กิเลนได้ผยอง!! เมืองทอง ยังฮอตเปิดบ้านเชือด การท่าเรือ สุดเร้าใจ 2-1 (ชมคลิปไฮไลท์)

BALLYSLAM

23 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:00 )

671

เอสซีจี เมืองทองฯ ยังร้อนแรงต่อเนื่อง หลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ การท่าเรือ ไปแบบสุดมันส์ 2-1 ในเกมที่มีจังหวะเช็ค VAR หลายรอบอย่างมาก ทำให้เจ้าถิ่นพุ่งรั้งที่ 4 ส่วน ทีมเยือ ไม่ชนะใคร 5 เกมติดแล้ว

ฟุตบอล ไทยลีก 2020/2021

เอสซีจี เมืองทองฯ 2-1 การท่าเรือ เอฟซี

เริ่มครึ่งแรก นาทีที่ 2 เมืองทอง ได้ลุ้นก่อนเลย เมื่อ พ็อพพ์ ได้บอลทางซ้ายเขตโทษ ก่อนเปิดมาให้ แดร์เลย์ ใช้ขาเกี่ยวบอลแล้วหมุนตัววอลเลย์ทันที ทว่าลูกก็ยังไปตรงตัวของ วรวุฒิ ศรีสุภา นายทวารทีมเยือน

นาทีที่ 11 เจ้าถิ่น มาได้ลุ้นอีกแล้ว เมื่อ วีระเทพ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษทางซ้าย ก่อนหยอดมาให้ พ็อพพ์ ทางขวา แล้วล็อกหลบแนวรับทีมเยือนหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดเรียด ทว่า วรวุฒิ ยังล้มตัวรับไว้ได้

นาทีที่ 17 เมืองทอง เกือบขึ้นนำ จากจังหวะเตะมุม บอลเปิดมาถึง วีระเทพ เจ้าตัวล็อกบอลหนึ่งจังหวะ ทำให้บอลมาเข้าทาง แดร์เลย์ ล้มตัวยิงลูกไปแฉลบแนวรับการท่าเรือ พุ่งย้อยจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว ทว่า วรวุฒิ ถอยหลังไปปัดข้ามคานได้แบบฉิวเฉียด

นาทีที่ 25 การท่าเรือ น่าจะขึ้นนำ จากจังหวะที่ สตูเบิ้ล ได้บอลทางซ้ายเขตโทษ ก่อนเปิดเข้าในให้ บดินทร์ โหม่งเช็ดต่อไปถึง ซัวเรซ ได้โหม่งจ่อๆ ทว่า สมพร ยศ ยังปัดออกมาได้แบบสุดยอด

นาทีที่ 34 การท่าเรือ ชวดขึ้นนำ จากจังหวะที่ ธนาสิทธิ์ ไหลบอลออกทางปีกซ้ายให้ บดินทร์ วิ่งเข้ามาตบลูกเข้ากลาง และเป็น โก ซุล กิ เติมเข้ามาจับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วกดเน้นๆ ทันที ลูกพุ่งไปชนคานกระเด้งออกหลังอย่างน่าเสียดาย

เจ้าถิ่น มาได้ลุ้นขึ้นนำ ในนาทีที่ 40 เมื่อมาได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย และเป็น มีร์ซาเยฟ ที่ปั่นโค้งเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว

หมดครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

GOAL ... กลับมาเล่นในครึ่งหลัง นาทีที่ 51 เมืองทอง ก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ วัฒนากรณ์ ได้บอลทางปีกซ้าย ก่อนเปิดโค้งไปในเขตโทษ และเป็น มีร์ซาเยฟ ที่เติมเข้ามาแปเน้นๆ ลูกพุ่งตกพื้นกระเด้งเข้าไปตุงตาข่าย

GOAL ... นาทีที่ 61 การท่าเรือ มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ แนวรับทีมเยือนวางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษของเมืองทอง อดิศักดิ์ กำลังจะวิ่งไปเอาบอล ทว่ามี ชาติชาย พุ่งเข้ามาชนด้านหลังล้มลงแบบดื้อๆ กรรมการชี้ไปจุดโทษทันที และเป็น ซัวเรซ ที่รับหน้าที่สังหารไปพลาด ทำให้ทั้งสองทีมกลับมาเสมอกันที่ 1-1

GOAL ... นาทีที่ 67 กรรมการเป่าหยุดเกม หลังได้รับสัญญาณจากห้อง VAR เพื่อเช็คจังหวะจุดโทษของเจ้าถิ่น จากจังหวะที่ โก ซุล กิ พุ่งเข้าไปขวางลูกยิงของ มีร์ซาเยฟ แต่ดันกางแขนออกมา และเมื่อกรรมการเข้ามาดูที่จอและเช็คอยู่สักพัก ก็เป่าให้เป็นจุดโทษของ เมืองทอง และเป็น วิลเลี่ยน พ็อพพ์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เจ้าถิ่น ขยับสกอร์นำเป็น 2-1

นาทีที่ 70 เมืองทอง ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ได้บอลทางปีกขวา ก่อนเปิดไปในเขตโทษ วรวุฒิ ศรีสุภา พุ่งออกมาตัดไม่โดนบอล ลูกตกมาใส่ พ็อพพ์ กระเด้งมาเข้าทาง แดร์เลย์ ยิงเข้าไปแบบง่ายๆ ทว่าเมื่อเช็คภาพจาก VAR แล้ว กลายเป็นลูกแฮนด์บอลของ พ็อพพ์ ทำให้ลูกนี้ยังไม่ได้ประตู

นาทีที่ 75 เจ้าถิ่น ชวดได้ประตูนำห่าง เมื่อ พิชา ได้บอลหลุดกับดักล้ำหน้าลากบอลขึ้นมาคนเดียว ก่อนไหลมาให้ แดร์เลย์ ในกรอบเขตโทษแบบโล่งๆ ทว่ายังมี นิติพงษ์ สปีดตามเข้ามาเบียดในจังหวะสุดท้าย ทำให้ยิงออกหลังไปแบบไม่น่าเชื่อ

นาทีที่ 81 การท่าเรือ ชวดได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ อดิศักดิ์ ได้บอลทางขวาเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ โก ซุล กิ ตรงกลางหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ดาวเตะเกาหลีใต้ จะไหลต่อมาให้ ซัวเรซ วิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวา ลูกพุ่งเฉี่ยวคานออกไปนอดเดียวเท่านั้น

ท้ายเกม นาทีที่ 88 ทีมเยือน น่าจะตีเสมอย่างที่สุด เมื่อ โก ซุล กิ ได้วอลเลย์เน้นๆ ตรงกรอบเขตโทษ ทว่า สมพร ยศ ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟปัดข้ามคานออกไปได้หวุดหวิด

ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 3 เมืองทอง ชวดได้ประตูอีกแล้ว เมื่อ พ็อพพ์ ได้บอลทางขวา ก่อนหยอดไปในเขตโทษ และเป็น แดร์เลย์ วิ่งเข้ามาโขกลงพื้น และเป็น พิชา ที่พุ่งโหม่งตามน้ำจ่อๆ ทว่าลูกไปชนเสากระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาการแข่งขัน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ การท่าเรือ เอฟซี ไปแบบสุดเร้าใจ 2-1 จากชัยชนะนัดนี้ส่งให้ เจ้าถิ่น ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของตารางแล้ว ส่วน ทีมเยือน ไม่ชนะใครมา 5 เกมติดแล้ว และเป็นการพ่ายแพ้ถึง 4 นัดด้วยกัน

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : สมพร ยศ (GK), วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร, ลูคัส โรช่า, ชาติชาย แสงดาว, บุญทวี เทพวงศ์, วีระเทพ ป้อมพันธ์, ฉัตรมงคล ทองคีรี, วงศกร ชัยกุลเทวินทร์, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ, วิลเลี่ยน พ็อพพ์, แดร์เลย์

การท่าเรือ เอฟซี : วรวุฒิ ศรีสุภา (GK), นิติพงษ์ เสลานนท์, เอเลียส ดอเลาะ, วรวุฒิ นามเวช, มาร์ติน สตูเบิ้ล, โก ซุล กิ, ศิวกร จักขุประสาท, เซร์คิโอ ซัวเรซ, บดินทร์ ผาลา, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา, ยานนิค โบลี

-------------------------------------------------