เกือบชวดที่จะขึ้นเป็นจ่าฝูงซะแล้ว สำหรับ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซนอลที่เปิดบ้านเอมิเรตส์เอาชนะ "ผึ้งน้อย" เบรนท์ฟอร์ดในเกมลอนดอน ดาร์บีไปได้ 2-1 จากประตูชัยจากไค ฮาแวร์ตในช่วงท้ายเกมซึ่งในเกมนี้พวกเขามีจ่าฝูงของตารางคะแนนเป็นเดิมพัน เพราะถ้าหากไม่ชนะก็จะทำได้เพียงแซงแมนเชสเตอร์ ซิตีขึ้นมาอันดับ 2 แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทำได้ เพราะถึงแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดจากอารอน แรมส์เดลจนเสียประตู แต่อย่างที่บอกครับว่าฮาแวร์ตก็ช่วยชีวิตไว้ และจนในตอนนี้หลังจบเกมที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเสมอกับแมนซิตี้ 1-1 ก็ทำให้ยิ่งอาร์เซนอลทำอาร์เซนอลรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไปได้ด้วยการมีคะแนนเท่ากับลิเวอร์พูลที่ 64 คะแนน แต่อาร์เซนอลได้เปรียบเรื่องประตูได้เสียจึงเป็นจ่าฝูงไปแบบหล่อๆและสำหรับบทความนี้ผมก็ได้รวบรวม 5 ประเด็นที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในเกมนี้ครับ จะมีประเด็นในเรื่องใดบ้าง ไปดูกันเลยครับแรมส์เดลแจกโชคในการเจอกับเบรนท์ฟอร์ดในเกมนี้ อาร์เซนอลนั้นไม่สามารถส่งดาบิด รายาลงสนามได้ เนื่องจากรายานั้นเป็นนักเตะที่ปืนใหญ่ยืมมาจากเบรนท์ฟอร์ดและตามปกติแล้วมักจะไม่ส่งนักเตะที่ยืมมาลงเจอกับต้นสังกัดที่ยืมมา มันจึงเป็นโอกาสของอารอน แรมส์เดลที่ได้รับโอกาสลงสนามในเกมนี้แต่ หากย้อนไปในฤดูกาลที่แล้วก็ต้องยอมรับว่าแรมส์เดลนั้นคือคนสำคัญที่ช่วยให้อาร์เซนอลนั้นมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี แต่เหมือนแรมส์เดลยังไม่ดีพอจึงทำให้มิเกล อาร์เตตานั้นเบนเป้าไปยืมรายามาจากเบรนท์ฟอร์ดเพื่อมาเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมและแรมส์เดลก็ตกเป็นมือ 2 ไปโดยปริยายและอย่างที่บอกครับว่าในเกมนี้รายาลงไม่ได้ แรมส์เดลก็จึงต้องลงเล่นแทนซึ่งแทนที่แรมส์เดลจะทำผลงานให้อาร์เตตาและแฟนบอลนั้นประทับใจและดีใจที่จะมีผู้รักษาประตูที่ดีถึง 2 คนแต่สิ่งที่เขาทำนั้นเหมือนโยนโอกาสนั้นไป เพราะหลังจากที่อาร์เซนอลขึ้นนำได้ก่อนจากเดแคลน ไรซ์ เกมก็เป็นของอาร์เซนอลแบบแทบจะเบ็ดเสร็จ 100% เกมในช่วงครึ่งแรกกำลังจะจบแล้ว ทดเวลา 3 นาทีก็หมดแล้วเหลืออีกไม่ถึง 20 วินาที แต่แรมส์เดลนั้นกลับพลาดแบบง่ายๆ เพราะเหมือนเขาไม่ทันระวังโยอัน วิสซาที่วิ่งเข้ามาเพรสซิงในกรอบ 6 หลาและสุดท้ายเขาก็เปิดบอลไปติดวิสซา บอลลอยเข้าประตูไปแบบงงๆ งงยันแฟนบอลที่ดูที่คิดว่าแรมส์เดลทำอะไร เสียประตูแบบไม่น่าเสียโอเคแหละครับถึงแม้ว่าในครึ่งหลังเขาจะมีจังหวะเซฟเหน่งๆ 2 ครั้ง ช่วยให้ทีมไม่เสียประตูแล้ว แต่ถ้าเทียบกับประตูที่เขาทำเสียแล้ว มันเทียบกันไม่ได้เลยในด้านของความรู้สึก เพราะนับตั้งแต่ที่เขาพลาดไป มันทำให้แฟนบอล "ระแวง" อยู่ตลอดว่าเขาจะพลาดอีกหรือไม่ซึ่งในครึ่งหลังเขาก็เปิดบอลขึ้นหน้าให้เร็วขึ้น ไม่รอให้ผู้เล่นของเบรนท์ฟอร์ดวิ่งเข้ามากดดันใกล้ตัวแบบประตูที่เสีย และความจริงแล้วเกมนี้ไม่ใช่เกมแรกที่เขามีข้อผิดพลาดจนทีมเสียประตู ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขามักจะมีจังหวะผิดพลาดอยู่ประจำ รวมไปถึงการออกบอลที่ความแม่นยำนั้นที่เหมือนยังสู้ทางรายาไม่ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่อาร์เตตาไปยืมรายามาจากเบรนท์ฟอร์ดเพื่อมาเป็นมือ 1 ของทีมเบรนท์ฟอร์ดต่อยเจ็บเหมือนกันถึงแม้ว่าประตูที่เบรนท์ฟอร์ดได้มาในเกมนี้จะมาจากข้อผิดพลาดส่วนตัวของแรมส์เดล ไม่ได้มาจากการเข้าทำด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกมนี้เบรนท์ฟอร์ดสร้างความกังวลให้กับอาร์เซนอลได้ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในเกมรุกที่มีทั้งไอแวน โทนีย์และโยอัน วิสซาคอยเล่นงานเกมรับของอาร์เซนอลอยู่ โดยถึงแม้ว่าประตูที่ได้จะไม่ได้มาจากการเข้าทำของตัวเอง แต่นั่นก็คือรูปแบบ วิธีการเล่นของพวกเขาที่วิ่งบีบใส่แรมส์เดลและมันก็ได้ผลจริงๆ และตลอดทั้งเกมพวกเขามีโอกาสยิงทั้งหมด 8 ครั้งนอกจากนี้ในฤดูกาลนี้อาร์เซนอลคือทีมที่ได้ประตูจากลูกเซ็ตพีทเยอะที่สุดในพรีเมียร์ลีก แต่ในเกมนี้ลูกตั้งเตะของอาร์เซนอลใช้ไม่ได้ผลเลย มิหนำซ้ำพวกเขากลับโดนเบรนท์ฟอร์ดเล่นงานจากลูกตั้งเตะ ลูกโด่งซะอีก โดยเฉพาะการมีอยู่ของโทนีย์ที่เก็บกินลูกโหม่งได้ตลอดทั้งเกม พักบอล พิงผู้เล่นอาร์เซนอลและสร้างความปั่นป่วนได้ตลอด และเกือบทำประตูด้วยลูกยิงสุดสวยอีกด้วย เพราะเขาลักไก่ยิงไกลในจังหวะที่แรมส์เดลออกมาไกลจากประตู บอลเกือบฮุกเข้าประตูแล้ว ยังดีของอาร์เซนอลที่แรมส์เดลนั้นถอยออกหลังปัดข้ามคานไปได้แบบหวุดหวิด แถมโทนีย์ก็ยังมีสถิติที่ชนะการดวลกลางอากาศเยอะในเกมนี้เยอะที่สุดอีกด้วย และนี่คือสถิติหลังเกมของโทนีย์ในการพบกับอาร์เซนอลครับสัมผัสบอล 40 ครั้งชนะการแทคเกิลและเคลียร์บอลอย่างละ 2 ครั้งดักบอลและบล็อคลูกยิงอย่างละ 1 ครั้งชนะการดวลกลางอากาศ 7 ครั้ง (มากที่สุดในสนาม)สร้างสรรค์โอกาส 2 ครั้ง (มากที่สุดในทีม)โอกาสยิง 2 ครั้งขาดมาร์ติเนลลีส่งผลเลยจอร์แดน แคมป์เบลล์ ผู้สื่อข่าวของ The Athletic ให้ความเห็นในเกมนี้ว่ามิเกล อาร์เตตานั้นจำเป็นต้องส่งเลอันโดร ทรอสซาร์ดลงสนามแทนกาเบรียล มาร์ติเนลลีที่ได้รับอาการบาดเจ็บในเกมที่บุกไปถล่มเชฟฟิล์ด ยูไนเต็ด 0-6 ซึ่งในเกมนั้นเขาโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 64 ของเกม แถมในเกมนั้นเขาก็สามารถยิง 1 แอสซิสต์ 1 ได้อีกด้วย แต่อย่างที่บอกครับว่าไม่สามารถเล่นจนจบเกมได้ในเกมนี้จึงเป็นหน้าที่ของทรอสซาร์ดลงสนามแทน แต่ดูเหมือนว่าทรอสซาร์ดนั้นจะยังไม่สามารถทำผลงานได้ดีเท่าที่ควร ดูเล่นไม่ค่อยเข้าขากับยาคุบ คิวิออร์ เซนเตอร์แบ็คชาวโปแลนด์ที่โดนโยกให้มาเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายในช่วงหลัง นอกจากนี้เขาดูเหมือนว่าจะโดนกองหลังของเบรนท์ฟอร์ดจับทางได้ จนสุดท้ายก็เล่นไม่ออกเท่าไหร่ในเกมนี้ เพราะตลอดทั้งเกมเวลาที่เขาได้บอลเข้ามักจะเลี้ยงจี้ตัดเข้าในจนอย่างที่บอกครับว่ากองหลังเบรนท์ฟอร์ดจับทางได้หมดซึ่งมันแตกต่างจากมาร์ติเนลลีพอสมควร และถึงแม้เสียงของแฟนบอลอาร์เซนอลจะแตกพอสมควรถึงการเล่นของมาร์ตี้ มีทั้งบ่นทั้งชม แต่ในเกมนี้เมื่อเทียบกับทรอสซาร์ดแล้วก็ต้องยอมรับว่าเขาทำได้ดีกว่าทรอสซาร์ด เพราะมาร์ตี้ไม่เพียงแต่จะเลี้ยงตัดเลี้ยงจี้เข้าใน แต่บางครั้งเขาก็มักจะเลี้ยงไปสุดเส้นก่อนที่จะจ่ายหักเข้ามาข้างในให้เพื่อนได้เข้า Tap-in เข้าไป มาร์ตี้นั้นโดดเด่นมากๆ เวลาที่เขาอยู่ริมเส้นซึ่งนั่นก็คืออาวุธเด็ดของตัวเองเลย การหายไปของมาร์ติเนลลีในเกมนี้เลยส่งผลให้เห็นพอสมควรไรซ์เก็บกินลูกโหม่งต่อจากข้อที่แล้วครับที่ผมได้บอกไปว่าถึงแม้อาร์เซนอลจะเป็นเจ้าพ่อลูกนิ่งในฤดูกาลนี้แต่กับเบรนท์ฟอร์ดนั้น พวกเข้าไม่สามารถเจาะตาข่ายได้จากลูกตั้งเตะเลย เจาะไม่ได้ไม่พอจะโดนเล่นงานจะลูกโด่งอีกด้วย แต่สุดท้ายจะมีหนึ่งคนครับที่คอยจัดการลูกโหม่งของทางเบรนท์ฟอร์ดได้อยู่ตลอด คนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนครับ คนนั้นๆ ก็คือ เดแคลน ไรซ์ คนดีคนเดิมครับที่คอยช่วยสกัดกั้นไว้ได้หมดในเกมนี้เบรนท์ฟอร์ดนั้นเล่นงานอาร์เซนอลด้วยลูกครอส, ลูกโด่งและเซ็ตพีทรวมกันทั้งหมด 9 ครั้ง แต่ไรซ์นั้นก็สามารถช่วยไว้ได้เกือบทั้งหมด เพราะเขามีสถิติชนะในการดวลลูกกลางอากาศเยอะที่สุดในทีมถึง 6 ครั้ง รองลงมาก็คือคู่เซนเตอร์อย่างกาเบรียล มากัลเญซและวิลเลียม ซาลิบาที่คนละ 4 ครั้ง แต่ไรซ์ไม่ได้ช่วยเพียงแค่ในเรื่องของลูกกลางอากาศ แต่บนพื้นดินเขาก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะในเกมนี้เขาคือคนที่แย่งบอลกลับมาครองให้กับอาร์เซนอลได้ถึง 4 ครั้งที่สุดยอดไปกว่านั้นคือเขาคือคนที่ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 19 ซึ่งก็มาจากลูกโหม่งเหมือนกัน บ่งบอกให้เห็นว่านอกจากเกมรับที่จะโดดเด่นแล้ว เกมรุกของน้องข้าวก็ดีไม่แพ้กันและนี่คือสถิติของหลังเกมที่พบกับเบรนท์ฟอร์ดของเดแคลน ไรซ์ครับสัมผัสบอล 61 ครั้งผ่านบอล 42 ครั้ง (แม่นยำ 78.6%)แย่งบอลกลับมาครอง 4 ครั้ง เคลียร์บอลและบล็อคลูกยิงอย่างละ 1 ครั้งโอกาสยิง 3 ครั้ง1 ประตูฮาแวร์ตดีต่อเนื่องพูดถึงคนยิงประตูขึ้นนำไปแล้วจะไม่พูดถึงคนยิงประตูชัยให้ทีมชนะก็คงไม่ได้ สำหรับน้องไก่หรือในตอนนี้คือ "คิงไค" ไค ฮาแวร์ตที่ในเกมนี้เขาคือคนที่โขกประตูชัยช่วยให้อาร์เซนอลเฉือนชนะเบรนท์ฟอร์ดไปได้ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 86 ซึ่งฟอร์มในช่วงหลังมานี้ของฮาแวร์ตนั้นที่น่าประทับใจขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาเข้าไปอยู่ในหัวใจของเดอะ กูนเนอร์สเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพราะต้องยอมรับว่าในช่วงแรกที่เขาย้ายจากเชลซีมาอยู่กับอาร์เซนอลด้วยค่าตัวระดับ 60 ล้านปอนด์ ฮาแวร์ตนั้นยังทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจซักเท่าไหร่ 8 เกมแรกรวมทุกรายการ เขาไม่มีส่วนร่วมกับประตูเลยแม้แต่ลูกเดียวก่อนที่จะมาปลดล็อคประตูแรกได้ในเกมที่พบกับบอร์นมัธในเดือนกันยายน 2023 ซึ่งเกมถัดไปที่เปิดบ้านเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตีได้ 1-0 เขาก็เป็นคนแอสซิสต์ให้กับมาร์ติเนลลียิงประตูชัยให้กับทีม โดยหลังจากนั้นฟอร์มของเขาก็ยังขึ้นๆ ลงๆ ทรงๆ ไม่ดีแต่ก็ไม่ได้แย่อะไร จนมาในช่วงหลัง นับตั้งแต่เข้าปี 2024 มานี้ โดยเฉพาะ 4 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ฮาแวร์ตมีส่วนร่วมกับประตูไปแล้ว 6 ลูก แบ่งเป็นยิง 4 แอสซิสต์ 2 เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้อาร์เซนอลนั้นเก็บชัยชนะในลีกมาได้ถึง 8 เกมติดต่อกันนับตั้งแต่เข้าปี 2024 มานี้จนปัจจุบันพวกเขากลายเป็นจ่าฝูงในตารางคะแนนเป็นที่เรียบร้อย โดยฮาแวร์ตอาจจะไม่ใช่กองหน้าประเภทโป้งปิดบัญชีหรือมีความเร็วอะไร แต่สิ่งที่มาทดแทนนั่นก็คือเซนส์บอลและทักษะในการเล่นฟุตบอล First Touch ของฮาแวร์ตนั้นเป็นจุดเด่นของเขามากๆ จับบอลเล่นต่อได้สบาย นอกจากนี้เซนส์บอลก็สูงมาก เล่นได้เข้าขากับแนวรุกทุกคนของอาร์เซนอล รวมไปถึงการเป็นตัวค้ำอยู่ข้างหน้า พักบอลให้เพื่อนร่วมทีมเล่นต่อได้อยู่ตลอดซึ่งที่มันเจ็บแสบอีกครั้งก็เพราะว่าในเกมแรกที่คู่นี้เจอกันในฤดูกาลนี้ อาร์เซนอลสามารถบุกไปเอาชนะเบรนท์ฟอร์ดได้ถึงถิ่น 0-1 ซึ่งคนยิงประตูชัยก็คือฮาแวร์ตคนดีคนเดิมนี่แหละ เท่ากับว่าฤดูกาลนี้คิงไคคือตัวแสบของเบรนท์ฟอร์ดและคนยิงประตูชัยให้กับอาร์เซนอลทั้งสองเกมที่เจอกันซึ่งก่อนจากกันไปผมก็นำเอาสถิติหลังเกมของฮาแวร์ตมาฝากครับสัมผัสบอล 45 ครั้งผ่านบอล 48 ครั้ง (แม่นยำ 83.9%)ชนะการดวลกลางอากาศ 2 ครั้งโอกาสยิง 4 ครั้ง (เข้ากรอบ 2 ครั้ง)1 ประตูชัย1 รางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์สถิติหลังเกมที่น่าสนใจอาร์เซนอลเป็นทีมที่ 4 ของพรีเมียร์ลีกที่สามารถเก็บชัยชนะในลีกได้ 8 นัดแรกของปีปฏิทินต่อจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดปี 2009, ลิเวอร์พูลปี 2020 และแมนเชสเตอร์ ซิตีปี 2021 โดยทั้ง 3 ครั้งก่อนหน้านั้นทั้งสามทีมนั้นล้วนจบด้วยการเป็นแชมป์ทุกครั้งก่อนเกมนี้ครั้งล่าสุดที่อาร์เซนอลชนะ 8 เกมพรีเมียร์ลีกติดต่อกันต้องย้อนไปในเดือนเมษายน 2015 ในยุคของอาร์เซน เวนเกอร์เบรนท์ฟอร์ดแพ้ไปแล้ว 13 เกมจาก 17 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุด (เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 12 พศจิกายน 2023) กลายเป็นสถิติที่แพ้เยอะที่สุดที่สุดนับตั้งแต่ที่พวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกอาร์เซนอลยิงไปแล้ว 70 ประตูหลังจากผ่านไป 28 เกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ซึ่งกลายเป็นสถิติที่สามารถยิงได้มากกว่า 70 ประตูได้ไวที่สุดของสโมสรนับตั้งแต่ฤดูกาล 1963/1964 ที่ใช้เวลาไป 27 เกมประตูของไค ฮาแวร์ตในเกมนี้ กลายเป็นเกมที่ 4 ในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันแล้วที่เขายิงได้ซึ่งกลายเป็นสถิติที่ดีที่สุดในอาชีพการค้าแข้งเลย หลังจากที่เคยทำประตู 4 เกมติดต่อกันเพียงครั้งเดียวจากการลงเล่นในลีก 32 เกมก่อนหน้านี้หลังจากที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมา 232 เกม นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เดแคลน ไรซ์สามารถทำประตูได้ 2 เกมติดต่อกัน และในปี 2024 นี้เขามีส่วนร่วมกับประตูไปแล้ว 7 ประตู (ยิง 3 แอสซิสต์ 4) ซึ่งมากที่สุดเทียบเท่ากับที่เขาทำได้ตลอดปี 2023 ที่ยิง 6 แอสซิสต์ 1เกมนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ลงเล่นพรีเมียร์ลีกมา 133 เกมที่เบน ไวท์สามารถทำ 2 แอสซิสต์ได้ภายในเกมเดียว และเป็นกองหลังของอาร์เซนอลคนแรกที่ทำ 2 แอสซิสต์ได้ในพรีเมียร์ลีกเกมเดียวนับตั้งแต่ที่เอคตอร์ เบเยรินทำได้ในเกมที่พบกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดในเดือนตุลาคม 2020จากการทำประตูในเกมนี้ทำให้โยอาน วิสซานั้นสามารถทำประตูในพรีเมียร์ลีก 3 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ย้ายมาจากลอริยงต์ในเดือนสิงหาคม 2021 และเป็นครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งของตัวเองเลย นอกจากนี้ยังทำให้ตลอด 3 ฤดูกาลที่เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีก เขาสามารถยิงได้ 7 ประตูทุกฤดูกาลคลิปไฮไลท์https://www.youtube.com/watch?v=umfJsiPGRnEบทความที่น่าสนใจลิเวอร์พูล, แมนซิตี้หรืออาร์เซนอล!!!? วิเคราะห์ใครจะเข้าวินแชมป์พรีเมียร์ลีกพ่อหมี VVD พลาดคู่, ปืนดุดัน!!! 5 ประเด็นหลังเกมปืนใหญ่ยิงหงส์ไส้แตกแดงเดือดของแทร่!!! 5 ประเด็นหลังเกมลิเวอร์พูลไล่ตีเสมออาร์เซน่อลฟอร์มไม่หล่อแต่อร่อย!!! อาร์เซน่อลจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 20 ปี ?5 ประเด็นหลังเกมแห่งคอนเทนต์ อาร์เซนอลพลิกกลับมาชนะแมนยู 3-1ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากOpta Analyst, Whoscored และ TransfermarktOfficial Facebook และ X ของพรีเมียร์ลีก (@premierleague), อาร์เซนอลและเบรนท์ฟอร์ดภาพปก 1, ภาพปก 2, ภาพปก 3, ภาพประกอบ 1, ภาพประกอบ 2, ภาพประกอบ 3, ภาพประกอบ 4 และภาพประกอบ 5 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !