TRUE FEATURES : "กิเลนสายฟ้า" จัดทีมแข้งที่เคยสวมยูนิฟอร์ม "เมืองทอง - บุรีรัมย์" ... by "จอน"

TRUE FEATURES : แจ็คสัน อเวลิโน่ โคเอลโญ่ หรือ “จาจ้า” เจ้าของตำแหน่งรองดาวซัลโว โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2017 ที่จำนวน 34 ประตู ภายใต้สีเสื้อ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลายเป็นนักเตะรายล่าสุด ที่เตรียมสวมเสื้อลงสนามให้สองสโมสรยักษ์ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย หลัง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กระชากเขาด้วยสัญญาซื้อขาดจาก โลเคอเรน ทีมในเบลเยียม
สัญญา 2 ปีครึ่ง พร้อมสวมเสื้อหมายเลข 50 เหมือนเช่นค้าแข้งกับทีมจากอีสานใต้…
ไม่รู้ว่า การกลับมาไทยลีกแบบเร็วกว่าที่คิดของ จาจ้า จะปังเหมือนเดิมหรือไม่ ก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กันไป
แต่ก่อนหน้าบิ๊กดีล “จาจ้า” นี้ ก็มีนักเตะอีกหลายคน ที่เคยลงสนามให้กับทั้ง เมืองทองฯ และ บุรีรัมย์ มาแล้วหลายคน และนี่คือ 11 คน ที่เคยอยู่กับทั้งสองทีม บ้างก็ปังทั้งสองทีม บ้างก็ไม่ปังสักทีม จะมีใครบ้างนั้น ต้องลองไปดูกัน ซึ่งผมก็ขออนุญาตจัดมาเป็นทีมเลยก็แล้วกัน
***********
ผู้รักษาประตู : อุกฤษณ์ วงศ์มีมา
อดีตดาวรุ่งที่สุดคนหนึ่งในตำแหน่งนายด่านของเมืองไทย เขาเริ่มต้นการค้าแข้งหลังจากเรียนจบ ม.6 ด้วยการมีสัญญาอยู่กับ เมืองทอง และมีโอกาสได้เล่นในทัวร์นาเมนต์ Super Cup 2009 ก่อนถูกปล่อยตัวให้กับ บุรีรัมย์-พีอีเอ ในราคาที่สูงมากถึง 3 ล้านบาท ในขณะนั้น หากเทียบกับตำแหน่ง และอายุ แต่ท้ายที่สุด เขาก็ไม่สามารถแจ้งเกิดกับ “เซราะกราว” ได้ ทำให้ต้องย้ายไปร่วมทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ตั้งแต่ปี 2012 และเป็นตัวหลักให้กับ “ราชันมังกร” ตั้งแต่นั้นมา
***********
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : อดิศร พรหมรักษ์
เจ้าเก่ง กองหลังร่างเล็กจากสงขลารายนี้ ได้เป็นนักเตะระดับอะคาเดมี่ของบุรีรัมย์ หลังจากที่เขาผ่านการเรียนและเป็นนักฟุตบอลที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งเขาเป็นส่วนหนึ่งของแชมป์โค้กคัพ เมื่อปี 2011 ก่อนที่บันไดขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่จะตัน ทำให้ต้องย้ายมาร่วมทีม อาร์มี่ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรแจ้งเกิดของเขาเลย ตามด้วยย้ายมาอยู่กับ บีอีซี เทโรศาสน ในเวลาต่อมา และฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา กับทั้งสโมสร และทีมชาติ ก็ทำให้ เมืองทอง ดึงตัวมาร่วมทีมจนถึงปัจจุบัน
***********
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : นุกูลกิจ ครุฑใหญ่
ปราการหลังที่เติบโตมาจากการเป็นแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 เมื่อ 7 ปีที่แล้วกับ บีอีซี เทโรศาสน ก่อนจะถูกปราสาทสายฟ้า ดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2015 และสร้างประวัติศาสตร์คว้า 5 แชมป์กับสโมสร โดยได้โอกาสลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 13 เกม ก่อนที่จะถูกปล่อยไปให้กับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ตั้งแต่สมัยอยู่ในดิวิชั่น 1 และก็ย้ายมาอยู่กับเมืองทอง ในช่วงเลกสองของปีที่ผ่านมานี่เอง
***********
แบ็คขวา : จักรพันธ์ แก้วพรม
“มิสเตอร์ไทยลีก” ตัวจริงเสียงจริง ที่เคยได้แชมป์ไทยลีกมาแล้วถึง 6 สมัย แบ่งเป็นกับ “ปราสาทสายฟ้า” 5 สมัย และอีก 1 สมัยเกิดขึ้นในปี 2010 กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งที่กิเลนผยองนั้น เขามักจะได้โอกาสเล่นแบ็คขวาด้วย (ผมเลยขอวางเจ้าโน้ตไว้ในตำแหน่งแบ็คขวา) ซึ่งปีล่าสุด เขาก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดี นอกจากพาบุรีรัมย์ คว้าแชมป์แล้ว ยังคว้ารางวัลส่วนตัว นักเตะยอดเยี่ยม โตโยต้า ไทยลีก 2017 พร้อมได้รับการต่อสัญญากับบ้านเกิด บุรีรัมย์ ออกไปจนถึงสิ้นปี 2564 อีกด้วย
***********
แบ็คซ้าย : ธีราทร บุญมาทัน
อดีตแบ็คซ้ายที่เป็นยิ่งกว่าคนสำคัญของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรที่ฟูมฟักเขาจนก้าวขึ้นไปเป็นกัปตันทีมชาติไทย แต่ด้วยวิถีฟุตบอล วันหนึ่งเขาก็หันหลังให้กับ “ปราสาทสายฟ้า” ที่เคยสร้างแชมป์ 20 ใบไว้ ก่อนจะมาอยู่กับอริเบอร์หนึ่งอย่าง เมืองทอง ชนิดช็อกแฟนบอลเมื่อกลางปี 2016 และปัจจุบัน “โก๋อุ้ม” ก็ได้ทำตามความฝันอีกอย่างแล้ว นั่นคือการโกอินเตอร์ ไปร่วมทีม วิสเซิ่ล โกเบ ทีมดังในเจลีก ญี่ปุ่น ซีซั่นหน้า ในรูปแบบการยืมตัว 1 ฤดูกาล
***********
กองกลาง : นฤพล อารมณ์สวะ
อดีตดาวรุ่งดีกรีช้างไทยไปเอฟเวอร์ตัน ที่กลับมาล่าฝันบนสนามหญ้าที่บ้านเกิด และเริ่มต้นไล่ล่าความสำเร็จกับ เมืองทอง ที่แรก พร้อมคว้าแชมป์ไทยลีกได้เมื่อปี 2009 ก่อนจะย้ายไปหลายสโมสรทั้ง บีอีซี เทโรศาสน, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และเป็นบุรีรัมย์ ที่คว้าตัวไปเมื่อปี 2015 ก่อนจะบาดเจ็บ ไม่ค่อยได้ลงสนาม และถูกส่งตัวมาที่ ชลบุรี เอฟซี ในปี 2016 จนกระทั่งมาอยู่กับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในปัจจุบัน
***********
กองกลาง : ชาริล ชัปปุยส์
เทพบุตรลูกหนังลูกครึ่งไทย-สวิส อดีตดาวเตะดีกรีแชมป์โลกรุ่นเยาว์จากแดนนาฬิกา เขาย้ายมาค้าแข้งในไทย เมื่อปี 2013 กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งในเรื่องผลงานกับสโมสร ผลงานทีมชาติ และผลงานนอกสนาม จากใบหน้าอันหล่อเหลาราวเทพบุตร แต่ท้ายที่สุด ด้วยอาการบาดเจ็บหลายครั้ง ทำให้เขาถูกปล่อยตัวมาอยู่กับ สุพรรณบุรี เอฟซี และเป็น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นสโมสรล่าสุดของเขา จนถึงปัจจุบัน
***********
ปีกขวา : ชิตชนก ไชยแสนสุรินธร
แนวรุกลูกครึ่ง ไทย-ลาว วัย 23 ปี ที่เกิดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขาเพิ่งย้ายไปอยู่ เอฟซี คิอาสโซ ทีมในลีกรองของสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแข้งดีกรีเด็กฝึกหัดของซามพ์โดเรียรายนี้ เริ่มต้นในไทยด้วยการมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2013 ก่อนจะไม่ปังเท่าที่คิด และสลัดน้ำหมึกร่วมทีม เมืองทอง ในเวลาต่อมา ซึ่งก็ยังไม่ปังเหมือนเดิม ก่อนจะย้ายไปอีกหลายทีมทั้ง บีอีซี เทโรศาสน, พีทีที ระยอง และ สุพรรณบุรี เอฟซี ซึ่งก็ไม่มีที่ใดที่เขาโชว์ฟอร์มได้ปังอย่างที่คาดไว้แต่แรก จนทำให้ต้องกลับบ้านเกิดในที่สุด
***********
ปีกซ้าย : ประกิต ดีพร้อม
อดีตโคตรซุปตาร์ แห่งวงการฟุตบอลนักเรียน ที่เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งอาชีพกับ “กิเลนผยอง” ตั้งแต่สมัยอยู่ระดับดิวิชั่น 2 เมื่อปี 2007 พร้อมกับเพื่อนรักอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ก่อนลมแห่งโลกลูกหนังจะพัดเขาไปทั้ง ราชประชา, ทีโอที เอสซี ก่อนจะถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าตัวร่วมทีมเมื่อปี 2015 และชีพจรของกิตก็ลงเท้าอีกครั้งในปีต่อมา กับทีมยักษ์แห่งภาคตะวันออกอย่าง ชลบุรี เอฟซี แต่สุดท้าย ลมหวนก็พัดเขากลับมาซบอกกิเลนอีกครั้งในรอบ 10 ปี เมื่อปีที่ผ่านมา
***********
กองหน้า : อดิศักดิ์ ไกรษร
ดาวยิงชื่อย่อสุดเท่ “AK” เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งจากการเป็นเยาวชนของ เมืองทอง ก่อนจะถูกปล่อยยืมไปอยู่ ภูเก็ต เอฟซี และปล่อยตัวขาดให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บ้านเกิดของเขาในเวลาต่อมา และไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนัก เนื่องจากแชมป์เซราะกราว มักใช้กองหน้าต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เขาต้องย้ายตัวเองมาอยู่กับ บีอีซี เทโร ในปี 2015 ก่อนที่สุดท้าย ลมก็พัดหวนให้เขากลับรังกิเลนอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา
***********
กองหน้า : สุริยา ดอมไธสง
คนเดียวในลิสต์รายชื่อที่เลิกเล่นไปแล้ว สำหรับกองหน้ารายนี้ โดยเขาเป็นนักเตะในสังกัดของเมืองทอง ยุคคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยแรกของสโมสร ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บุรีรัมย์ บ้านเกิด และอยู่ช่วยทีมยาวนานในฐานะกองหน้าตัวสำรอง พร้อมกับถูกส่งไปช่วยทีมพันธมิตรหลายครั้ง ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปเรียบร้อย และเป็นสต๊าฟฟ์โค้ชของ “ปราสาทสายฟ้า” ในปัจจุบัน
“จอน”
ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports