ผลจับฉลากยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ปรากฏว่า แชมป์เก่าเชลซี เจองานหนัก ที่ต้องโคตจรมาพบกับ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เจ้าแห่งยุโรป 13 สมัย อีกครั้ง ซึ่งเมื่อฤดูกาลก่อนทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้วในรอบรองชนะเลิศ แล้วเป็นทางด้านเชลซีที่เอาชนะและผ่านเข้ารอบไปชิงฯ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สุดท้ายคว้าแชมป์รายการนี้มาครอบครองได้สำเร็จ ส่วน ลิเวอร์พูล งานเบามีลุ้นคว้า 4 แชมป์ ในฤดูกาลนี้ สรุปผลจับสลาก ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 8 ทีมสุดท้าย เชลซี VS เรอัล มาดริด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS แอตเลติโก มาดริด บียาร์เรอัล VS บาเยิร์น มิวนิค เบนฟิก้า VS ลิเวอร์พูล เชลซี (อังกฤษ) พบ เรอัล มาดริด (สเปน)สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย UCL เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ปีนี้เจอมรสุมครั้งใหญ่นั่นก็คือประเด็นของ โรมัน อับราโมวิช ที่ยังไม่จบลงชักที อย่างไรก็ตามผลงานในสนามต้องบอกว่าตรงกันข้ามที่ตอนนี้เก็บชัยได้ถึง 10 นัดจาก 11 นัดทุกรายการ โดยเกมที่เสมอก็เป็นเกมชิงฯ คาราบาว กับ ลิเวอร์พูล สภาพทีมตอนนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วยนักเตะที่ดี และกุนซือมากประสบการณ์อย่าง โธมัส ทูเคิ่ล ที่มีสถิติการคุมทีมเจอ เรอัล มาดริด ใน UCL ยังไม่เคยแพ้เลย เจอกันทั้งหมด 6 ครั้ง ชนะ 2 เสมอ 4 แต่ครั้งนี้อาจจะไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา เพราะ เรอัล มาดริด ยุคของ คาโล อันเซอร์ลอตติ ดีกรีโค้ชแชมป์ยุโรป 3 สมัย ผลงานดีขึ้นจากฤดูกาลก่อนมากและตอนนี้ก็เป็นจ่าฝูงของ ลาลีกา สเปน ผู้เล่นก็มีตัวอันตรายทั้ง คาริม เบนเซมา เวเนซีอุส จูเนียร์ ซึ่งกำลังฟอร์มดี และผู้เล่นที่มีประสบการณ์ในเวทียุโรปมากมาย เรียกได้ว่ามีโอกาสทั้งสองทีม สำหรับคู่นี้ผมให้โอกาสเข้ารอบ 50/50 ละกันครับ เพราะดูแล้วใกล้เคียงกันมาก บียาร์เรอัล (สเปน ) พบ บาร์เยิร์น มิวนิค (เยอรมัน ) เรือดำน้ำ บียาร์เรอัล แชมป์ยูโรป้าลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถึงแม้ในลีกผลงานอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่พวกเขามีกุนซืออย่าง อูไน เอเมรี่ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อบอลถ้วยขนาดยูเวนตุสที่ว่าแน่ๆ ยังโดนมาแล้ว แถมมีเกมสวนกลับที่น่ากลัวเหมือนกัน ทางฝั่ง เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ผลงานในลีกอาจมีฟอร์มหลุดไปบ้างแต่เกมยุโรปพวกเขาก็ไม่เป็นรองทีมไหน แถมยังมีกองหน้าจอมถล่มประตูอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ซัดไปแล้ว 12 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนลีก แต่จุดอ่อนยังคงเป็นเกมรับที่มีโอกาสเสียประตูอยู่เหมือน แต่ถ้าวัดถึงประสบการณ์เวทียุโรปยังคงมั่นใจว่า เสือใต้จะผ่านเข้ารอบได้สำเร็จลิเวอร์พูล (อังกฤษ) พบ เบนฟิก้า (โปรตุเกส) หงส์แดง ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 5 สมัย ของ เจเก้น คล็อปป์ นัดแรกจะออกไปเยือนทาง เบนฟิก้า ยอดทีมจากโปรตุเกส ถือว่าไม่หนักอะไรเท่าไหร่ คล็อปป์ พาหงส์แดงเข้าชิงรายการยุโรปได้ 2 ครั้ง จาก 5 ฤดูกาลหลังสุดพร้อมกับคว้าแชมป์ได้ 1 ครั้ง และ ลิเวอร์พูลไม่แพ้ทีมจากโปรตุเกสมา 11 ปีแล้วนะครับ เกมในลีกก็ชนะรวดมา 8 นัดติดต่อกันแล้วและทำแต้มไล่จี้จ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือแค่ 1 แต้มเท่านั้น และเกมที่เจอกับ เบนฟิก้า ใน UCL ก็ต้องบอกว่าก็อย่าประมาทนะครับ อย่าลืมว่า เบนฟิก้า เขี่ย อาแจกซ์ อาร์มเซอร์ดัม ตกรอบมาแล้ว แต่ข้อได้เปรียบของ ลิเวอร์พูล คือนัดสองต้องมาเตะที่แอนฟิวส์และมักจะกลับมาได้เสมอ คู่นี้ผมจึงยกให้ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบครับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ ) พบ แอตเลติโก มาดริด (สเปน) เรือใบสีฟ้ายังตั้งใจที่จะคว้าถ้วยใบนี้มาโดยตลอด ซึ่งพวกเขายังไม่เคยได้สัมผัสมัน ถ้าวัดกันถึงผลงานแล้วต้องบอกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขามาดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้เล่นและโค้ชที่คุณภาพคับแก้ว แต่ก็อย่าได้ประมาททีมแชมป์ ลาลีกาสเปน เด็ดขาด เพราะ ซิเมโอเน่ ที่ได้ชื่อว่าเป็นโค้ชที่ชอบเขี่ยทีมจากอังกฤษตกรอบมานักต่อนักแล้ว ถึงแม้ผลงานในลีกปีนี้อาจจะไม่ถึงขั้นว่าดีมากนัก ทีมของพวกเขามักมีทีเด็ดให้เห็นเสมอ แต่ถึงอย่างไรน่าจะต้านทานทัพเรือใบสีฟ้าได้ยาก ทีมเต็งที่คิดว่าน่าจะคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2021-2022 เต็ง 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็ง 2 ลิเวอร์พูล เต็ง 3 บาร์เยิร์น มิวนิค เต็ง 4 เรอัลมาดริด และ เชลซี ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรกจะลงเตะกันในวันที่ 5-6 เมษายน 2565 นัดที่สองวันที่ 12-13 เมษายน 2565 ส่วนรอบรองชนะเลิศ ผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ แอตเลติโก มาดริด จะเข้าไปเจอกับผู้ชนะระหว่าง เชลซี กับ เรอัล มาดริด ส่วนผู้ชนะระหว่าง เบนฟิก้า กับ ลิเวอร์พูล จะเข้าไปเจอกับผู้ชนะระหว่าง บียาร์เรอัล กับ บาเยิร์น มิวนิค โดยรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นที่สนาม สตาด เดอ ฟร็องส์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2565 เนื้อหาทั้งหมดนี้เขียนจากมุมมองของของนักเขียนเอง ถ้ามีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ เครดิตภาพจาก : UEFA Champions League ทั้งหมด ภาพหน้าปก 1 ภาพหน้าปก 2 ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพที่ 5 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !
