เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าจะทำให้แฟนลิเวอร์พูลรู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขันที่ออกมาและฟอร์มภาพรวมของทีม แถมความหวังในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่เริ่มลดน้อยลงไปอีก เมื่อลูกโหม่งตีเสมอช่วงท้ายเกมของ มิคาอิล อันโตนิโอ ทำให้เวสต์แฮมยูไนเต็ด เปิดเสมอลิเวอร์พูล 2-2 ที่ลอนดอน สเตเดี้ยม และแบ่งแต้มกันไป ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นผิดหวังถึง 2 เกมติด โดยในนัดก่อนพวกเขาพ่ายแพ้ต่อเอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านการกลับมาของจาร์ร็อด โบเวน เกมที่ 200 ของเจ้าตัวโดยการคัมแบ็คกลับมาของจาร์ร็อด โบเวนทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ในการลงเล่นนัดที่ 200 ของเขาให้กับเวสต์แฮม มีส่วนทำให้เวสแฮมไม่แพ้ในเกมนี้ นับเป็นประตูที่ 16 ในพรีเมียร์ลีกของฤดูกาลของโบเวน อีกทั้งยังทำสถิติทาบระดับเดียวกับเปาโล ดิ คานิโอสำหรับนักเตะเวสต์แฮมทำประตูได้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1999-2000 ลิเวอร์พูลได้ดีตลอดการเล่นในครึ่งแรกทั้งในแง่ของรูปเกมจังหวะจบสกอร์ที่มากกว่า แต่ทางด้านของเวสแฮมนั้นมีโอกาสจ่ะแจ้งกว่าและก็มาได้ประตูจาก โบเวน อเรร่า หลังจากที่ โรเบิร์ตสัน ตีเสมอในนาทีที่ 48 มีเพียง โบเวนแอสซิส ที่ตีโหม่งของอันโตนิโอก่อนเวลา 13 นาทีผลเสมอดังกล่าวทำให้ลิเวอร์พูลตามหลังจ่าฝูงอย่างอาร์เซนอล 2 แต้ม ก่อนเกมที่พลพรรคเดอะกันเนอร์สจะพบกับสเปอร์สในวันอาทิตย์ และตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 แต้มแต่แข่งน้อยกว่า 2 นัด ขณะที่เวสต์แฮมยังคงอยู่อันดับที่ 8 ตามเดิมไฮไลท์สำคัญที่เกิดขึ้นในเกมทั้งสองฝ่ายเปิดเกมสู้กันเพื่อหวังแต้มทั้งคู่แต่ภาพรวมยังคงเป็นทางลิเวอร์พูลที่ครองเกมและมีจังหวะจบที่เหนือกว่า แต่ทางฝั่งเวสแฮมนั้นเด็ดขาดกว่าลิเวอร์พูลมีได้ลุ้นจุดโทษในนาทีที่ 27 จากจังหวะที่อันเจโล่ อ็อกบอนน่าเข้าสกัดโคดี้ กักโปในเขตโทษ แต่มีจังหวะล้ำหน้าของดิอาซเกิดขึ้นก่อนจึงทำให้ไม่ได้ในจังหวะนี้นาทีที่ 33 ฮาวีย์ เอเรียต มีโอกาสได้ยิง จากด้านขวาแต่ไปเข้ามือ อเรโอร่านาทีที่ 40 ดิอาซ มีโอกาสเลี้ยงจี้ก่อนที่จะยิงชนเสาทางด้านขวามือของผู้รักษาประตูเวสต์แฮมพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดายนาทที่ 43 เวสแฮมได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะ ต่อเนื่องจากเตะมุม โดยโมฺาเหม็ด คูดุส เปิดบิลจากดานซ้าย และเป็นทางด้านของจาร็อด โบเว่น โหม่งบอลเข้าไปให้เวสแฮมอิกนำลิเวอร์ 1-0 ก่อนหมดครึ่งแรก 2 นาที และจบลงด้วยสกอร์นี้ในครึ่งแรก นาทีที่ 48 ดิแอซจ่ายบอลจากทางซ้ายไปให้โรเบิร์ตสัน ก่อนที่จะแตะหลบลูคัส ปาเกต้าเล็กน้อยและยิงเบียดเสาผ่านมือ อเรโอลา เข้าไปทำให้ลิเวอร์พูลตามตีเสมอเวสแฮมเร็วเป็น 1-1 นาทีที่ 51 ไรอันกราเฟ่นเบิร์ก โฉบบอลจากจังหวะเปิดของโคดี้ กัคโป แต่สกิดโดนบอลแบบบาง ๆ หลุด้สาออกไปอย่างน่าเสียดายนาทีที่ 58 เทรนต์ มีโอกาสยิงไกลจากนอกกรอบแต่ก็ยังคงติดเซฟ อเรโอร่านาทีที่ 65 ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะเทรนต์เตะมุมจากด้านขวา โคดี้ กัคโปยืงบอลไปแฉลบ นักเตะเวสแฮม 3 ต่อชิ่งเข้าประตูตัวเองไป ทำให้ลิเวอร์พูลบุกมานำเวสแฮม 1-2จากนั้นลิเวอร์พูลก็บุกอย่างต่อเนื่องและมีโอกาสน่าได้ประตุบ่อยครั้้งแต่ก็ยังไปติดเซฟ อเรร่า จนกระทั่งนาทีที่ 77 จาร็อดโบเว่น เลี้ยงบอลจากทางด้านขวาก่นที่จะเปิดบอลย้อย ๆ เข้ากลางและเป็นทางด้านของ มิคาเอล อันโตนิโอ ขึ้นโหม่งจ่อ เข้าประตูไป ให้เวสแฮมตามตีเสมอเป็น 2-2 สุดท้ายทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ แบ่งแต้มกันไปลิเวอร์พูลสะดุดอีกแล้ว ภายใต้การคุมทีมของคล็อปป์ 4 นัดหลังสุดลิเวอร์พูลชนะเกมพรีเมียร์ลีกเพียงแค่เกมเดียวคือชนะฟูแล่ม 1-3 ทีเหลือจะเป็นการพ่ายแพ้ให้กับคริสตัล พาเลซ 0-1 และ เอฟเวอร์ตัน 2-0 แถมหลังจบเกมยังมีดราม่าซาลาห์ทะเลาะกับคล็อปปให้เป็นประเด่นอีก ถ้าจบแบบนี้อาจจะน่าผิดหวังสำหรับฤดูกาลสุดท้ายของคล็อปป์ในฐานะผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูลถึงแม้ว่าจะคว้ามาแล้ว 1 แชมป์ก็ตามสุดท้ายเราต้องมารอดูกันว่าทั้งคู่จะจบฤดุกาลที่อันดับที่เท่าไรแฟนๆของทั้ง 2 ทีมก็ต้องตามเชียรและให้กำลังใจทีมกันต่อไปนะครับบทความแนะนำhttps://intrend.trueid.net/article/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%AA-%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B-trueidintrend_440148https://intrend.trueid.net/article/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B2-%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%99-trueidintrend_440861ขอบคุณภาพประกอบจาก : Premier League ภาพปก 1 / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4 / ภาพประกอบ 5 ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกีฬา เข้ามาคุยกันได้เลย