รีเซต
พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "บิ๊กแมตช์" แมนฯ ซิตี้ VS ลิเวอร์พูล พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "บิ๊กแมตช์" แมนฯ ซิตี้ VS ลิเวอร์พูล พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "บิ๊กแมตช์" แมนฯ ซิตี้ VS ลิเวอร์พูล พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด
KiTTiSaK
8 พฤศจิกายน 2563 ( 08:00 )
4.3K

รายการ : พรีเมียร์ลีก 2020-2021

วัน/เวลาแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563 เวลา 23:30 น.

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD 1

สภาพความพร้อม แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผลงานในพรีเมียร์ลีกของทีมเรือใบสีฟ้ายังไม่เปรี้ยงปร้างสักเท่าไรในช่วงออกสตาร์ท โดยมีอยู่ 11 แต้มจาก 6 นัดที่ผ่านมา เกาะอยู่ในอันดับ 11 ของตาราง ตามหลัง “จ่าฝูง” เซาธ์แฮมป์ตัน 5 แต้ม แต่แมนฯ ซิตี้ยังแข่งน้อยกว่า 2 นัด

ขุมกำลังของแมนฯ ซิตี้ ในเกมนี้ ยังไม่มีผู้เล่นเกมรับอย่าง เบนฌาแม็ง เมนดี้ และ แฟร์นันดินโญ่ ที่บาดเจ็บ เช่นเดียวกับดาวยิงคนสำคัญ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ยังเดี้ยงไม่หาย แต่ยังดีที่จะได้ กาเบรียล เชซุส กองหน้าทีมชาติบราซิล ฟิตกลับมาพร้อมลงไล่ล่าตาข่ายแทน พร้อมด้วยเกมรุกรายอื่นที่กุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกใช้งานได้เต็มที่ ทั้ง เฟร์รัน ตอร์เรส, ริยาด มาห์เรซ และราฮีม สเตอร์ลิง

สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล

ทัพ “หงส์แดง” หล่นมาเป็นอันดับสอง หลักจากถูก เซาธ์แฮมป์ตัน แซงขึ้นไปยึดจ่าฝูงแทนโดยมี 16 แต้มเท่ากัน แต่ผลต่างประตูได้เสียของทีมนักบุญดีกว่า ดังนั้นหากลิเวอร์พูลเก็บได้อย่างน้อย 1 แต้มในเกมนี้ พวกเขาก็จะทวงบัลลังก์จ่าฝูงกลับคืนมาได้ทันที

เกมนี้ลิเวอร์พูลมีลุ้นได้ โจเอล มาติป หายเจ็บกลับมายืนเป็นเซนเตอร์คู่กับ โจ โกเมซ ส่วนแดนกลางจะไม่มี ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ฟาบินโญ่ และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่ยังบาดเจ็บ

ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศคาดว่า ทีมหงส์แดงอาจจะปรับแท็คติกมาใช้ระบบ 4-2-3-1 โดย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รับบทคู่มิดฟิลด์ตัวรับ ส่วนแผงแนวรุกใช้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ ปั้นเกมหนุนกองหน้าตัวเป้าคือ ดิโอโก้ โชต้า ซึ่งเพิ่งตะบันแฮตทริกในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่บุกไปขยี้ อตาลันต้า 5-0 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา คานเซโล่, เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาน กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง

ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่, ดิโอโก้ โชต้า

บทวิเคราะห์

ตั้งแต่ขาด เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังคนสำคัญที่เจ็บยาว ลิเวอร์พูลก็ไม่ได้ออกอาการเป๋แต่อย่างใด แถมยังเดินหน้าเก็บชัยชนะมา 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการแล้ว 

อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าคู่แข่งใน 5 นัดที่ผ่านมานั้นไม่ใช่ทีมระดับท็อปอะไรสักเท่าไร ไม่ว่าจะเป็น อาแจ็กซ์, เชฟฯ ยูฯ, มิดทิลแลนด์, เวสต์แฮม และอตาลันต้า ซึ่งจะต่างจากเกมนี้ โดยทัพ “เรือใบสีฟ้า” จะเป็นบททดสอบของจริงในการพิสูจน์เกมรับของลิเวอร์พูลในยามที่ไร้เงา ฟาน ไดจ์ค

เกมนี้ถือเป็น “บอล 3 หน้า” ที่โอกาสแพ้-ชนะ-เสมอใกล้เคียงกัน และด้วยศักยภาพทีม ชื่อชั้นตัวผู้เล่น รวมไปถึงความพร้อมต่างๆ ของทีมที่ไม่ได้ต่างกันมากนัก ฉะนั้น การ “แบ่งแต้ม” จึงน่าจะเป็นผลการแข่งขันที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด

สกอร์ที่คาด

แมนฯ ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> เปิดเส้นทาง "ดิโอโก้ โชต้า" อาวุธหนักชิ้นใหม่แห่งกองกำลังหงส์แดง

>> ตัดเกรด!! นักเตะ ลิเวอร์พูล ฟอร์มสุดเดือด บุกไปถล่ม อตาลันต้า 5-0

 

ช่องดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก >> คลิกที่นี่

ดูบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทุกสัปดาห์ ผ่านทาง ID Station >> คลิกที่นี่




ยอดนิยมในตอนนี้