เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ในเกม Emirates FA Cup รอบที่ 4 เมื่อสองทีมจากโซนหัวตารางของพรีเมียร์ลีกมาโคจรพบกัน ระหว่าง เรือรบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรัง เอดิฮัต สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซนอล จบเกม เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เฉือนเอาชนะอาร์เซนอลไปได้อย่างหวุดหวิด 1-0 จากการทำประตูของ เนธาน อาเก้การจัดทัพ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีมนั้น ก็เป็นอย่างที่หลายๆคนทราบกันดี เป็นชุดผสม โดยเมื่อดูจากชื่อชั้นของนักเตะทั้งสองทีม ก็ต้อองบอกตามตรงว่า ทางฝั่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้น ดูเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดเป็นอีกเกมที่อาร์เซนอลนั้นยังคงเล่นได้อย่างดุดันและพร้อมสู้เต็มสูบ แต่ก็เป็นเกมที่ทั้งสองทีมนั้นผลัดกันบุกผลัดกันรับ และชิงจังหวะความได้เปรียบจากความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ เมื่อมาดูสถิติในเกมนี้บวกกับรูปเกม ก็เป็นอีกเกมที่อึดอัดทั้งสองทีม เพราะโค้ชทั้งสองทีมต่างรู้ดีว่า เกมแบบนี้พวกเขาจะผิดพลาดหรือประมาทไม่ได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาทีกับกลายเป็นว่า ในจังหวะที่โทมัส ปาร์เตย์ ที่น่าจะมีอาการบาดเจ็บ อาร์เตต้าเลยไม่ขอเสี่ยง ทำการเปลี่ยนตัวในช่วงครึ่งหลังทันที โดยให้ แซมบี้ โลกองก้า ลงสนามแทน จุดนี้อาจเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้แดนกลางอาร์เซนอลมีช่องโหว่ เพราะโลกองก้าไม่ได้เล่นเป็นกลางตัวรับแบบปาร์เตย์ได้ ทำให้มีจังหวะหนึ่งที่โอเดการ์ดโวยใส่โลกองก้าเพราะลงไปเขตโทษตัวเองโดยไม่จำเป็น ทำให้เขาต้องตัดฟาวล์ใส่คู่แข่ง และ นี่คงเป็นสิ่งที่อาร์เตต้าต้องรีบเคลียร์ปัญหาดังกล่าว เพราะทุกครั้งที่มีนักเตะตัวจริงบาดเจ็บ ตัวสำรองยังไม่สามารถทดแทนได้ เมื่อเหลือเวลาอีกเพียง 3 วันในการเสริมทัพนั้น มีโอกาสคว้านักเตะเพิ่มเข้าทีมได้ ต้องรีบคว้าส่วนทางฝั่งผู้ชนะก็ต้องยินดีกับเขา ฉวยโอกาสจากจังหวะผิดพลาดของฝั่งทีมเยือนได้ ทำให้พวกเขาได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้ แต่ก็ต้องคิดหนักเรื่องการถูกปิดตายการบุกของฮาแลนด์และเดอ บรอย วันไหนที่สองคนนี้ไม่อยู่ในฟอร์มที่ดี แม้ตำแหน่งอื่นๆในทีมจะสามารถทำประตูให้กับทีมได้ แต่ถ้าเจอทีมที่ประกบนักเตะแนวรุกและตัวทำเกมได้อยู่หมัดล่ะก็ เกมบุกอันน่ากลัวก็ของแมนซิตี้ก็ไร้พิษสงไปพอสมควรเลยล่ะ เกมนี้อยากชื่นชมผู้รักษาประตูมือสองของอาร์เซนอล นั่นก็คือ แมตต์ เทอร์เนอร์ หลายจังหวะที่เทอร์เนอร์ตัดสินใจออกมาตัดบอลจากฮาแลนด์ และเซฟจังหวะอันตรายได้หลายครั้ง การออกบอล การสั่งการกองหลัง ถือว่าทำได้ไม่เลว แรมส์เดลบ์น่าจะมีร้อนๆหนาวๆบ้างแล้วล่ะงานนี้ในเรื่องร้ายก็มีเรื่องดี อาร์เซนอลก็ยังคงต้องสู้ต่อไปในทัวร์นาเมนต์ที่เหลืออยู่ตอนนี้ และยังคงต้องเบียดสู้กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีกต่อไป ขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Twitter Arsenal , Twitter Manchester Cityภาพที่ 2 จาก Twitter Arsenalภาพที่ 3 จาก Twitter Arsenalภาพที่ 4 จาก Twitter Manchester City ภาพที่ 5 จาก Twitter Arsenal ภาพปกประกอบบทความ จาก Twitter ArsenalCommunity คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์