เดิมพันแชมป์! 4 ประเด็นจับตา "เชลซี ปะทะ อาร์เซน่อล" นัดชิงเอฟเอคัพเสาร์นี้
ไฮไลท์ศึกฟุตบอลสุดสัปดาห์นี้ สปอตไลต์สาดส่องไปที่สนามเวมบลีย์ ซึ่งมีเกมเอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พบกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในคืนวันเสาร์ที่ 1 ส.ค. เวลา 23:30 น.
ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นเกม “ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์” ที่มีถ้วยแชมป์เป็นเดิมพันแล้ว เกมนี้ยังมีอีกหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจและแฟนบอลต้องติดตาม!
แชมป์แรก อาร์เตต้า หรือว่า แลมพาร์ด ?
ทั้ง 2 ทีมในคู่ชิงเอฟเอคัพปีนี้ ต่างฝ่ายต่างนำมาโดยกุนซือหนุ่มเลือดใหม่ไฟแรงเหมือนกัน นั่นคือ มิเกล อาร์เตต้า แม่ทัพอาร์เซน่อล ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมเต็มตัวกับทีมปืนใหญ่ เมื่อปลายปี 2019 นี่เอง และอีกฝั่งคือ แฟรงก์ แลมพาร์ด บอสใหญ่เชลซี ซึ่งออกสตาร์ทเส้นทางกุนซือกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เมื่อซีซั่นที่แล้ว ก่อนจะกุมบังเหียนสิงห์บลูส์ในฤดูกาลนี้
และแน่นอน...นัดชิงชนะเลิศไม่มีผลเสมอ ดังนั้นเกมนี้จะต้องมีกุนซือคนใดคนหนึ่งที่จะได้สัมผัสแชมป์เอฟเอ คัพเป็นครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีม หลังจากที่สมัยเป็นนักเตะ อาร์เตต้าเคยได้สัมผัสถ้วยนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนแลมพาร์ดได้ฉลองแชมป์ถึง 4 ครั้ง
แต่ไม่ว่าใครจะได้แชมป์ พวกเขาจะได้จารึกชื่อว่าเป็นกุนซือคนแรกที่ได้ชูถ้วยแชมป์เอฟเอคัพ ณ สังเวียนแข้งเวมบลีย์ โดยไม่มีแฟนบอลในสนามร่วมโห่ร้องแสดงความยินดี...เออ ก็เท่ไม่เหมือนใครดีนะ (อิอิ)
นัดสุดท้ายของโอบา?
หากเทียบกันแล้ว เกมนี้ดูจะเป็นแมตช์ที่มี “เดิมพันสูงกว่า” ของอาร์เซน่อล
ในขณะที่เชลซีจบอันดับ 4 ของศึกพรีเมียร์ลีก คว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เรียบร้อย แต่ทางฝั่งอาร์เซน่อลหลุดพื้นที่ไปสโมสรยุโรป หลังจากทำได้เพียงอันดับ 8 ของตาราง ดังนั้น “แชมป์เอฟเอ คัพ” จึงเป็นโอกาสเฮือกสุดท้ายที่จะทำให้พวกเขาได้ไปโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้า
และถ้าหากทีมปืนใหญ่อกหักในนัดนี้ล่ะ?
เมื่อพลาดแชมป์ ซีซั่นหน้าอาร์เซน่อลก็จะได้เล่นเฉพาะรายการในประเทศเท่านั้น นั่นเท่ากับว่ารายได้มหาศาลจากเกมยุโรปที่จะหายไป ส่งผลไปถึงงบประมาณในการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ที่จะลดน้อยลงไปด้วย
และที่สำคัญการชวดไปบอลยุโรป อาจหมายถึงการโบกมือลาของ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง ซึ่งมีสื่ออังกฤษรายว่า หากอาร์เซนอลไม่ได้ไปยูโรปาลีก “โอบา” ก็คงตัดสินใจย้ายออกจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เพื่อไปไขว่คว้าความสำเร็จกับสโมสรอื่น หลังจากเจ้าตัวย้ายมายังทีมปืนใหญ่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 และยิงประตูให้กับทีมได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยได้ฉลองแชมป์กับอาร์เซนอลเลยแม้แต่รายการเดียว
ด่านสุดท้ายเชลซี
จุดหนึ่งที่น่าสนใจของเชลซีคือ แฟรงก์ แลมพาร์ด จะใช้บริการผู้รักษาประตูคนไหนในเกมสำคัญนัดนี้?
อย่างที่ทราบกันดีว่า ตำแหน่งมือ 1 ของเชลซี คือ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า แต่ถ้าในเอฟเอคัพ แลมพาร์ดเลือกใช้งาน วิลลี่ กาบาเยโร่ ลงเฝ้าเสาเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยมีเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่ เกป้า ได้ลงตัวจริง คือเกมที่ชนะลิเวอร์พูล 2-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
เกมนี้จึงน่าสนใจว่า แลมพาร์ดจะกลับมาใช้ผู้รักษาประตูมือ 1 อย่าง เกป้า ในเกมนัดชิงดำ หรือจะยังคงให้ กาบาเยโร่ ลงทำหน้าที่ในฟุตบอลถ้วยต่อไป เพราะนี่คือรายการที่เจ้าตัวมีส่วนร่วมกับทีมมาโดยตลอด
และในเกมนัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีกที่เปิดบ้านชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 แลมพาร์ดก็ให้ กาบาเยโร่ ลงเป็นตัวจริง นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่า นายด่านจอมเก๋าวัย 38 ปีน่าจะได้ลงเฝ้าเสาที่เวมบลีย์ในเกมนี้
ปืนย้ำแค้น หรือ สิงห์ล้างอาย
ผลงานที่เจอกันในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ เชลซีเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า โดยบุกไปชนะ 2-1 ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และมาเสมอกัน 2-2 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
แต่ถ้าพูดถึง "รอบชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ" อาร์เซนอล และ เชลซี เคยโคจรมาจ๊ะเอ๋กันมาแล้วสองครั้ง โดยครั้งแรกเป็นนัดชิงปี 2002 ทีมปืนใหญ่ได้แชมป์ด้วยชัยชนะ 2-0 จากประตูของ เรย์ พาร์เลอร์ กับ เฟรดริก ลุงเบิร์ก ซึ่งเกมวันนั้น แลมพาร์ด ลงปั้นเกมแดนกลางให้กับเชลซีด้วย
ส่วนครั้งที่สองเกิดขึ้นในปี 2017 ซึ่งอาร์เซน่อลสามารถย้ำแค้นเชลซีได้อีกครั้ง หลังจากเฉือนชนะ 2-1 โดย อเล็กซิส ซานเชซ ยิงให้ทีมปืนใหญ่ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 4 ก่อนที่ ดีเอโก้ คอสต้า จะตามตีเสมอให้เชลซีในนาที 76 แต่หลังจากนั้นเพียง 3 นาที แอรอน แรมซีย์ ซัดประตูชัยให้อาร์เซน่อลคว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นสมัยที่ 13 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการนี้
ส่วนการชิงดำเอฟเอคัพหนที่ 3 ระหว่าง อาร์เซนอล-เชลซี ในวันเสาร์นี้ ทัพเดอะกันเนอร์สจะยังคงย้ำแค้น หรือขุนพลสิงห์บลูส์จะล้างตาได้สำเร็จ...เดี๋ยวรู้กัน!!
"111"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>> ศึกพรีเมียร์ลีกจบไป ยังเหลือฟุตบอลอะไรให้ดูบ้าง ?
>> ได้คู่ชิงแล้ว!! ฟูแล่ม ชน เบรนท์ฟอร์ด แย่งตั๋วขึ้นพรีเมียร์ลีกใบสุดท้าย
– ดูฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่