หากจะให้พูดถึงผู้จัดการที่ที่เฟ้นหานักเตะที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก สร้างและรังสรรด้วยมันสมองและสองมือจนนักเตะเหล่านั้นเปล่งแสงออกมาจนรู้จักไปทั่วโลก นาทีนี้ก็คงหนีไม่พ้นนายใหญ่ลิเวอร์พูล “เจอร์เกน คล็อปป์” เหล่านักเตะที่ปลุกปั้นจนโด่งดังภายใต้น้ำมือของชายคนที่หลายคนรู้จัก อาทิเช่น อิลคาย กุนโดกัน , มัตส์ ฮุมเมิลส์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นั่นคือเหล่านักเตะที่ชายคนนี้ทำให้โด่งกังก่อนที่จะย้ายมายังแอนฟิลด์ เมื่อได้ก้าวมายังดินแดนแห่งนี้ก็ไม่วายที่จะรังสรรค์ หานักเตะที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมาสร้างทีมจนกลายมาเป็นโคตรทีมอย่างตอนนี้ เหล่านักเตะที่ได้ชายคนนี้ชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ตั้งในถิ่นแอนฟิลด์ อาทิเช่น โมฮาเหม็ด ซาร์ล่า , เวอร์จิล ฟานไดร์จ ,ซษดิโอ มาเน่ , แอนดรูส์ โรเบิร์ตสัน เทรน อเล็กซานเดอร์อาโนล์ ซึ่งนักเตะเหล่านี้กลายเป็นขุมกำลังหลักเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็นั่นแหละไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะประสบความสำเร็จภายใต้การเซ็นสัญญาร่วมทีมของเจ้าตัว เมื่อมีดีก็ต้องมีผิดพลาดกันได้ ว่าแล้วก็จะขอจัดอันดับดับนักเตะลิเวอร์พูลในยุคของ เจอร์เกน คลิอปป์ ที่ถือว่าเป็นความผิดพลาดในการเซ็นสัญญาร่วมทีมกันซักหน่อยว่ามีใครกันบ้างอันดับที่ 5 นาบี เกอิต้า มิดฟิลด์ชาวกินีของแอร์เบไลป์ซิกย้ายมาลิเวอร์พูล ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 54 ล้านปอนด์มิดฟิลด์ซึ่งการมาของเขานั้นทำให้นักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับสามในตลอดการเป็นผู้จัดการทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ แน่นอว่าด้วยค่าตัวมากขนาดนี้ต้องแบกด้วยความคาดหวังของแฟนบอลอย่างแน่นอน แต่แล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะสิ่งที่น่า นาบี เกอิต้า ได้เผชิญในถิ่นแอนฟิลด์ไม่ใช่ฟอร์มการเล่นที่เลิเลศ แต่กลับเป็นปัญหาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวในสีเสื้อลิเวอร์พูล นาบี เกอิต้าประสบปัญหาเกือบ 15 อย่างตั้งแต่ย้ายมาที่ลิเวอร์พูลทำให้เขาพลาดลงเล่นให้กับสโมสรกว่า 50 เกม ซึ่งตลอดสี่ฤดูกาลจนถึงตอนนี้ นาบี เกอิต้า สามารถลงเล่น 20 เกม ในหนึ่งฤดูกาลได้เพียงครั้งเดียว และตลอดเวลาที่อยู่กับลิเวอร์พูลลงเล่นไป 101 เกมให้กับ เจอร์เกน คล็อปป์ ทำไป 10 ประตู 5 แอสซิสต์ 5 ประตูอันดับที่ 4 โดมินิค โซลันกี้ ย้อนกลับไปในปี 2017 โดมินิก โซลันกี กลายเป็นนักเตะที่ฮ็อตที่สุดบนเกาะอังกฤษ ซึ่งนี่คือนักเตะลูกหม้อของสิงห์บลู ซึ่งโดดเด่นอย่างมากในทีมชาติอังกฤษชุด 17 ซึ่งชนะการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี 2017 และฟุตบอลโลกปี 2020 รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี โดมินิก โซลันกี ยิงรายการละ 4 ประตู ซึ่งนั่นเป็นที่มาของการดึงนักเตะอนาคตไกลรายนี้มาร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยความต้องการของ เจอร์เกน คล๊อปป์ผลักดันสโมสรจนได้มาร่วมทีมในปี 2018 ซึ่งเมื่อมายังแอนฟิลด์จากดาวรุ่งอนาคตไกลกลายเป็นดาวร่วงในบัดดล เพราะฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวนั้นหายไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเหมือนใครไปถอดปลั๊กออกยังไงยังงั้น จนในที่สุดก็ถูกส่งต่อให้กับบอร์นมัธในปี 2019 ด้วยค่าตัว 19 ล้านปอนด์ หลังจากทำประตูได้เพียงครั้งเดียวจากการลงเล่น 27 เกมให้กับลิเวอร์พูลอันดับที่ 3 มาร์โค กรูยิช มาร์โก กรูยิช กองกลางทีมชาติเซอร์เบียย้ายมาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ในปี 2016 ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอร์น ซึ่งแน่นอนว่าผลงานของเจ้าตัวก็ไม่ธรรมดาอย่างมากทั้งในนามทีมชาติและสโมสรเก่าเรดสตาร์ เบลเกรด การมาของเจ้าตัวในตอนนั้นมาด้วยความหวังดาวรุ่งอนาคตไกลผู้ที่จะเป็นขุมกำลังในระยาวของหงส์แดงด้วยวัยเพียง 20 ปี แต่แล้วก็ไม่ได้เป้นอย่างที่หวังแม้แต่น้อยเพราะตลอดเวลาที่อยู่ในแอนฟิลด์ลงเล่นไปเพียง 16 เกม ยิงได้ 1 ประตู 1 แอสซิสต์ ตลอดเวลา 7 ปีที่อยู่กับสโมสร ซึ่งนำมาซึ่งการปล่อยยืมไปใช้งานเพื่อหวังว่าจะดึงฟอร์มเก่งออกมาได้ แต่ก็เหมือนจะเข็นไม่ขึ้น แม้ว่าจะถูกกระตุ้นจาก เจอร์เกน คล๊อปป์ ทั้งเรื่องการพูดคุย เทคนิค รวมถึงการพูดถึงนักเตะรายนี้ แต่แล้วก็เหมือนจะกลายเป็นหนึ่งในความผิดพลาดของเจ้าตัวกับการเลือกนักเตะรายนี้เข้าสู่สโมสรลิเวอร์พูลอันดับที่ 2 อเล็ก อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน หากจะบอกว่านี่คือนักเตะแดนกลางอีกรายที่เป็นความหวังแดนกลาง ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกของ เจอร์เกน คล๊อปป์ ก็ว่าได้ นั่นจึงนำมาซึ่งการสู่ขอนักแตะรายนี้จากปืนใหญ่อาร์เซนอลด้วยค่าตัวเกือบ 35 ล้านปอนด์ ในปี 2017 สิง่ที่ผู้จัดการทีมรายนี้ได้กล่าวชื่นชมอย่างมากก็คือเรื่องของฝีเท้าและการเลี้ยงบอลริมเส้น รวมถึงการเล่นบอลจากด้านข้างได้อย่างดี อีกทั้งยังมีเทคนิคในการวาวบอลสวนกลับที่แม่นยำ ซึ่งก็ถือว่าเปิดตัวได้ไม่เลาวกับสีเสื้อใหม่ของนักรายนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขานั้นขาดหายไปก็คืออาการบาดเจ็บที่รบกวนตลอดเวลา ซึ่งส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวตามไปด้วยเช่นกัน จนตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 5 ของเจ้าตัวกับสโมสรแห่งนี้ ซึ่งด้วยอาการบาดเจ็บทำให้เขานั้นลงเล่นได้ 20 เกม ต่อฤดูกาลได้เพียงเพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้น และยิงได้ 17 ประตู 14 แอสซิสต์ จาก 133 เกมอันดับที่ 1 ลอริส คาริอุส หลังจากการเข้ามาของ เจอร์เกน คล๊อปป์ ในปี2015 ก็ได้มีเฟ้าหานักเตะมาร่วมทีมทีละรายสองรายหนึ่งในนั้นก็คือผู้นักษาประตูที่ชื่อ ลอริส คาริอุส ซึ่งย้อนไปสมันที่เป็นผู้จัการทีมของ ดอร์ทมุน นี่คือผู้รักษาประตูที่เจ้าตัวนั้นเอ่ยชื่นชมมาตลอด ผู้รักษาประตูที่ได้ถูกกล่าวขานว่าคือผู้สืบทอดมือกาวทีมชาติเยอรมันต่อจาก มานูเอล นอยเออร์ เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อบอร์ดเปิดทางมีหรือที่จะไม่จู่โจมถึงสโมสร ไมนซ์05 เพื่อเซ็นสัญญาผู้รักษาประตูอนาคตไกลรายนี้มาร่วมทีม ซึ่งการเซ็นสัญญาครั้งนั้นลิเวอร์พูลจ่ายค่าตัวไป 5.5 ล้านปอนด์ ในปี 2016 จากผู้รักษาประตูที่ถูกกล่าวขานเป็นตำนานกลายเป็นผู้ร้ายที่ถูกสายตาเหล่าแฟนบอลลงโทษจากเกมรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2018 กับเรอัลมาดริด ซึ่งเกมนั้นคือเกมที่ ลอริส คาริอุส ถูกตราหน้าว่าทำผลงานได้แย่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของรายการนี้ ซึ่งความผิดที่เกิดขึ้นสองครั้งของเจ้าตัวทำให้เรอัล มาดริด ได้สองประตูและชนะไป 3 – 1 หลังจากเกมนั้นมันก็เหมือนชีวิตได้เริ่มดิ่งลงเหลวเรื่อย ๆ เพราะเขาถูกปล่อยยืมไปใช้งานไม่ว่าจะเป็น เบซิคตัส ยูเนี่ยน เบอร์ลิน เพื่อหวังจะดึงความมั่นใจกลีบมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ก็ไม่ได้เป้นอย่างที่หวังแม้แต่น้อย ซึ่งหลังจากจบฤดูกาลนี้ ลอริส คาริอุส ก็เตรีมที่จะย้ายออกจากแอนฟิลด์ด้วยเช่นกัน ผู้รักษาประตูวัย 28 ปี รายนี้ ลงเล่นให้ลิเวอร์พูล 49 นัด เสีย 47 ประตู เก็บได้ 22 คลีนชีตข่าวที่เกี่ยวข้องจัดอันดับ 4 กุนซือฟันค่าชดเชยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลจัดอันดับ 4 ผู้จัดการทีมค่าตัวแพงที่สุดในฤดูกาล 2021-2022จัดอันดับ 8 ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยุคพรีเมียร์ลีก ผลงานแย่ที่สุดถึงดีที่สุดส่อง 3 ปัจจัย ที่อาจปลี่ยนใจ "เจอร์เกน คล็อปป์" ต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูลถูกใจไหม?? จัดอันดับ 5 นักเตะแมนยูผลงานดีที่สุดประจำปี 2021ปิดดีลด่วน !! จัดอันดับ 10 แข้งพรีเมียร์ลีกค่าตัวพุ่งก่อนตลาดนักเตะเปิดเครดิตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพที่1 , premierleague.com :: ภาพที่ 2 , twitter.com/ChampionsLeague :: ภาพที่ 3 เครดิตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพที่1 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 7 , premierleague.com :: ภาพที่ 3ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี!