จบลงเป็นที่เรียบร้อยสำหรับแชมป์สมัยที่ 16 ในรอบ 16 ปีของลิเวอร์พูล โดยหลังเกมนั้นก็มีอะไรที่น่าให้พูดถึงอยู่พอสมควรสำหรับการเจอกันของ2ทีมลุ้นแชมป์ในพรีเมียร์ลีก ถือเป็นการเจอกันอย่างเป็นทางการนัดแรกหลังจากที่ปิดฤดูกาลไปนาน นอกจากคุณภาพของเกมที่สนุกสุดๆแล้วนั้นมีอะไรให้เราได้พูดถึงกันบ้าง ไปดูกันเลย1. ปรีซีซั่นที่เยอะกว่าทำให้ได้เปรียบจริงๆหรอ? : เผื่อหลายคนยังไม่ทราบว่าก่อนที่เกมนี้จะเริ่มต้นขึ้นนั้นลิเวอร์พูลเล่นนัดปรีซีซั่นมาแล้วถึง 4 นัดด้วยกัน โดยอีกฝ่ายอย่างแมนซิตี้พึ่งจะเตะในนัดปรีซีซั่นไปเพียงแค่ 2 นัด เลยกลายเป็นคำถามสำหรับใครหลายๆคนว่าลิเวอร์พูลได้เปรียบในจุดนี้หรือเปล่า นักเตะได้ซ้อมได้ลงเล่นด้วยกันบ่อยกว่า ได้ซ้อมแผนหรือแท็คติกต่างๆเยอะกว่า หรือบางมุมมองก็อาจจะมองว่าการลงเล่นมาเยอะ ๆ ก่อนนั้นจะส่งผลต่อสภาพร่างกายของตัวนักเตะเองหรือไม่ หรือการที่นักเตะพึ่งจะกลับมาซ้อมรวมกันหลังจากที่แยกย้ายกันไปพักผ่อนมานั้น มีผลต่อฟอร์มการเล่นมากน้อยแค่ไหน? ส่วนตัวผมจากที่ได้ดูเกมแล้วนั้นผมมองว่ามันก็ไม่ได้มีผลกระทบต่างกันมากเท่าไหร่นัก ปัจจัยที่ว่ามาอาจจะมีส่วนอยู่บ้างแต่สำหรับนักเตะอาชีพแล้วนั้นไม่น่าส่งผลมากมายเท่าไหร่หรอก2. รับประกันคุณภาพของเกมที่ทั้งสองทีมนี้เจอกัน : ไม่ว่าจะเจอกันในรายการไหนจะเป็นพรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ หรือแม้กระทั่งรายการใหญ่อย่างยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก การเจอกันของทั้งสองทีมนี้นั้นก็ถือเป็นเกมที่สุดมันส์ คุณภาพน่าติดตามทุกนัดอยู่แล้ว โดยในเกมเมื่อคืนนั้นแม้สุดท้ายผลต่างสกอร์จะห่างกันถึง 2 ประตูแต่ในเรื่องของรูปเกมไม่ว่าจะเป็นการครองบอล โอกาสยิง จังหวะยิงเข้ากรอบ หรือแม้กระทั่งการตัดบอล ดักผ่อนฝ่ายตรงข้ามก็ต้องบอกว่าเป็นสองทีมที่ทันกันจริงๆ ผลัดกันรุกผลัดกันรับได้อย่างเนียนตา แม้แต่ละฝั่งจะมีจังหวะที่ติดๆขัดๆกันบ้างเนื่องจากเป็นการเล่นเกมอย่างเป็นทางการเกมแรก แต่โดยรวมแล้วก็ต้องบอกว่าสมกับเป็น 2 ทีมลุ้นแชมป์ทั้งคู่เลยก็ว่าได้3. ฟอร์มการเล่นส่วนตัวของนักเตะทั้งสองทีม : โดยฟอร์มการเล่นส่วนตัวของนักเตะนั้นก็ถือเป็นสิ่งที่น่าตั้งคำถามอยู่เหมือนกัน เรามาเริ่มที่ฝั่งของแมนซิตี้กันก่อนเลยแล้วกัน 2 คนที่ดูจะฟอร์มหลุดจากมาตรฐานของตัวเองไปเมื่อวานนี้คงไม่พ้น เควิน เดอ บรอย และ เชา กันเซโล่ โดยเกมเมื่อวานนั้นไม่เชิงว่าพวกเขาเล่นกันแย่ทำให้ทีมเสียประตู แต่มาตรฐานที่ทั้งคู่ได้ทำเอาไว้ในฤดูกาลที่ผ่าน ๆ มานั้นถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียวถ้าวัดจากเกมเมื่อวาน ไหนจะเป็นนักเตะใหม่อย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ดูจะพลาดโอกาสสำคัญๆไปค่อนข้างเยอะในเกมเมื่อวาน ส่วนทางฝั่งของลิเวอร์พูลถือว่าเล่นกันได้ค่อนข้างที่จะโอเคแม้ในช่วงครึ่งแรกจะนำอยู่1ประตูแต่ก็ต้องบอกเลยว่าพวกเขาไม่ได้ดูได้เปรียบแมนซิตี้เลยด้วยซ้ำ ยังดูค่อนข้างที่จะสูสีกันอยู่ แต่ถ้าจะให้พูดถึงจุดเปลี่ยนเลยผมมองไปที่การเปลี่ยนตัวในช่วงครึ่งหลัง ตัวสำรองที่ลงมาแล้วมีผลต่อเกม ต่อการได้ประตูของทีม และจุดเปลี่ยนสำคัญเลยน่าจะเป็นจังหวะจุดโทษที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังแล้วเพื่อนๆคิดเห็นเช่นไรกันบ้าง ยังมีประเด็นไหนที่น่าหยิบยกเอามาพูดคุยกันหลังบอลจบไปแล้วบ้าง คอมเม้นท์มาพูดคุยกันได้ครับ เครดิตรูปภาพภาพปก ภาพโดย : Manchester Cityภาพที่ 1 ภาพโดย : Liverpool FCภาพที่ 2 ภาพโดย : Liverpool FCภาพที่ 3 ภาพโดย : Manchester Cityภาพที่ 4 ภาพโดย : Manchester City*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565