EXCLUSIVE : "ฟ็อกซ์ ฮันท์" ลับแข้งกับชัยชนะ 100% บนผืนดินสยาม ... by "Arm Phukrit"

แข้งเยาวชน ฟ็อกซ์ ฮันท์ ได้เดินทางมาลับแข้งที่ประเทศไทย เป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน โดยลงแข่งขันไปทั้งหมด 3 นัด สามารถเก็บชัยชนะไปได้ 100%

ฟ็อกซ์ ฮันท์ รุ่นที่ 2 กับ รุ่นที่ 3 เดินทางบินลัดฟ้ามาจากประเทศอังกฤษ พร้อมกับทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช เพื่อลงแมตช์อุ่นเครื่องจำนวน 3 แมตช์ ในประเทศไทย โดยแข่งที่กรุงเทพมหานครไป 2 แมตช์ พบกับ ศิริศักดิ์ อะคาเดมี่ และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด U16 และอีกหนึ่งแมตช์ไปแข่งขันกันที่ จ.เชียงใหม่ กับ เชียงใหม่ เอฟซี U16 ผลการแข่งขันถือเป็นที่น่าพอใจ ได้รับชัยชนะทั้ง 3 นัด ถือเป็นชัยชนะ 100% ของการมาในครั้งนี้

สำหรับตัวผมเองได้มีโอกาสไปนั่งชมเกมอุ่นเครื่องถึง 2 แมตช์ คือแมตช์ที่เอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด U16 ไปได้ 3-0 และแมตช์ที่เอาชนะ เชียงใหม่ เอฟซี U16 ไปได้ 2-1 โดยสิ่งที่ผมได้เห็นในทั้งสองเกมสำหรับ ฟ็อกซ์ ฮันท์ มีดังนี้

• พละกำลัง จังหวะการปะทะ

ครั้งแรกที่ผมได้เห็นน้องๆ ขณะกำลังเดินเข้ามาสู่สนามทรู สเตเดี้ยม (ธรรมศาสตร์ รังสิต) สิ่งแรกที่คุยกับตัวเองในหัวเลยคือว่า (โห….ไปกินนมยีราฟกันมาหรือเปล่าว่ะเนี่ย ?) น้องๆ รุ่น 2-3 ในวันที่ผมได้เจอครั้งแรก กับในวันที่พวกเขาเดินทางมาอุ่นเครื่องมันช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน น้องๆ เดินมาด้วยสีหน้าและแววตาที่มุ่งมั่น พร้อมที่จะโชว์เพลงแข้งให้กับเราได้เห็นในสนาม

สำหรับการแข่งขันในสนาม อีกอย่างที่ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์คือ พละกำลังที่เรียกได้ว่าโคตรฟิต บวกกับจังหวะการเข้าปะทะชนิดที่เรียกว่าถึงลูกถึงคนมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่การตัดบอลนั้นไม่ใช่การไปทำร้ายคู่ต่อสู้ แต่มันคือการทำลายจังหวะของทีมฝั่งตรงข้ามต่างหาก ในเรื่องนี้ผมขอชื่นชมเลยว่า เป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์กับนักฟุตบอลไทยของเราในอนาคตอย่างมาก

• ความเป็นมืออาชีพของสต๊าฟฟ์โค้ช นักฟุตบอล

สำหรับ เลสเตอร์ ซิตี้ ถือได้ว่าเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีศูนย์ฝึก อะคาเดมี่ นับว่าเป็น 1 ใน 10 ศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดในอังกฤษ สำหรับสต๊าฟฟ์โค้ชในทีมจะแบ่งหน้าที่แตกต่างกันออกไป จะคอยดูแลน้องๆ เปรียบเสมือนกับ First Team ในระดับฟุตบอลอาชีพเลยทีเดียว

เวลาอยู่ในสนามทุกคนต่างทำหน้าที่และทำงานของตัวเอง โค้ชมีหน้าที่ฝึกสอน น้องๆนักฟุตบอลมีหน้าที่รับฟังคำสั่งและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเปรียบเสมือนเจ้านายและลูกน้อง แต่เวลาอยู่นอกสนาม ผมได้เห็นถึงความสนิทสนทกลมกลืนระหว่างน้องๆ และทีมสต๊าฟฟ์โค้ชที่เปรียบเสมือนพี่ชายกับน้องชายกันเลยทีเดียว

โดยในวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ทีมงานได้มีการจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับ ชาร์ลี เชอร์วู้ด สต๊าฟฟ์โค้ชในทีม และมีทางด้าน “โจ”ชินวัตร ชีมูล ศูนย์หน้าของทีมขึ้นร้องเพลงเล่นกีต้าร์อวยพรวันเกิดให้กับผู้ที่เป็นทั้งพี่ชาย และโค้ชของเขาอีกด้วย ถือเป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก

• ทัศนคติในการเล่นฟุตบอล

เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าในการเล่นฟุตบอลของเด็กไทยนั้นจะมีความเห็นแก่ตัว ขี้เลี้ยง อยากโชว์ว่าตัวเองเล่นได้ดีที่สุด โดยไม่คำนึงถึงเพื่อนร่วมทีม ซึ่งมันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง น้องๆ ฟ็อกซ์ ฮันท์ ได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติกันเรียบร้อยแล้ว จากการขัดเกลาของทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช ที่เน้นให้เล่นฟุตบอลกันอย่างเป็นระบบ ที่ให้จ่ายบอลให้เพื่อนง่ายๆ ทำชิง 1-2, ให้แล้วไป, วิ่งหาพื้นที่, ช่วยกันเล่นเป็นทีม และต่างคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเองว่า ต้องทำอะไร ใครมีหน้าที่จ่ายบอล ใครมีหน้าที่วิ่งทำทางให้เพื่อน รวมไปถึงการเรียบรู้ระบบการเล่นของทีมทั้งหมด

ซึ่งถือว่า น้องๆ ก็ทำได้ดีในระดับนึงสำหรับการเล่นฟุตบอลในทิศทางที่ถูกที่ควร และมีเป้าหมายเดียวกันคือ การส่งบอลเข้าประตูคู่แข่งให้ได้เร็วและมากที่สุด เพื่อการเป็นผู้ชนะที่ครบถ้วนสมบูรณ์ในเรื่องผลการแข่งขันและการทำตามแท็คติก

ผมได้มีโอกาสได้พูดคุยกับทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชถามถึงการมาอุ่นเครื่องที่ประเทศไทยว่าเป็นอย่างไรบ้างกับชัยชนะทั้ง 3 เกม โดยคิดเป็น ชัยชนะ 100% และผมก็ได้คำตอบกลับมาสั้นๆ ว่า หากมองในเรื่องของผลสกอร์ ก็ถือว่าเราทำได้ดี แต่ถ้าจะมองในเรื่องของระบบการเล่น เรายังต้องพัฒนาปรับปรุงกันต่อไป

“ถึงแม้เราจะได้ชัยชนะ หนทางมันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป”

ความคาดหวังของโค้ช กับการตอบโจทย์ของนักเตะยังคงเป็นอะไรที่ต้องปรับเข้าหากันอยู่ โดยเฉพาะการเข้าใจในแท็กติกการเล่น การเข้าใจในระบบการเล่นของทีม ยังมีบางอย่างที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ผมว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดานะ การทำงานทุกอย่างมันย่อมมีปัญหาต่างๆ กันออกไป ผมเคยได้ยินมาว่า

“ทุกคนมันก็มีปัญหากันหมด เพียงแต่เราอย่าให้ความสำคัญกับปัญหาจนทำให้เรากลายเป็นผู้แพ้”

จงใช้สมาธิในการแก้ไขปัญหา ฟังเสียงคนรอบข้างเพิ่มมากขึ้น แต่สุดท้ายและท้ายสุดจงฟังเสียงหัวใจของเราเองและจงกล้าตัดสินใจ เพื่อลงมือทำมันออกมาให้ดีที่สุดก็พอ

ทำให้เต็มที่……สำหรับโอกาสที่ยิ่งใหญ่
ทำให้เต็มที่……สำหรับความหวังของคุณพ่อคุณแม่
ทำให้เต็มที่……สำหรับความฝันของตัวเอง
ทำให้เต็มที่……สำหรับการเป็นขวัญใจของแฟนบอลชาวไทย

“ไปให้สุดขอบฟ้าจะไม่มองย้อนมา
จะมุ่งไปให้ถึงดวงดาวที่ฝันใฝ่
ไม่ว่ามันจะใกล้จะไกลสุดขอบฟ้า
จะไม่มีใครมาหยุดหรือมีแรงมาฉุดเรา
ตราบใดที่เรานั้นไม่หยุดเรา
ต้องลองดู ต้องลองดู”

สู้ๆ เว้ยน้อง

“Arm Phukrit”