รีเซต
TRUE TALK : ยกแรกของ "ราเยวัช"

TRUE TALK : ยกแรกของ "ราเยวัช"

TRUE TALK : ยกแรกของ "ราเยวัช"
kentnitipong
14 มิถุนายน 2560 ( 17:27 )
144.7K

 

ถือเป็นการกู้ศรัทธาจากแฟนบอลชาวไทย และได้ใจสาวก “ช้างศึก” ไปเต็มๆ หลักจากที่ มิโลวาน ราเยวัช ก้าวมารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทย และใช้เวลาราว 1 เดือนเศษเข้ามาปรับแต่งขุนพลนักเตะไทยให้ขยับเข้าสู่มาตรฐานที่สูงขึ้น

ผลเสมอกับ ยูเออี ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อช่วงวานนี้ แสดงให้เราเห็นอะไรหลายๆ อย่างว่า การเดิมพันด้วยการใช้โค้ชที่เคยทำทีมไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว ได้ทำให้ “ช้างศึก” ทีมนี้แกร่งขึ้นมากน้อยแค่ไหน

หากเปรียบภารกิจของเฮดโค้ชชาวเซิร์บผู้นี้เสมือนมวยไฟท์หนึ่ง นี่ก็คงเป็นยกแรกของ “ราเยวัช” ที่มีทั้งเดินหน้าเข้าฟัด ตั้งการ์ด อัพเปอร์คัท รัวหมัดชุดใส่คู่ชกร่างยักษ์… มาดูกันว่ายกแรกในการพบกับยักษ์ใหญ่ของเอเชีย กุนซือรายนี้ได้ทำให้ทีมชาติไทยเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน

 

        1. กล้าให้ “โอกาส”

ย้อนกลับไปสักสามเดือนที่แล้ว แฟนบอลชาวไทยอาจจะยังไม่กล้าคิดว่านักเตะอย่าง พรรษา เหมวิบูลย์ หรือแม้กระทั่งกัปตันสวาทแคทอย่าง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นคู่เซ็นเตอร์ตัวหลักในทีมชาติได้ แต่ทว่า ราเยวัช และทีมงาน ได้แสดงให้เห็นถึงวิชั่นที่ก้าวไกล และกล้าที่จะให้ “โอกาส” กับทั้งสอง รวมถึงคนอื่นๆ ในทีมชุดนี้

แน่นอนว่าการให้โอกาสกับนักเตะหน้าใหม่ย่อมมี “ความเสี่ยง” แต่ถ้าชีวิตคนเราไม่กล้าเสี่ยงอะไรสักอย่าง ก็อย่าหวังเลยว่าเราจะเจอกับจุดเปลี่ยนในทิศทางที่ “ดีขึ้น” ซึ่งจุดนี้ ราเยวัช ต่อยได้เข้าเป้าเลยในยกแรก

 

        2. เกมรับ” ที่เปี่ยมไปด้วยวินัย

การรับมือกับแนวรุกจากตะวันออกกลาง คือของแสลงสำหรับแนวรับทีมชาติไทยมาทุกยุคทุกสมัย แต่ ราเยวัช กลับทำให้แฟนบอลต้องทึ่ง (ครั้งที่ 1) ด้วยการเลือกใช้แนวรับที่ติดทีมชาติรวมกันเพียงแค่ 44 นัดเท่านั้น (สี่คน) ออกสตาร์ทในเกมใหญ่เช่นนี้ ก่อนจะมาทำให้สาวก “ช้างศึก” ต้องทึ่งต่อเป็นครั้งที่ 2 หลังจากแนวรับสี่คนดังกล่าวกลับสามารถรับมือกับนักเตะระดับ โอมาร์ อับดุลราห์มาน และอาเหม็ด คาลีล ได้อยู่หมัด!!!

การเข้าสกัดที่เด็ดขาด บวกกับ การยืนตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม และเปี่ยมไปด้วยวินัย ทำให้ทัพ “ช้างศึก” สามารถต่อกรกับทีมเยือนได้อย่างสนุก ก่อนจะมาพลาดท่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นั่นคือบทเรียนอันล้ำค่าให้กับนักเตะชุดนี้ว่าห้ามเผลอใจจนกว่าเสียงนกหวีดสุดท้ายจะหมดลง แต่ถึงอย่างไร นี่ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่แฟนบอลชาวไทยต่างต้องซูฮกให้เลยทีเดียว

 

        3. จิตวิทยาในการรีดเค้นพลังแฝง!

ใครจะไปคิดว่าคำพูดจากปากของ ราเยวัช จะสามารถปลุกไฟในตัวของ “จ่าเย็น” ที่หลายๆ คนพากันรุมต่อว่า หรือปรามาศว่าปีกรายนี้ไม่คู่ควรกับทีมชาติชุดนี้ ให้กลับมาลุกโชนอีกครั้งจนพร้อมที่จะแผดเผาแนวรับคู่แข่งแบบไม่มีชิ้นดี

ประตูที่ มงคล ทศไกร ส่งผ่านเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมกับวาทะเด็ดที่เต็มไปด้วยอารมณ์เดือด และพลุกพล่านอย่าง ผมรักประเทศไทย!!!!! น่าจะเป็นการปลดปล่อยที่สะใจที่สุดครั้งหนึ่งของดาวเตะรายนี้ และเชื่อว่าจากนี้ไป เราคงได้เห็นอะไรดีๆ ในตัวของ “จ่าเย็น” รวมถึงนักเตะในทีมชาติไทยชุดนี้อีกหลายๆ คน

จิตวิทยา คือสิ่งที่วงการฟุตบอลไทยอาจจะมองข้าง หรือไม่ได้ใส่ใจอย่างจริงจัง แต่นั่นไม่ใช่กับทีมงานของ ราเยวัช ที่เคยผ่านงานช้างอย่างการพาทัพ “ดาวดำ” กาน่า ทะลุไปถึงรอบควอเตอร์ไฟน่อลในศึกฟุตบอลโลก 2010 มาแล้ว ถือเป็นอีกเรื่องที่โค้ชชาวเซิร์บต่อยหมัดฮุคได้เข้าเป้าอย่างจัง

 

        4. ทีมชาติไทยกลับมามี “ผู้นำ” อีกครั้ง

นี่คือกัปตันทีมชาติไทยในอุดมคติ ทั้งดุดัน แข็งแกร่ง เปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม และคงไว้ซึ่งความสง่างาม… กวินทร์ ถือเป็นนักเตะที่เข้าข่ายคุณสมบัติดังกล่าวทุกประการ และเจ้าตัวก็ตอบแทนความไว้วางใจจาก ราเยวัช รวมถึงแฟนบอลไทยทั้งชาติด้วยการบินเป็นว่าเล่น ตลอดจนป้องกันลูกอันตรายที่คอยถาโถมใส่นายทวารจากค่าย “กิเลนผยอง” ตลอดทั้งเกม

แม้ว่าทีมจะไม่สามารถเก็บสามแต้มได้ในเกมนี้ แต่ “กวินทร์” ได้ตอกย้ำ และพิสูจน์ให้เราเห็นว่าเขานั้นคู่ควรกับตำแหน่งผู้นำทัพ “ช้างศึก” ยุคใหม่ อย่างแท้จริง

 

        5. สมาธิท้ายเกมยังเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขต่อไป

มีสถิติที่น่าสนใจว่า ตลอด 8 นัดที่ทีมชาติไทยลงสนามในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่สามนั้น เราเสียไปถึง 20 ประตู แต่ทว่ามีถึง 8 ประตู ที่เราเสียในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และ 4 ประตูที่เราโดนซัดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นั่นหมายความว่าเราต้องละเอียดกว่านี้ เพราะนั่นอาจหมายถึงหนึ่งแต้มที่หายไปกับสายลม หรือสามแต้มที่ถูกดินฝังกลบจนไม่สามารถขุดขึ้นมาได้ หรือกระทั่งไม่ได้อะไรกลับมาเลยจากแมตช์นั้น!!!

นี่ยังคงเป็นปัญหา และเป็นการบ้านที่ “โค้ชมิโล” ต้องเร่งปรับปรุงอย่างเร่งด่วน หากต้องการทำให้ “ช้างศึก” ทีมนี้ก้าวสู่การเป็นทีมในระดับเอเชียอย่างแท้จริง แต่ท้ายที่สุด เชื่อว่า มิโลวาน ราเยวัช น่าจะพอทำให้แฟนบอลชาวไทยพอเห็นอนาคตที่สดใส และขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ที่ทำให้ทัพ “ช้างศึก” ก้าวสู่การเป็นทีมระดับเอเชียให้ได้ดั่งเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้…

 

ไทยแลนด์ สู้สู้ !!!

 

ชมสด!! ศึกไทยลีก และคลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @Trueid

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ