รีเซต
#MainStand : แดงเดือดนัดแรกฤดูกาล 2021-22 ไฮไลต์สำคัญอยู่ตรงไหนบ้าง ?

#MainStand : แดงเดือดนัดแรกฤดูกาล 2021-22 ไฮไลต์สำคัญอยู่ตรงไหนบ้าง ?

#MainStand : แดงเดือดนัดแรกฤดูกาล 2021-22 ไฮไลต์สำคัญอยู่ตรงไหนบ้าง ?
เมนสแตนด์
24 ตุลาคม 2564 ( 17:45 )
2.1K

"ศึกแดงเดือด" ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ ลิเวอร์พูล ในค่ำคืนนี้จะเป็นเกมที่ 208 ในประวัติศาสตร์ และก่อนที่เกมจะเริ่มขึ้นนี้ เราจะไปดูกันว่ามีสถิติใดน่าสนใจ และมีเรื่องไหนที่เป็นเกร็ดที่คุณต้องรู้เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมให้มันถึงใจได้ยิ่งขึ้นบ้าง ?  ติดตามได้ที่ Main Stand 

 

วัดที่ปัจจุบัน หงส์แดง ของ คล็อปป์ ยัง "ไร้พ่าย" 

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น นับตั้งแต่มีการจดบันทึกสถิติอย่างจริงจัง เกมนี้เป็นเกมแดงเดือดนัดที่ 208 แล้ว และจากสถิติดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเหนือกว่าเล็กน้อยตรงที่พวกเขาเป็นฝ่ายชนะได้ 81 ครั้ง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ชนะทั้งหมด 68 ครั้ง และเสมอกันไปทั้งหมด 58 ครั้ง 

อย่างไรก็ตามหากนับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกก่อตั้งในปี 1992 เกมนี้ถือเป็นแดงเดือดฉบับพรีเมียร์ลีก ครั้งที่ 59 โดย 58 เกมก่อนหน้านี้ก็ยังเป็น ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่าด้วยการชนะไปถึง 28 ครั้ง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ชนะ ปีศาจแดงได้เพียง 16 ครั้งเท่านั้น และอีก 14 ครั้งเป็นการเสมอกัน 

ตัวเลขที่กล่าวมาข้างต้นหากเรามองในภาพรวมแล้ว ยูไนเต็ด คือฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า เพียงแต่ว่าหากเราจะนับสถิติกันในยุคที่เรียกว่า "ปัจจุบัน" หรือว่ากันง่าย ๆ ตั้งแต่ที่ ยูไนเต็ด มี โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นกุนซือ และ ลิเวอร์พูล ได้ เยอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาคุมทีม กลายเป็นทีมของ คล็อปป์ ที่ทำสถิติข่มลูกทีมของ โอเล่ อย่างเห็นได้ชัด 

ทั้ง คล็อปป์ และ โซลชา เคยพาทีมลงดวลกันทั้งสิ้น 6 นัด โดยที่ โซลชา ทำทีมชนะทีมของ คล็อปป์ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และเป็นเกมที่เกิดขึ้นใน เอฟเอ คัพ ปี 2020-21 ที่เอาชนะไป 3-2 โดยได้ประตูชัยจากฟรีคิกของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในช่วงท้ายเกม

แต่ถึงอย่างนั้นหากนับเฉพาะเกมพรีเมียร์ลีกอีก 5 เกมที่เหลือ คล็อปป์ ยังคงเป็นผู้ถือสถิติไร้พ่ายเหนือ โซลชา ด้วยการชนะ 2 และเสมอ 3 โดยเกมล่าสุดในลีกที่พบกันคือช่วงปลายฤดูกาล 2020-21 ที่ผ่านมา ที่ลิเวอร์พูล บุกชนะ ยูไนเต็ด ได้ถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยสกอร์ 4-2 ซึ่งถือเป็นเกมที่สำคัญและเป็นจุดเปลี่ยนให้ ลิเวอร์พูล ที่อยู่ในช่วงที่มีนักเตะเจ็บล้นทีม กลับมาพลิกสถานการณ์จบซีซั่นด้วยท็อป 4 ได้สำเร็จ หลังจากที่เคยโดนกาชื่อทิ้งไปแล้วก่อนหน้านี้ 

 

นักเตะสายยิงเกมแดงเดือด 

แม้ ยูไนเต็ด จะคว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตำนานของทีมที่เคยเจอกับ ลิเวอร์พูล มาแล้วหลายครั้งในอดีต ทว่า โรนัลโด้ ไม่ใช่ขาประจำที่ยิง ลิเวอร์พูล ได้บ่อย ๆ เขาผ่านเกมแดงเดือดมาแล้ว 8 ครั้ง แม้สถิติการเจอกับ ลิเวอร์พูล จะดีมากตรงที่ชนะ 5 เสมอ1 และ แพ้ 2 แต่ โรนัลโด้ ก็ยังยิงประตู ลิเวอร์พูล ได้เพียงแค่ 3 ลูกเท่านั้น และการเจอ ลิเวอร์พูล ครั้งล่าสุดในสีเสื้อปีศาจแดง โรนัลโด้ ก็มีความทรงจำไม่ดีนักเพราะในเกมนั้นเมื่อปี 2009 ปีศาจแดง เปิดบ้าน พ่าย ลิเวอร์พูลไป 1-4 

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่แฟนผีแดงยังพอใจชื้นขึ้นมาได้บ้างก็คือการกลับมาของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าหมายเลข 10 ของทีม ที่ลง 2 นัดล่าสุดก็มีประตูติดไม้ติดมือมาทั้ง 2 เกม และเหนือสิ่งอื่นใดคือนับตั้งแต่ที่ แรชฟอร์ด ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ปีศาจแดง เขามักจะมีสถิติการลงเล่นที่ดีในการเจอกับ ลิเวอร์พูล โดย แรชฟอร์ด ถือเป็นผู้ที่ยิงประตูในเกมแดงเดือดได้มากที่สุดในทีมชุดปัจจุบัน โดยยิงไปถึง 5 ลูก

ขณะที่ฝั่ง ลิเวอร์พูล นั้นคนที่ชื่นชอบการใส่สกอร์นัดแดงเดือดมากที่สุดในทีมชุดปัจจุบันมีอยู่ 2 คน ได้แก่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ย้ายเข้ามาอยู่กับทีมในฤดูกาล 2017-18 ขณะที่อีกคนออกจะเซอร์ไพรส์เล็กน้อยนั่นคือชื่อของ เจมส์ มิลเนอร์ แข้งจอมเก๋าที่มักจะรับหน้าที่สังหารจุดโทษใส่ผีแดงอยู่เป็นประจำ 

ไหน ๆ ก็ว่าด้วยเรื่องจุดโทษกันไปแล้วก็ควรจะพูดถึงต่ออีกสักหน่อย เพราะมีประเด็นระหว่างกุนซือทั้ง 2 ทีมที่เคยพูดถึงเรื่องจุดโทษของกันและกันอยู่บ่อยครั้ง โดยครั้งหนึ่ง คล็อปป์ เคยวิจารณ์ผู้ตัดสินว่าให้จุดโทษกับบางทีมง่ายไป ขณะที่ โซลชา ก็บอกว่านับตั้งแต่ที่โค้ชบ้างคนวิจารณ์ผู้ตัดสินผ่านสื่อ ทีมของเขาก็ได้จุดโทษยากกว่าที่ผ่านมา 

ซึ่งสถิติของจุดโทษในเกมแดงเดือดฉบับพรีเมียร์ลีกนั้นเกิดขึ้นทั้งหมด 12 ครั้ง เป็น ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายได้จุดโทษ 7 ครั้ง ขณะที่ ยูไนเต็ด ได้ไป 5 ครั้ง 

สำหรับเกมนี้ประเด็นจุดโทษก็น่าสนใจต่อเนื่อง เพราะหากฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดได้จุดโทษขึ้นมายังต้องมาลุ้นกันอีกต่อว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบหน้าที่นี้ระหว่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ มือ 1 ของทีมที่เพิ่งยิงพลาดไปในฤดูกาลนี้ในเกมกับ แอสตัน วิลล่า อย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส 

ขณะที่ ลิเวอร์พูล นั้นมีแววว่าจะต้องใช้งาน เจมส์ มิลเนอร์ ลงเล่นต่อไปเนื่องจากแดนกลางยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บ ดังนั้นก็ต้องลุ้นเหมือนกันว่าในเกมที่กดดันแบบนี้หากมีจุดโทษจริง ๆ มิลเนอร์ หรือดาวเตะฟอร์มร้อนแรงอย่าง ซาลาห์ จะเป็นคนรับหน้าที่นี้กันแน่ ? 

 

โซลชา vs Everyone 

ดูเผิน ๆ นี่อาจะจเป็นเกมที่ โซลชา จะได้วัดกึ๋นกับ คล็อปป์ อีกครั้ง ทว่าเกมนี้มีความหมายและเดิมพันมาก ๆ สำหรับเขา เพราะถ้าชนะมันไม่ได้หมายถึงแค่การเอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แต่มันจะทำให้สถานการณ์ความกดดันที่เขาแบกรับอยู่นั้นทุเลาลง

โซลชา เริ่มฤดูกาลนี้แบบมีหวัง ด้วยการเสริมนักเตะดี ๆ เข้ามามากมายนำโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ราฟาเอล วาราน และ จาดอน ซานโช่ ทว่าผลงานโดยรวมของทีมยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ผลงานไม่สม่ำเสมอ จนโดนวิจารณ์ว่า "มือไม่ถึง" ไม่สามารถใช้นักเตะที่มีสร้างความแตกต่างได้ โดยเสียงวิจารณ์เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะใน 3 เกมลีกหลังสุดที่ ปีศาจแดง ยังไม่ชนะใครโดยเป็นการแพ้ถึง 2 จาก 3 เกม 

ไม่ว่าจะแฟนบอล นักวิจารณ์ หรือแม้แต่บ่อนพนันถูกกฎหมายก็มีการปรับราคาให้เขาเป็นเต็ง 2 ของกุนซือที่โดนเด้ง (เต็ง 1 คือ สตีฟ บรูซ ของ นิวคาสเซิล และโดนไล่ออกไปแล้ว) จะเห็นได้ว่า โซลชา โดนความกดดันทุกด้าน ถ้าเขาชนะในเกมสำคัญแบบนี้ อย่างน้อย ๆ เสียงวิจารณ์ที่มีก็จะลดน้อยถอยลงไปอย่างแน่นอน 

ขณะที่ คล็อปป์ นั้นอยู่ในสถานการณ์ลอยตัวไม่มีความกดดันมากมายนักเนื่องจากผลงานของทีมท็อปฟอร์มมาตั้งแต่ช่วงปลายซีซั่นที่แล้ว และฤดูกาล 2021-22 นี้ยังไม่แพ้ใครเลย หลังจากลงสนาม 8 เกม เสมอแค่ 3 นัด (เสมอ เชลซี 1-1, เบรนท์ฟอร์ด 3-3 และ แมนฯ ซิตี้ 2-2) 

และมีเรื่องน่ากลัวอีกอย่างของ โซลชา คือกุนซือคนก่อนของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ก็โดนไล่ออกหลังจากการแพ้ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2018-19 โดยในเกมนั้น มูรินโญ่ พาทีมบุกมาเยือนแอนฟิลด์ และแพ้ไป 1-3 หากจำกันได้เกมนั้นก็เป็นสถานการณ์คล้าย ๆ กับปัจจุบันที่แฟนบอลบางกลุ่มเริ่มวิจารณ์และอยากให้ทำการปลดโค้ช ซึ่งหลังจากจบเกมนั้นหลายคนยังติดตลกขอบคุณ เยอร์เก้น คล็อปป์, ลิเวอร์พูล และ เซอร์ดาน ชากิรี่ ตัวสำรองที่ลงมายิง 2 ลูกในเกมนั้นช่วยให้ฝันปลดโค้ชของเขาเป็นจริง 

ทั้งหมดนี้คือสถานการณ์โดยรวมก่อนเกมแดงเดือดนัดแรกของฤดูกาล 2021-22 จะเริ่มขึ้น ไม่ว่าอย่างไรเกมนี้ก็ถือเป็นเกมที่ทั้งสองทีมอยู่ในสถานะ "แพ้ใครก็ได้แต่ห้ามแพ้มัน" ดังนั้นไม่ว่าแฟนยูไนเต็ดกลุ่มไหน จะเป็นกลุ่มที่สนับสนุนหรือต่อต้าน โซลชา ก็ตาม อย่างไรเสียชัยชนะในเกมนี้ก็สำคัญเหนือทุกสิ่งแน่นอน 

เช่นเดียวกับแฟนบอล ลิเวอร์พูล หากชนะในเกมนี้จะเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าพวกเขาคือทีมที่ดีกว่าและเหนือกว่าปีศาจแดงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะนับเรื่องใดก็ตามในปัจจุบัน...

ใครจะชนะ ใครจะแพ้ เกมนี้ก็ดุเดือดแน่นอน แล้วคุณล่ะ มีผลการแข่งขันที่คาดไว้หรือยัง ? 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/articles/c9zr87z10vwo
https://www.skysports.com/football/news/11095/12439370/man-utd-vs-liverpool-premier-league-preview-team-news-stats-prediction-tv-channel-kick-off-time
https://en.wikipedia.org/wiki/Liverpool_F.C.%E2%80%93Manchester_United_F.C._rivalry#Head-to-head
https://www.sportco.io/article/ole-solskjaer-vs-jurgen-klopp-h2h-record-stats-man-united-vs-liverpool-trophies-tactics-230231

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

541