4 ประเด็นสำคัญก่อนเกม "อินโดนีเซีย พบ ไทย" รอบชิงศึกซูซูกิคัพวันนี้
ในที่สุด ศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ก็เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการเจอกันระหว่าง "ช้างศึก" ทีมชาติไทย พบกับ "อิเหนา" อินโดนีเซีย ซึ่งจะลงสนามนัดแรก ในวันที่ 29 ธันวาคม และนัดที่สอง วันที่ 1 มกราคม ซึ่งก่อนจะไปติดตามเกมการฟาดแข้ง เรามาอุ่นเครื่องกันด้วยประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองสำหรับเกมคู่นี้
ใครจะยืนแทน ธีราทร
ในเกมรอบชิงชนะเลิศนัดแรก ทีมชาติไทยจะไร้เงา "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายตัวหลัก ซึ่งติดโทษแบน เนื่องจากสะสมครบ 2 ใบเหลือง ซึ่งน่าสนใจว่า กุนซือมาโน่ โพลกิ้ง จะส่งใครลงมาประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้ายแทน
ทั้งนี้ ในขุมกำลังที่เหลือของไทยยังมีแบ็กซ้ายอาชีพอีกคนคือ สุริยา สิงห์มุ้ย หรืออีกทางเลือกหนึ่ง มาโน่ อาจใช้บริการ ทริสตอง โด ซึ่งปกติเล่นเป็นแบ็กขวา แต่เคยถูกจับไปยืนแบ็กซ้ายมาแล้วในเกมนัดแรกที่พบกับ ติมอร์ เลสเต หรือไม่ก็ยังมี ฟิลิป โรลเลอร์ แบ็กขวาจากการท่าเรือ ที่สามารถโยกไปรับบทแบ็กซ้ายจำเป็นได้เช่นกัน
สปิริตช้างศึกสุดมุ่งมั่น
เกมนี้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายด่านจอมเก๋าจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะได้ลงยืนเฝ้าเสาแทน ฉัตรชัย บุตรพรหม ที่เอ็นเข่าฉีกจากนัดที่แล้ว จนต้องพักปิดเทอมยาวไปเป็นที่เรียบร้อย
ด้วยคุณภาพของ ศิวรักษ์ เชื่อว่าไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ และสามารถทดแทน ฉัตรชัย ได้แน่นอน โดยเห็นได้จากนัดที่แล้วที่พบกับเวียดนาม ซึ่ง "เจ้าแชมป์" โชว์ความนิ่งให้เห็น และไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเลย
ขณะเดียวกัน จากอาการบาดเจ็บหนักของฉัตรชัย ซึ่งคาดว่าต้องพักอย่างน้อยครึ่งปี ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นที่ทำให้ขุนพลช้างศึกมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์ให้ได้ โดยผู้เล่นหลายคนต่างออกมาโพสต์ข้อความให้กำลังใจผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมถึง มาโน่ ที่ระบุหลังฝ่าด่านเวียดนามในรอบตัดเชือกว่า
"เราต้องขอบคุณเขาที่ป้องกันจังหวะนั้นให้เรา เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อให้ได้แชมป์ และเพื่อบอย (ฉัตรชัย) ที่รับบาดเจ็บหนักในเกมนี้"
อินโดฯหวังแชมป์สมัยแรก
อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในทีมแกร่งของอาเซียน แต่พวกเขากลับไม่เคยได้ฉลองแชมป์รายการนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยที่ผ่านมา แข้งอิเหนาเคยทะลุเข้าถึงรอบชิงมาแล้ว 5 ครั้ง ปรากฏว่าอกหักแพ้ได้รองแชมป์ทุกครั้ง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการพ่ายต่อทีมชาติไทยถึง 3 ครั้ง ในปี 2000, 2002 และ 2016
และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ที่อินโดนีเซียจะได้ลุ้นแชมป์ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งพวกเขาหวังที่จะปลดล็อกผงาดแชมป์อาเซียนเป็นสมัยแรกให้ได้ ยุติการรอคอยนับตั้งแต่ฟุตบอลรายการนี้จัดการแข่งขันมานานถึง 25 ปีแล้ว
"เราทราบดีว่าเราผิดหวังในรอบชิงมาแล้วถึง 5 ครั้ง แต่พวกเราก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร" เอกี้ เมาลาน่า ตัวรุกของอินโดนีเซีย กล่าว
"เราต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ซึ่งบางคนอาจมองว่าทีมชาติไทยแข็งแกร่งกว่าพวกเรา แต่ผมก็ไม่กลัว ถ้าเราเชื่อว่าเราจะกลับบ้านพร้อมกับถ้วยแชมป์ มันก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้"
ชิน แตยัง : อาวุธเด็ดทัพอิเหนา
แฟนบอลหลายคนอาจทราบดีว่า อินโดนีเซียใช้ผู้เล่นสายเลือดใหม่เป็นแกนหลักของทีม ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงแล้ว ดีกรีและชื่อชั้นของแข้งอิเหนาชุดนี้ดูจะเป็นรองผู้เล่นไทยอยู่พอสมควร
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งที่อินโดนีเซียสามารถนำมาสู้ได้อย่างไม่เป็นรองคือตัวกุนซือ ชิน แตยัง เฮดโค้ชเกาหลีใต้วัย 51 ปี ซึ่งเข้ามาปลุกวงการลูกหนังอินโดฯ ให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง
ก่อนหน้าที่จะมารับงานคุมแข้งอิเหนา ชิน แตยัง เคยคุมทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่ลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งถึงแม้จะไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม แต่เขาก็มีผลงานชิ้นโบแดง นั่นคือการพา เกาหลีใต้ อัด เยอรมนี 2-0 ในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย พร้อมกับดึงทีมอินทรีเหล็กตกรอบตามไปด้วยแบบช็อกโลก
หลังจากนั้น ชิน แตยัง มารับงานคุมอินโดนีเซียในปี 2019 และค่อยๆ สร้างทีมใหม่ขึ้นมา แม้ว่าอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นคว้าแชมป์ใดๆ แต่ทัพนักเตะ "การูด้า" ก็มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ และการทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ ก็เป็นการส่งสัญญาณให้ทุกคนรู้ว่า อินโดนีเซีย พร้อมแล้วที่จะกลับมาผงาดในเวทีอาเซียนอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อินโดนีเซีย VS ไทย : พรีวิว ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 (ลิ้งดูบอลสด)
- มีขุมกำลังทดแทน!! มาโน่ไม่หนักใจ ไร้ "ธีราทร-ฉัตรชัย" บู๊ อินโดนีเซีย นัดชิงซูซูกิคัพ
- ข่มมิด!! เปิดสถิติ ไทย ชิง อินโดนีเซีย 3 ครั้ง ผงาดแชมป์ทั้งหมด
- (คลิปไฮไลท์) ช้างศึกเข้าชิง!! ไทย เกมรับเหนียว เจ๊า เวียดนาม 0-0 ศึกซูซูกิ คัพ 2020
- ผลและโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 พร้อมช่องถ่ายทอดสด
-------------------------------------------------
ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก
มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนทรรศนะ ตามประสาคนรักกีฬากันได้ที่ TrueID Community คลิกเลย!