รีเซต
TRUE TALK - ลอนดอน มาราธอน : เมื่อ จ้าวสนาม ต้องปะทะ เจ้าถิ่น ... by "Mr.BOSTON"

TRUE TALK - ลอนดอน มาราธอน : เมื่อ จ้าวสนาม ต้องปะทะ เจ้าถิ่น ... by "Mr.BOSTON"

TRUE TALK - ลอนดอน มาราธอน : เมื่อ จ้าวสนาม ต้องปะทะ เจ้าถิ่น ... by "Mr.BOSTON"
boston2018
27 เมษายน 2562 ( 13:45 )
170

ลอนดอน มาราธอน เวิลด์ เมเจอร์ มาราธอน รายการที่ 3 ของปี กำลังจะเริ่มแข่งขันกันในวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายนนี้ ซึ่งสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจและจับตามองคือการวัดฝีเท้ากันของสองยอดนักวิ่ง อย่าง เจ้าของสถิติโลก อีเลียด คิปโชเก้ และ เจ้าถิ่นที่เพิ่งย้ายมาสู่สนามมาราธอน ได้ไม่นานอย่าง เซอร์ โม ฟาราห์

การดวลกันครั้งนี้ในเวที 42.195 กิโลเมตร ได้รับความสนใจจากทั้งแฟนกีฬา และ สื่อมวลชนเป็นอย่างมาก เพราะทั้งคู่ ถือเป็นสุดยอดของกีฬาสายกรีฑา

ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น ทรูไอดี ขอพาไปทำความรู้จักเรื่องราวของพวกเขาทั้งคู่กันสักเล็กน้อย

 

ลอนดอน มาราธอน เมเจอร์ที่ 3 ของสนามนักวิ่ง 

เวิลด์ เมเจอร์ มาราธอน สำหรับนักวิ่งทุกคนแล้ว นี่คือความใฝ่ฝันสูงสุด ไม่ต้องใกล้เคียงกับคำว่าชนะ แค่สามารถเอาชนะตัวเองด้วยการทำเวลาเข้าร่วมได้ แล้ววิ่งให้จบสำเร็จ คือความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของคนที่เรียกตัวเองว่า “นักวิ่ง” ได้แล้ว

โดย เมเจอร์ มาราธอน จะมีด้วยกัน 6 รายการ ซึ่งจะเรียงตามเวลาในปฏิทินได้ดังนี้

รายการแรก คือ โตเกียว มาราธอน จะมาในช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ หรือ ต้นเดือนมีนาคม นับเป็น เวิลด์ เมเจอร์ มาราธอน รายการแรกของปี

รายการที่ 2 ได้แก่ บอสตัน มาราธอน ซึ่งถือว่าเป็นสนามที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาเมเจอร์ มาราธอนทั้งหมด อายุกว่า 120 ปี ไปแล้ว แต่ก็เป็นรายการเดียวจาก 6 รายการด้วย ที่ไม่นับเวลาที่ได้เป็นสถิติโลก เนื่องจากเส้นทางวิ่งไม่ได้มาตรฐานของ สหพันธ์กรีฑานานาชาติ หรือ ไอเอเอเอฟ โดย บอสตัน จะจัดกันในช่วงกลางเดือน เมษายน

รายการที่ 3 คือ ลอนดอน มาราธอน ที่กำลังจะมาถึง ส่วนมากจะจัดกันในอาทิตย์สุดท้ายของเดือน เมษายน แต่ก็มีบางปีที่อาจจะสลับปฏิทิน กับบอสตัน เช่นกัน

หลังจากนี้ ก็จะมี เบอร์ลิน มาราธอน รายการเมเจอร์ที่ 4 ซึ่งเป็นสนามที่ถูกใช้เพื่อทำลายสถิติโลกมากที่สุด เนื่องจากเป็นสนามแข่งที่มีทางเรียบเยอะที่สุดและมีโค้งน้อยกว่าสนามอื่น ทั้งยังมีพื้นที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าน้ำทะเลไม่มาก ทำให้มีอ็อกซิเจน ในปริมาณมากด้วย

รายการที่ 5 คือ ชิคาโก้ มาราธอน ซึ่งเป็นสนามที่ 2 ของเวิลด์ เมเจอร์ ที่มีการจัดแข่งขันกันที่สหรัฐอเมริกา โดยสนามนี้ จะถูกจัดขึ้นในช่วงราวอาทิตย์ที่ 2 ของเดือน ตุลาคม

และปิดท้ายรายการสุดท้ายของ เวิลด์ เมเจอร์ ที่ นิวยอร์ก มาราธอน ซึ่งจะถูกจัดแข่งขันในวันอาทิตย์ สัปดาห์แรกของเดือน พฤศจิกายนนั่นเอง

 

จ้าวสนามผู้ใกล้เคียงกับความเหนือมนุษย์ที่สุดในโลก

 

หากพูดถึง การแข่งขันวิ่ง มาราธอน แล้วไม่พูดถึงชายคนนี้ ก็คงจะเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก และในลอนดอน มาราธอน คราวนี้ เขาเป็นหนึ่งในตัวชูโรงของการแข่งขันด้วย ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง เอเลียด คิปโชเก้ แชมป์เก่าลอนดอน มาราธอน ผู้เป็นเจ้าของสถิติโลก และว่ากันว่า เขาเป็นมนุษย์ที่เข้าใกล้ SUB2 (การวิ่งระยะมาราธอน ด้วยเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบัน ยังไม่มีใครเคยทำได้) มากที่สุด

คิปโชเก้ เพิ่งสร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ในวงการวิ่ง เมื่อเขาทำลายสถิติโลกเก่าของ เดนนิส คิเมตโต้ นักวิ่งเพื่อนร่วมชาติชาวเคนย่า ที่ทำไว้ที่ 2 ชั่วโมง 2 นาที 57 วินาที ในเบอร์ลิน มาราธอน ปี 2014 ลงในการวิ่งรายการเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยคิปโชเก้ ทำเวลาได้ 2 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาที

และเขาเป็นคนที่เคยวิ่ง ระยะ 42.195 กิโลเมตร ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง กับ 25 วินาที มาแล้ว เมื่อเขาเข้าร่วมโครงการ เบรกกิ้ง ทู ของไนกี้ ถึงแม้ครั้งนั้นจะไม่ได้รับการรับรองจาก สหพันธ์กรีฑาฯ ก็ตาม เพราะสนามที่ใช้นั้น ไม่ได้มาตรฐาน

แต่ถึงกระนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาคือตัวเต็งที่จะคว้าและป้องกันแชมป์รายการนี้มากที่สุด และมันก็คงจะเป็นอย่างนั้นแน่ จนกระทั่งการก้าวมาสู่เวที มาราธอน ของผู้ชายอีกคนหนึ่ง…

 

เจ้าถิ่นผู้เป็นสุดยอดในเวทีของตัวเองกับความท้าทายใหม่

 

(AP Photo/Alastair Grant)

เซอร์โม ฟาราห์ เป็นหนึ่งในนักวิ่งระยะไกลที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา หากแต่เวทีที่เขาสร้างชื่อ หาใช่ในระยะ มาราธอน เพราะ เซอร์โม เป็นยอดนักวิ่งระดับสถิติโลกในระยะ 5,000 และ 10,000 เมตร ซึ่งมันถูกการันตีด้วยเหรียญทองโอลิมปิกถึง 4 เหรียญ

ทว่าเขาได้วางมือ จากระยะดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว และก้าวสู่โลกใบใหม่ในระยะ 42.195 กิโลเมตร ซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจเสียด้วย หลัง เขาจบที่ 3 ใน ลอนดอน มาราธอน เมื่อปีก่อน พร้อม สร้างสถิติใหม่ในฐานะนักวิ่งสหราชอาณาจักร ที่วิ่งเร็วที่สุดในรายการนี้ ที่ 2 ชั่วโมง 6 นาที 22 วินาที ล้มสถิติของ สตีฟ โจนส์ ที่ทำไว้ในปี 1985 ไปเกือบ 1 นาที

เท่านั้นยังไม่พอ เพราะต่อมาในช่วงปลายปีที่แล้ว เขาก็คว้าแชมป์ เมเจอร์ มาราธอน เป็นรายการแรกในชีวิตได้สำเร็จ หลังเอาชนะรายการ ชิคาโก้ มาราธอน พร้อมสร้างสถิติใหม่ในฐานะนักวิ่งจากยุโรปที่เร็วที่สุด ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 5 นาที 11 วินาที ซึ่งเร็วที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ในประวัติศาสตร์กว่า 40 ปี ของการแข่งขันรายการนี้ด้วย

สำหรับใน ลอนดอน มาราธอน ปีนี้ เซอร์โม ฟาราห์ มาในฐานะผู้ท้าชิงอย่างชัดเจน แต่เขาก็หวังที่จะเอาชนะ “จ้าวสนาม” อย่าง คิปโชเก้ ให้ได้ เพราะอย่างไรก็ตาม ลอนดอน คือ บ้านของเขานั่นเอง

 

การเจอกันของ “สองไอค่อน” แห่งวงการวิ่ง

 

(AP Photo/Alastair Grant)

ชื่อของ เอเลียด คิปโชเก้ และ โม ฟาราห์ ถือได้ว่า เป็นชื่ออันดับต้น ๆ ของคนในวงการกรีฑา ที่มีคนรู้จักเยอะที่สุด ซึ่งอาจจะเป็นรองแค่ ยูเชน โบลท์ คนเดียวเท่านั้น ดังนั้น การมาแข่งขันกันในเวที ที่ลอนดอน ครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนการเจอกันของ สองไอค่อน แห่งวงการวิ่ง อย่างแท้จริง

คิปโชเก้ ถูกมองว่าเหนือกว่าเซอร์โม ทั้งในเรื่องของฐานะ, ศักดิ์ศรีการเป็นแชมป์เก่า ทั้งยังเป็นเจ้าของสถิติโลก และยังมีประสบการณ์การวิ่งในระยะมาราธอนมาอย่างยาวนานกว่า เซอร์โม แบบเทียบกันไม่ติด

แต่สิ่งที่เซอร์โม จะมีเหนือกว่าอย่างแน่นอนในวันแข่งขัน คือกำลังใจ และเสียงเชียร์ของเพื่อนร่วมชาติ เพราะนอกจากจะเป็นที่รู้จักแล้ว เซอร์โม ยังมีฐานะเป็นเหมือน ‘ฮีโร่’ ของคนในสหราชอาณาจักร จากการเป็นเจ้าของแชมป์โอลิมปิกถึง 2 สมัยด้วย

และถึงแม้จะเป็นรอง ทว่า เซอร์โม ก็มีสถิติที่น่าสนใจ เขาพัฒนาอย่างก้าวกระโดดหลังย้ายตัวเอง จากนักวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร มาเป็นนักวิ่งระยะมาราธอน ทั้งยังมีเทคนิคการเร่งความเร็วของนักวิ่งระยะกลางอยู่ในตัวเอง ซึ่งไม่ใช่เทคนิคที่นักวิ่งระยะไกลจะมี

เอเลียด เป็นนักกรีฑาที่ยิ่งใหญ่” ฟาราห์กล่าว “เขาชนะมาราธอนมาหลายรายการ และผมก็คว้าเหรียญทองมาหลายเหรียญเมื่อวิ่งบนลู่ แต่นี่คือเป้าหมายต่อไปในอาชีพของผม ผมเชื่อว่า ผมจะสามารถวิ่งได้ดี และทำได้ดีกว่าแค่ชนะในเมเจอร์ หลายรายการ

ด้าน คิปโชเก้ ก็มองว่า การที่ เซอร์โม ย้ายเวทีมาสู่ มาราธอน เป็นเรื่องน่าสนใจเช่นกัน “ไม่เลย (การที่ ฟาราห์ย้ายมาริ่ง มาราธอน) มันไม่ได้สร้างความกังวลให้ผม แต่ มันทำให้ผมสนใจในตัวเขา เพราะว่านี่คือสิ่งที่คุณต้องการเมื่อคุณแข่งกีฬา และมันจะช่วยให้คุณมีฟอร์มที่ดีขึ้นด้วย

ดังนั้น นอกจากเรื่องของชื่อชั้นที่สมศักดิ์ศรีกันแล้ว การได้ดูเขาทั้งค่ วิ่งในสนามเดียวกันก็จะต้องเป็นเรื่องที่น่าสนุก และตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัย

 

อาวุธใหม่ใช้ทำลายสถิติ 

นอกจากเรื่องราวของ “สองไอค่อน” ที่จะลงแข่งขันในคราวนี้แล้ว อาวุธ ที่ผู้สนับสนุนของทั้งคู่ มอบให้ทั้งสองคนใช้ฟาดฟันกับระยะทางอันห่างไกล ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งใน ลอนดอน มาราธอนครั้งนี้เช่นกัน

อาวุธดังกล่าวมีชื่อว่า “ไนกี้ เวปอร์ฟลาย เน็กซ์เปอร์เซ็นต์”

ใช่แล้ว นี่คือชื่อรองเท้ารุ่นใหม่ของ ไนกี้ ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก เวเปอร์ฟลาย โฟร์เปอร์เซ็นต์ เพื่อจะเล่าว่าทำไม เวปอร์ฟลาย เน็กซ์เปอร์เซ็นต์ ถึงน่าสนใจ อาจจะต้องย้อนความถึง โฟร์เปอร์เซ็นต์ กันก่อนเสียหน่อย

ไนกี้ ปล่อย เวเปอร์ฟลาย โฟร์เปอร์เซ็นต์ ออกมาให้นักวิ่งได้สวมใส่กันครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 2017 โดยแบรนด์ตราสวูช เคลมว่า นักวิ่งที่ใส่ โฟร์เปอร์เช็นตัวนี้ จะวิ่งได้เร็วขึ้นสูงสุด 4% จริง ๆ

ในตอนแรก มันดูเหมือนเป็นคำกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยเกินจริง แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รองเท้าตัวนี้กลายเป็นอุปกรณ์หลักสำหรับแชมป์ไปเสียแล้ว เพราะตามสถิติระบุว่า 63 เปอร์เซ็นต์ของแชมป์ มาราธอน ใส่รองเท้าตัวนี้ และมันยังตอกย้ำว่า นี่คือรองเท้าทีมาราธอน ที่ดีที่สุด ด้วยการช่วยให้ คิปโชเก้ สร้างสถิติโลกใหม่สำเร็จด้วย

และใน ลอนดอน มาราธอน คราวนี้ เวปอร์ฟลาย เน็กซ์เปอร์เซ็นต์ จะถูกปล่อยให้นักวิ่งในสังกัดของ ไนกี้ ใช้กันครั้งแรก ซึ่งผู้ผลิตยืนยันว่า รองเท้าตัวนี้ มีน้ำหนักเบากว่า โฟร์เปอร์เซ็นต์ ราว 12-15 กรัม แต่จะมีโฟมเพื่อรองรับแรงกระแทกมากขึ้นถึง 15%

ไม่แน่ว่า สถิติใหม่ของ ลอนดอน มาราธอน อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ ใต้พื้นรองเท่า เวปอร์ฟลาย เน็กซ์เปอร์เซ็นต์ ของใครสักคนก็ได้

 

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

(AP Photo/Alastair Grant)

ว่ากันว่า หลังจาก ลอนดอน มาราธอน ครั้งนี้ โลกของการวิ่งระยะไกล จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

โดยปกติ มาราธอน เป็นกีฬาที่แข่งขันกับตัวเอง มากกว่าแข่งขันกับคนอื่น ซึ่งสำหรับคนที่เคยวิ่ง จะเข้าใจข้อความนั้นดี

แต่สำหรับคนดูกีฬา การแข่งขันที่ไม่มีคู่แข่งขัน และ ตัวละคร ไม่ใช่การแข่งขันที่สนุก การมี โรนัลโด้ กับ เมสซี่, เบรดี้ กับ แมนนิ่ง, นาดาล กับ เฟเดอเรอร์ หรือ เลอบรอน กับ เคอร์รี่ ทำให้การดูกีฬาสนุกขึ้นได้จริง

ดังนั้น ต่อให้ มาราธอน เป็นกีฬาแข่งขันกับตัวเองจริง แต่การได้ดูสองนักวิ่งไอค่อนแห่งยุอย่าง เอเลียด คิปโชเก้ กับ โม ฟาราห์ ได้วิ่งแข่งในสนามเดียวกัน ย่อมน่าจะสนุกกว่า

เพราะอย่างน้อย เราก็มีตัวละครให้เลือกข้าง และเลือกเชียร์ได้

ว่าแต่ ลอนดอน มาราธอนคราวนี้ คุณเลือกข้างหรือยังครับ?

 

“Mr.BOSTON”

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้