สวัสดีครับ พบกันอีกเช่นเคยกับผม Florent9ine วันนี้เราจะมาพูดกันถึงสโมสรหนึ่งของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั่นก็คือ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ที่ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ในยุคของ โรมัน อับราโมวิช เชลซีประสบความสำเร็จในการไล่ล่าแชมป์เป็นอย่างมาก พวกเขาคว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็น แชมป์ลีก 5 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 5 สมัย แชมป์ลีกคัพ 3 สมัย ในเวทียุโรปพวกเขาเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย ยูฟ่า ยูโรป้าลีก 2 สมัยและแชมป์สโมสรโลกอีก 1 สมัย เรียกได้ว่าตู้เก็บถ้วยแชมป์แทบจะไม่มีที่ให้วางแล้ว จนในที่สุดในช่วงมีนาคม 2022 แฟนเชลซีทั่วโลกก็ต้องตกตะลึงกับข่าวการประกาศขายสโมสรของ โรมัน อับราโมวิช หรือ เสี่ยหมี ที่ทุกคนเรียกกัน จากภาวะสงครามระหว่างรัสเซีย กับ ยูเครน เป็นเหตุให้เสี่ยหมีโดนคว่ำบาตรห้ามเข้าเกาะอังกฤษ จนถูกบีบให้ขายสโมสรในที่สุด หลังจากนั้นไม่นาน วันที่ 30 พฤษภาคม 2022 สโมสรได้ออกแถลงการณ์ถึงการได้กลุ่มเจ้าของใหม่นำโดย ทอดด์ โบลี่ย์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน เชลซีจึงเริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้การบริหารแบบอเมริกันสไตล์ การมาของ ทอดด์ โบลี่ย์ ตอนนั้นจับจ้องมาที่เชลซีกันอย่างมาก เริ่มมีเสียงวิจารณ์ถึงการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ว่ามาเพื่อธุรกิจ ไม่เน้นไล่ล่าแชมป์เหมือนยุคเสี่ยหมีอีกแล้ว เน้นปั้นดาวรุ่ง ขายเพื่อทำกำไรเข้ากระเป๋า ด้วยการที่โบลี่ย์เป็นชาวอเมริกันด้วย ไร้ความรู้เรื่องฟุตบอล ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้ว ในการบริหารทีมของเจ้าของทีมชาวอเมริกันไม่ว่าจะเป็น อาเซน่อล ลิเวอร์พูล หรือแม้กระทั่งแมนยูเอง ที่เน้นผลกำไรเป็นหลัก ยากที่จะเห็นการทุ่มซื้อนักเตะแบบบ้าคลั่ง ปีแรกของโบลีย์กับ สโมสรป้ายแดงของเขาไม่ดีนัก สาเหตุหลักๆมาจากการที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลเลย ขาดคนที่มีความรู้มาซัพพอร์ต ทำให้การบริหารมั่วไปหมด ส่งผลต่อฟอร์มในสนามของทีมอันดับร่วงลงไปถึงอันดับที่ 12 หลังจบ 38 นัด การทุ่มซื้อนักเตะอย่างบ้าคลั่งของเสี่ยทอดด์ สำหรับผมต้องบอกว่าคือจุดเริ่มต้นของหายนะ การที่มีขนาดทีมที่ใหญ่เกินไป ทำให้การคุมห้องแต่งตัวเป็นเรื่องยากขึ้น ฤดูกาลเดียว เชลซีใช้โค้ชไปถึง 3 คน ใช้เงินซื้อนักเตะไป 600 กว่าล้าน บางคนซื้อมาเล่นไม่คุ้มค่าตัวอีก ปัญหาไม่ได้มีแค่เพียงที่กล่าวมานะครับ การบริหารจัดการหลังบ้านของโบลีย์ก็เป็นปัญหาใหญ่ เขาเข้ามาพร้อมกับการรีไทร์ทีมงานเก่าของยุคเสี่ยหมีออกจากสโมสรไป ไล่ไปตั้งแต่ทีมแพทย์ นักกายภาพ อีกอย่างที่มองข้ามไปไม่ได้คือการลาออกของ บรูซ บัค มาริน่า และปีเตอร์ เช็ค 3 บุคคลสำคัญของสโมสร ส่งผลกับการบริหารของคนมารับช่วงต่ออย่างทอดด์ โบลี่ย์ ที่ต้องมาควบตำแหน่งเดิมของบรูซ บัค พร้อมกับตำแหน่งเจ้าของทีม มันดูวุ่นวายไปหมด เป้าที่ตั้งไว้ก็ไปไม่ถึง ทำเอาแฟนเชลซีหวนคิดถึงวันวานในยุคของเสี่ยหมี ปัญหาแบบนี้ไม่ยักจะมี บอกได้เลยว่าผมไม่ชินกับการที่เห็นเชลซีเป็นแบบนี้เลยครับ เราทิ้งฤดูกาลนี้ไป มองไปข้างหน้ากับฤดูกาลที่จะมาถึงกันดีกว่า หลังจากการทุ่มซื้อนักเตะมาอย่างบ้าคลั่ง ซัมเมอร์นี้เชลซีจึงจำเป็นต้องขายนักเตะออกเพื่อเลี่ยงไม่ให้โดน FFP ซึ่งผมถึงกับตกใจที่ต้องเห็นนักเตะบางรายถูกขายออกจากทีมไป ไม่ว่าจะเป็น มัตเตโอ โควาซิส เมสัน เมาท์ เอ็นโกโล่ กองเต้ และไค ฮาแวตซ์ แต่รายหลังไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ เพราะดูไม่มีความสุขนานแล้ว นอกเหนือจากที่กล่าวมา ยังมีนักเตะอีกหลายรายที่จะถูกขายออกในช่วงซัมเมอร์นี้ เรียกได้ว่าล้างไพ่กันใหม่เลยทีเดียว ก็ต้องมาดูกันว่าคนที่มาแทนที่คนที่ออกไปจะเป็นใครจากไหน มีข่าวจากหลายๆสื่อบอกว่าเชลซีมีแผนที่จะเสริมนักเตะตำแหน่ง กองหน้า กองกลาง และผู้รักษาประตูใหม่ ผมเห็นด้วยกับแผนการเสริมทีมตามตำแหน่งทั้ง 3 ตำแหน่งนั้นนะครับ เป็นจุดอ่อนของทีมอยู่ ถ้าปิดตรงนี้ได้ก็มีโอกาสจะได้เห็นฟอร์มที่ดีของทีมเลยแหละ ทั้งนี้ทั้งนั้น เชลซีต้องเร่งขายคนเก่าออกไปให้ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ต้องเริ่มเจรจาดีลนักเตะใหม่ที่จะเข้ามาด้วย ทำคู่ขนานกันไปจะได้เร็วขึ้น เรามีบทเรียนจากฤดูกาลที่ผ่านมาแล้ว พอเสริมนักเตะช้า ช่วงปรีซีซั่นมีปัญหาเลย นักเตะได้ซ้อมด้วยกันน้อย ยังจูนกันไม่ติด พอแข่งจริงมีปัญหาแน่ แต่เชลซีมีข้อได้เปรียบทีมอย่าง แมนซิตี้ แมนยู อาเซน่อล อยู่นะครับ ความได้เปรียบนั้นก็คือ เชลซีไม่ได้เล่นบอลยุโรป เหนื่อยน้อยกว่า ไปเน้นในลีกได้เต็มที่ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นงานง่ายนะครับ แค่ได้เปรียบทีมอื่นๆ ก็อย่าพึ่งวางใจ เพราะระดับทีมอย่างแมนซิตี้ ที่มีขุมกำลังที่สามารถทดแทนกันได้ ตัวจริงตัวสำรองแทบไม่ต่างกัน ถึงต้องเล่นหลายเกมกว่าซิตี้ก็น่ากลัวอยู่ดีแหละครับ ในฤดูกาล 2023/24 ผมคิดว่าเชลซีจะมีฟอร์มที่ดีขึ้นนะ แต่จะไปคว้าแชมป์อะไรสักแชมป์ผมว่ายังอีกไกลอ่ะ คงต้องมองกันไปนัดต่อนัด อย่าพึ่งไปหวังแชมป์เลย เอาให้ติดท็อปโฟร์ก่อน พออยู่ในเส้นทางเดิมที่ควรจะเป็น ผมว่าเราจะได้เห็นเชลซีที่เราคุ้นเคยแน่นอน สรุป เชลซียุคใหม่ของท็อดด์ โบลี่ย์ กับการกุมบังเหียนของโค้ชชาวอาเจนไตน์อย่าง พอช ผมว่าเป็นงานที่หนักแหละ แต่เชื่อว่าพอชจะช่วยฉุดเชลซีให้กลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ได้ ตัวโบลี่ย์เองก็ประกาศแล้วว่าจะไม่ลดบทบาทไม่ไปยุ่งทีมไปมากกว่านี้ ก็ถือว่าเป็นข่าวดีกับแฟนๆสิงห์บูลนะครับ ผมไม่ได้มีอคติอะไรกับโบลี่ย์มากนัก เพราะ การบริหารเรื่องนอกสนามผมว่าเขาทำได้ดีนะ มีการเสริมทีมงานหลังบ้านที่มีประสบการณ์ แฟนๆคงต้องอดทนไปก่อน ความสำเร็จมันจะไม่วิ่งมาหาเราทันทีหรอกครับ อยากให้มองไปที่ความสำเร็จระยะยาว พอเข้าที่เข้าทางแล้ว เราอาจจะได้เห็นเชลซีติดปีกบินแบบที่แมนซิตี้เป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ครับ เครดิตภาพจาก : FBChelseaเครดิตภาพประกอบ : ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ภาพที่5 ภาพที่6เครดิตภาพปก : FBChelsea Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์