วันที่ 6 มิถุนายน 2025 ณ สนาม Paycom Center เมืองโอคลาโฮมา ซิตี้ อินเดียนา เพเซอร์ส สร้างปาฏิหาริย์ในเกมแรกของรอบชิงชนะเลิศ NBA ฤดูกาล 2024/25 ด้วยการพลิกสถานการณ์จากการตามหลังถึง 15 คะแนนในควอเตอร์ที่สี่ มาเอาชนะ โอคลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ ไปอย่างสุดระทึก 111-110 โดยได้คะแนนนำครั้งแรกของเกมจากการชู้ตของ ไทรีส ฮาลิเบอร์ตัน ในช่วง 0.3 วินาทีสุดท้าย เหตุการณ์สำคัญของเกม ควอเตอร์ 1: เกมเปิดด้วยสองจังหวะสวนกลับเกมเริ่มต้นด้วยความเร็วทันที ไทรีส ฮาลิเบอร์ตัน (Tyrese Haliburton) คุมเกมเพซให้กับเพเซอร์สตั้งแต่จังหวะแรก โดยการเพรสช์บอลและเปิดโอกาสให้โอบี โทพปิน (Obi Toppin) ทำการแต้มจากการสวนกลับ แต้มแรกให้เพเซอร์สใน 45 วินาทีแรก แต่นั่นก็ไม่ทันไร เพราะธันเดอร์ตอบโต้ด้วยเครื่องยนต์เกมรุกของ ไช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ ที่กระฉากเข้าไปทำแต้มเบิกร่องให้เจ้าบ้าน ก่อนปิดควอเตอร์ด้วยสกอร์ 31–28 เป็นธันเดอร์ที่นำเล็กน้อย ควอเตอร์ 2: ธันเดอร์ยืดสกอร์ แต้มขึ้นเป็น 12ควอเตอร์สอง ธันเดอร์เร่งสปีดเกมรุกจากการยิงสามแต้มของ เจเลน วิลเลียมส์ (Jalen Williams) และ ลูเกนซ์ ดอร์ต (Luguentz Dort) ที่พาเจ้าบ้านหนีออกไปถึง 55–43 เมื่อสิ้นสุดครึ่งแรก แสดงให้เห็นถึงการคุมเพซที่เหนือกว่าและการปิดจังหวะชอต 3 แต้มของเพเซอร์สได้อยู่หมัดใน 24 นาทีแรก ควอเตอร์ 3: เพเซอร์สโต้กลับอย่างใจสู้ ไล่มาเหลือ 78–73 เมื่อกลับมาเล่นต่อ ควอเตอร์ที่สามเป็นช่วงเวลาของเพเซอร์สอย่างแท้จริง โค้ชริก คาร์ไลล์ (Rick Carlisle) เรียกเวลาเพื่อปรับแผนเน้นเกมรุกและเกมรับแบบ “สวิตช์แมน” พวกเขาไล่ตีแต้มอย่างรวดเร็ว ขณะที่การป้องกันสามแต้มรัดกุมทำให้ธันเดอร์ต้องพลาดถึง 6 ครั้งในควอเตอร์นี้ ไทรีส ฮาลิเบอร์ตันที่เงียบมาตลอด 24 นาทีแรกค่อย ๆ ปลุกฟอร์ม เลี้ยงหาช่อง และแอสซิสต์ให้ Myles Turner ยิงสามแต้ม รวมถึง โอบี โทพปิน ที่เปลี่ยนทิศทางเกมในควอเตอร์นี้ ทำให้เพเซอร์สปิดควอเตอร์สามด้วยการยิงนำ 78–77 ทั้งสองทีมมีอัตราการยิง FG ใกล้เคียง 52% ต่อ 51% ควอเตอร์ที่ 4: เพเซอร์สตามหลังถึง 17 คะแนน แต่สามารถทำคะแนนได้ 35-25 ในควอเตอร์นี้ โดยมีการเปลี่ยนผู้เล่นทั้ง 5 คนในสนามเพื่อสร้างจุดเปลี่ยน ช่วงท้ายเกม: ไทรีส ฮาลิเบอร์ตัน ชู้ตระยะ 21 ฟุตในช่วง 0.3 วินาทีสุดท้าย ทำให้เพเซอร์สขึ้นนำเป็นครั้งแรกและคว้าชัยชนะ ผลงานเด่นของผู้เล่น ไทรีส ฮาลิเบอร์ตัน (Indiana Pacers): จบเกมด้วยสถิติ 14 คะแนน, 10 รีบาวด์, 6 แอสซิสต์ พร้อมชู้ตสำคัญในวินาทีสุดท้าย พิสูจน์ให้เห็นถึงความ “มังกร” ในสถานการณ์กดดัน แถมยังคุมเพซเกมรุกและเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม จึงได้รับคำชมว่าเป็น “ฮีโร่” ในยามยากลำบาก ปาสคาล ซียากัม (Indiana Pacers): คุมเกมกลางสนามรวมถึงยิง 19 คะแนนและ 10 รีบาวด์ สร้างอิทธิพลทั้งสองฝั่งสนาม นับเป็นงาน “เอน-ทู-เอนด์” ที่สมบูรณ์แบบในการแย่งบอลและเล่นเกมรุก จึงได้รับเลือกเป็น MVP ของเกมนี้ Shai Gilgeous-Alexander (Oklahoma City Thunder): นำเพดานคะแนนฝั่งธันเดอร์ด้วย 38 คะแนน, 5 รีบาวด์, 8 แอสซิสต์ แม้จะทำคะแนนสูงสุดในเกม แต่พลาดช็อตสุดท้ายในการแก้เกมรับ จึงอดเสิร์ฟ “แต้มปิดเกม” ให้ธันเดอร์ในวินาทีสุดท้าย Jalen Williams (Oklahoma City Thunder): เติม 17 แต้ม พร้อมการยิงสวย ๆ หลายครั้งในช่วงก่อนควอเตอร์สี่ แต่แม้ผลงานเด่น เขายังไม่สามารถเปลี่ยนโหมดรับให้ทีมได้ทัน จึงกลายเป็นจุดอ่อนให้เพเซอร์สฉวยโอกาสบดบี้ในช่วงท้าย Lu Dort (Oklahoma City Thunder): ทำ 15 แต้ม พร้อมสไตล์ “ปกป้องเลน” ติดต่อหลายครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เพียงพอ ท้ายเกมถูกเพเซอร์สเจาะช่องจนฟาวล์ต่อเนื่องจนพ่ายในการปิดเกม สถิติที่น่าสนใจ เพเซอร์สเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ NBA Finals ที่สามารถพลิกสถานการณ์จากการตามหลัง 7 คะแนนขึ้นไปในช่วง 3 นาทีสุดท้ายและคว้าชัยชนะได้ โดยก่อนหน้านี้ทีมที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันมีสถิติ 0-121 เพเซอร์สมีสถิติ 5-3 ในเกมเพลย์ออฟฤดูกาลนี้เมื่อพวกเขาตามหลัง 15 คะแนนขึ้นไป ผลกระทบต่อซีรีส์และแนวทางต่อไป ด้วยชัยชนะในเกมแรก เพเซอร์สขึ้นนำซีรีส์ 1–0 และพิสูจน์ว่า “ไม่มีทางยอมแพ้” แต่อย่างใด การพลิกกลับจากการตามหลัง 17 คะแนนในควอเตอร์สุดท้ายยิ่งตอกย้ำว่าเพเซอร์สเป็นทีมที่เล่นเกมเพลย์ออฟ “ไม่รู้จักแพ้” โดยมีสถิติ 5–3 ในฤดูกาลนี้เมื่อถูกนำห่าง 15 คะแนนขึ้นไป เกมที่ 2 จะกลับมาเล่นในคืนวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2025 ที่ Paycom Center และเป็นโอกาสให้เพเซอร์สสร้างโมเมนตัมก่อนไปเล่นในบ้านตัวเองที่ Gainbridge Fieldhouse นัดที่ 3 และ 4 รูปหน้าปก : รูปที่1 รูปที่2 รูปที่3 รูปที่4 รูปที่5 รูปภาพที่1 : จากเฟสบุ๊ค NBA รูปภาพที่2 : จากเฟสบุ๊ค Indiana Pacers รูปภาพที่3 : จากเฟสบุ๊ค NBA รูปภาพที่4 : จากเฟสบุ๊ค NBA ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !