Head-2-Head !! วัดกันตัวต่อตัว ผู้เล่น บีจี ดวล ชล ก่อนชิงดำ เอฟเอคัพ

ก่อนที่จะได้ลุ้นกับเกมชิงชนะเลิศ ศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2014 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี พบ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ซึ่งเป็นสัญญาณว่าฟุตบอลไทย ได้ถึงจุดสิ้นสุดของซีซัน 2014 แล้ว ซึ่งเราจะมาดูขุมกำลังของทั้ง 2 ทีม ว่าใครเหนือกว่ากัน ก่อนที่จะลงไปฟาดแข้งในศึกแห่งศักดิ์ศรีเกมนี้ 

ตำแหน่งแนวรับ : สุทธินันท์ พุกหอม VS ประวิณวัช บุญยงค์ 

ถือว่าเป็นการดวลกันระหว่าง 2 แนวรับทีมชาติไทย ชุดลุยศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 โดยตรง มาลุ้นกันว่าใครจะสกัดกั้นเกมรุกของฝ่ายตรงข้ามได้อยู่หมัดในเกมนี้ และคอยเป็นพาร์ตเนอร์ของ แอนเดอร์สัน ดอส ซานโต๊ส และ เทรุยูกิ มิโนวะ ทั้งเกมแน่นอน 

ตำแหน่งคนคุมเกม : อดุลย์ หละโสะ VS ดาร์โก ทาร์เชฟสกี 

ตำแหน่งมิดฟิลด์ คงต้องจับตาดูว่า ใครจะแย่งชิงพื้นที่กลางสนามมากที่สุด ซึ่งทางด้านของ ชลบุรี ต้องมี กัปตันทีมชาติไทยคนใหม่ อย่าง “บังดุล” คอยคุมทุกอย่างในแดนกลาง เพื่อลดภาระของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่ ไม่สามารถยืนระยะได้เหมือนก่อน ซึ่งจะต้องออกแรงเหนื่อยเป็นสองเท่า เพราะ จะไม่มีคู่ขาอย่าง คาซึโตะ คูชิดะ ที่เจ็บยาวไปแล้ว ส่วนทางด้านของ บีจี ก็ต้องมี “พ่อมดแห่งไทยลีก” ดาร์โก ทาร์เชฟสกี เพลย์เมคเกอร์ชาวมาซิโดเนีย ยามบอลอยู่ที่เท้าของเค้าเเล้ว จะสามารถหาโอกาสให้เพื่อนทำประตูได้ตลอด ซึ่งทาง บีจี เอง ต้องพึ่งความสามารถของคนนี้ เยอะแน่นอน 

ตำแหน่งกองหน้าจบสกอร์ : ติเอโก้ คุนญา VS ลาซารัส คาอิมบี

บทพิสูจน์ความคมในการจบสกอร์ ชลบุรี ก็มีอาวุธเด็ดมหาประลัย อย่าง ติเอโก้ คุนญา กองหน้าแซมบ้า ที่พร้อมที่จะปลิดชีพได้ทุกเมื่อหากเกิดอาการเผลอ ชะล่าใจ ซึ่งมีคู่ขาที่เล่นได้เข้าใจสุดๆ อย่าง ชูเลียโน มิเนโร ที่ลงมาทีไร เปอร์เซ็นต์ชนะของชลบุรี จะสูงทันที ส่วนทางด้านของ บีจี ก็ไม่เลว เมื่อมี 2 กองหน้าต่างชาติที่ความอันตรายในหน้ากรอบเขตโทษ ก็พร้อมที่จะเผด็จศึกได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น จรวดทางเรียบจากประเทศนามิเบีย ลาซารัส คาอิมบี ที่ความเร็วไม่เป็นที่สองรองใคร และก็มีคุ่ขาในแดนหน้าที่พร้อมเป็นตัวสนับสนุนให้ ไม่ว่าจะเป็น บลาเซ อิลิโจสกี กับ โกชิ โอคุโบะ

เฮดโค้ช : มาซาฮิโร วาดะ VS อนุรักษ์ ศรีเกิด

ด้านการแก้เกมด้วยแล้ว มันสมองและไหวพริบ รวมไปถึงกึ๋นในการมองเกมก็ต้องใช้กันอย่างแน่นอน ทางด้านของ มาซาฮิโร วาดะ ของ ชลบุรี ถือว่ามันสมองการแก้ของเค้า ทำให้ ชลบุรี ที่ตื้อๆ กลับมามีแต้มได้อย่างทันตาเห็น หลายเกมแล้ว ทำให้ลุ้นกับ บุรีรัมย์ ไปจนถึงเกมสุดท้าย ของ ไทยพรีเมียร์ลีก ส่วนทางด้านของ “โค้ชจุ่น” เอง ด้วยประสบการณ์ในการคุมทีมอย่างโชกโชน ก็สามารถพายอดทีมแห่งรังสิต-คลอง 3 โค่น 2 ยักษ์ใหญ่แห่งไทยพรีเมียร์ลีก ถึง 2 รอบติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็น การยันเสมอกับ บุรีรัมย์ แบบน่าจะชนะภายในเวลาปกติแล้ว และ การเอาชนะ เมืองทอง ได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่เหลือแค่ 10 คน เท่านั้น 

นี่แค่การวัดขุมกำลังทั้ง 2 ทีมว่าใครจะทำให้ทีมของตัวเองคว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง เพื่อคว้าโควต้าไปลุ้นเพลย์ออฟ ศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2015 ต่อไป ซึ่งทั้ง 2 ทีม ต้องความหวังกับแชมป์นี้ไว้สูงมากพอสมควร ใครจะคว้าไปครอง ติดตามกันได้ 4 ช่องทาง ได้แก่ สทท.11, TRUE4U, ทรูสปอร์ต2 (682) และ ทรูสปอร์ต HD2 (687) เวลา 18:15 น. เป็นต้นไป 

เครดิตภาพ – Chonburi Football Club & Bangkok Glass FC 
เรียบเรียงโดย – Mo Malaysia 
07-11-2557
13.00 น.