีรายชื่อเหล่านี้ในทีมอยู่แล้วในเกมนี้คาดว่าจะยึดทีมที่ทำได้ดีในนัดที่แล้วกับ ซิตี้ เป็นหลักในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 ผู้รักษาประตู จอร์เจ เปโตรวิช แบ็กขวาใช้ มาโล กุสโต คู่เซ็นเตอร์เป็น อักเซล ดิซาซี กับ ลีวาย โคลวิลล์ มี เบน ชิลเวลล์ ยืนแบ็กซ็าย คู่กลางใช้คู่ราคาแพงอย่าง เอนโซ เฟร์นันเดซ และ มอยเซส ไคเซโด ปีกขวามีดาวรุ่งตัวเก่ง โคล พาลเมอร์ และปีกซ้ายเป็นหน้าที่ของเด็กเก่า ลิเวอร์พูล อย่าง ราฮิม สเตอร์ลิง โดยใช้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ยืนทำเกมอยู่หลังกองหน้าอย่าง นิโคลัส แจ็คสัน โดยมี คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู เป็นตัวสอดแทรกในทุกตำแหน่งของแผงเกมรุกนักเตะบาดเจ็บ : เวสลีย์ โฟฟาน่า, โรเบิร์ต ซานเชซ, รีซ เจมส์, มาร์ค กูกูเรยา, โรเมโอ ลาเวีย, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เลสลีย์ อูโกชุกวูนักเตะติดโทษแบน : -ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 : จอร์เจ เปโตรวิช – มาโล กุสโต, อักเซล ดิซาซี, ลีวาย โคลวิลล์, เบน ชิลเวลล์ - เอนโซ เฟร์นันเดซ, มอยเซส ไคเซโด - โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮิม สเตอร์ลิง - นิโคลัส แจ็คสัน ลิเวอร์พูล สภาพความพร้อมในเกมนี้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาการหนักกว่าทางด้านคู่แข่งอย่างเชลซี เมื่อตัวเจ็บเกินครึ่งเป็นตัวหลักและพึ่งเจ็บไปเมื่อสองนัดก่อนหน้านี้เอง เกมนี้ที่ขาดแน่ๆคือ สเตฟาน ไบจ์เซติช, โจเอล มาติป, เบน โด๊ค, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อลีซง เบคเกอร์, ดิโอโก้ โจต้า และ เคอร์ติส โจนส์ ซึ่ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อลีซง เบคเกอร์, ดิโอโก้ โจต้า มีลุ้นกลับมาหลังจบเบรคทีมชาติรอบหน้า ส่วน ดาร์วิน นูนเญซ , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โดมินิค โซบอสซ์ไล มีลุ้นฟิตทัน เนื่องจากมีภาพออกมาว่าไปที่สนามซ้อม แต่ไม่มีภาพการซ้อม ต้องรอลุ้นวันต่อวันว่าจะฟิตทันไหมเกมนี้น่าจะยึดตัวหลักจากนัดที่แล้ว โดยใช้ ควีวีน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูที่ปกติเป็นมือหนึ่งในรายดารนี้อยู่แล้ว รวมถึงนัดชิงรอบก่อนก็เป็นเค้าที่ยิงลูกจุดโทษลูกสุดท้ายเข้าไปก่อนคว้าแชมป์ แบ็คขวา คอเนอร์ แบรดลีย์ ดาวรุ่งที่ท็อปฟอร์มในนัดที่เจอกับ เชลซี เมื่อเดือนก่อน แบ็คซ้ายใช้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่เป็นตัวสำรองในเกมที่แล้ว เซ็นเตอร์ เป็น อิบราอิม่า โกนาเต้ ที่ได้พักเต็มๆเมื่อเกมก่อน คู่กับ กัปตันทีม เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค มิดฟิลด์สามคนใช้ วาตารุ เอ็นโด กลางรับชาวญี่ปุ่นที่ก้าวมาเป็นกำลังสำคัญได้แล้ว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กองกลางแชมป์โลก และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ดาวรุ่งชาวดัช สามประสานในแดนหน้า ใช้หลุยส์ ดิอาซ ปีกพลังใบ ทางซ้าย ส่วนขวาน่าจะใช้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ไปก่อน หน้าเป้า โคดี้ กัคโป ออกสตาร์ทโดยที่ ดาร์วิน นูนเญซ , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะเป็นคีย์แมนสำคัญหากว่าฟิตพอมีชื่อเป็นตัวสำรอง จะสามารถเป็นไพ่ลำหรับลงไปเปลี่ยนเกมของคล็อปได้อย่างดีนักเตะบาดเจ็บ : สเตฟาน ไบจ์เซติช, โจเอล มาติป, เบน โด๊ค, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อลีซง เบคเกอร์, ดิโอโก้ โจต้า, เคอร์ติส โจนส์, ดาร์วิน นูนเญซ (เช็คฟิต) , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (เช็คฟิต), โดมินิค โซบอสซ์ไล (เช็คฟิต)นักเตะติดโทษแบน : -ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 3 - 3 : ควีวีน เคลเลเฮอร์ - คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราอิม่า โกนาเต้, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก - ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โคดี้ กัคโป, หลุยส์ ดิอาซ วิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเกมเกมแรกที่พบกันในฤดูกาลนี้ที่บ้านของ เชลซี ทั้งคู่เสมอกันไป นัดที่สองที่บ้าน ลิเวอร์พูล หงส์แดงถล่มไป 4-1 แต่นัดนี้เล่นที่สนามกลางอย่าง เวมบลีย์ ซึ่งไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบอย่างแน่นอน ถ้ามองที่ตัวบาดเจ็บ ลิเวอร์พูล ดูจะมีปัญหาที่ใหญ่กว่าแต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นในเกมกับ ลูตัน ทาวน์ แล้วว่าพวกเขาทำได้ดีแค่ไหน แต่ เชลซี แข็งแกร่งกว่า ลูตัน ทาวน์ ต้องรอดูว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะรับมืออย่างไร แต่เชื่อว่านักเตะจะรวมใจต่อสู้เพื่อปีสุดท้ายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แน่นอนเกมนี้น่าจะเป็นเกมที่เปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างสนุก ต้องอยู่ที่ความรับกุมในเกมรับ และความคมในเกมรุก ว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน แต่อาจจะไม่จบใน 90 นาที เนื่องจากสถิติที่ผ่านมา เชลซี มักทำได้ดีเวลาเจอลิเวอร์พูล ผลการแข่งขันที่คาดเกมนี้ขอไม่ทายสกอร์ แต่ขอทายว่าหงส์แดง คว่ำ สิงห์บลู พร้อม ชูถ้วยแชมป์สมัยที่ 10ภาพปกที่ 1 : เพจLiverpool FCภาพปกที่ 2 : เพจ Chelsea Football Clubภาพปกที่ 3 : เพจ Chelsea Football Clubภาพปกที่ 4 : เพจLiverpool FCภาพปกที่ 5 : เพจ Carabao Cupภาพประกอบที่ 1 : เพจ Chelsea Football Clubภาพประกอบที่ 2 : เพจ Carabao Cupภาพประกอบที่ 3 : เพจ Carabao Cupภาพประกอบที่ 4 : เพจ Chelsea Football Clubภาพประกอบที่ 5 : เพจ Liverpool FCภาพประกอบที่ 6 : เพจ Carabao Cupภาพประกอบที่ 7 : เพจ Liverpool FCCommunity ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์