หลังจากเกมวันพุธที่ผ่านมาครับที่ทัพหงส์แดงเคลื่อนพลบุกไปแพ้ราชันชุดขาวไป 1-0 จากการทำประตูของเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์สมัยล่าสุดอย่าง Karim Benzema หรือด้วยสกอร์รวมที่เรียกได้ว่าเป็นผลการแข่งขันที่ยับที่สุดในรายการนี้เท่าที่ทัพหงส์แดงได้เล่นมาที่ 6-2 และในบทความนี้ครับจะพาทุกคนมาดูรายละเอียดในเกม รวมถึงสถิติต่างๆที่น่าสนใจภายในเกมกันครับRating ของผู้เล่นทั้งสองทีมReal Madrid: Courtois (8), Carvajal (7), Militao (7), Rudiger (7), Nacho (7), Kroos (8), Modric (8), Valverde (6), Camavinga (7), Vinicius (8), Benzema (8).ตัวสำรอง : Ceballos (6), Rodrygo (6), Asensio (6), Tchouameni (6), Lucas (6).Liverpool: Alisson (8), Alexander-Arnold (6), Van Dijk (7), Konate (7), Robertson (6), Milner (7), Fabinho (6), Gakpo (6), Salah (6), Jota (5), Nunez (7).ตัวสำรอง : Firmino (6), Elliot (6), Oxlade-Chamberlain (6) และ Man of the match ประจำนัดนี้คือ Karim Benzema นั่นเองครับช่วงพีคของหงส์แดงก่อนที่จะพูดถึงจุดนั้น ต้องพูดถึง 11 ตัวจริงที่คล็อปป์ส่งลงสนามก่อนล่ะครับ ในเกมนี้คล็อปป์ส่ง Jota ลงไปอีกคนเพื่อเพิ่มความน่ากลัวในเกมรุกของหงส์แดง และนั่นก็เป็นผลครับเพราะในช่วงต้นของเกมลิเวอร์พูลบุกใส่ชุดขาวแบบเป็นพายุ บวกกับมาดริดเปิดพื้นที่ในแดนกลาง ทำให้หงส์แดงสามารถเล่นได้ง่ายมากขึ้น และจังหวะยิงครั้งแรกของเกมก็ตกเป็นของลิเวอร์พูลล่ะครับ ซึ่งเป็นโอกาสยิงของ Nunez แต่ก็ยังไม่ผ่านมี Courtois และหลังจากนั้นคู่หูที่เรียกได้ว่าร้อนแรงที่สุดในตอนนี้อย่าง Benzema และ Vinicius Junior ก็เริ่มที่จะสร้างโอกาสให้กับชุดขาวให้แฟนหงส์ตัวสั่นกันบ้างราชันก็คือราชันหลังจากปล่อยให้หงส์บุกมาในช่วงต้นเกม พวกเขาเริ่มที่จะตอบโต้หนักขึ้น มีทั้งจังหวะยิงของ Vinicius Junior จังหวะยิงชนคานของ Eduardo Camavinga แม้แต่ Luka Modric ก็ได้ยิงไกลแต่ก็ยังทำอะไร Liverpool ไม่ได้ล่ะครับ ที่น่าสนใจคือแบ๊คขวาของลิเวอร์พูลอย่าง Trent Alexander-Arnold ที่โดน Vinicius Junior เผาแบบไม่เหลือทรง ในเกมเจ้าตัวมีจังหวะที่อาจจะจิตหลุดไปจากเกมในบางช่วงเลยด้วยซ้ำในระหว่างนั้นลิเวอร์พูลก็มีจังหวะสวนบ้างครับ เช่นในจังหวะที่ Gakpo ได้ยิง ดูเหมือนจะเข้ามากๆแต่ Courtois ก็เซฟได้อีกตามเคยครับ ครึ่งหลัง หนังคนละม้วนในครึ่งหลังโดยรวมจะเป็นทางฝั่งราชันชุดขาวบุกเป็นส่วนใหญ่ ด้วยสภาพแดนกลางที่มีตัวหลักอย่าง Modric และ Valverde ทำให้ขุนพลในแดนกลางของชุดขาวแข็งแกร่งกว่าลิเวอร์พูลในภาพรวม ซ้ำไปกว่านั้นยังมีจังหวะที่ Valverde มีโอกาสหลุดไปดวลเดี่ยวกับ Alison แต่ก็ยังไม่สามารถขึ้นนำได้ และจังหวะที่สำคัญที่สุดในเกมนี้ในนาทีที่ 78 ที่ Benzema ได้ซัดจ่อๆ ส่งผลให้ราชันนำหงส์แดงไปก่อน 1-0 หงส์เกือบโดนเม็ด 2ในช่วงท้ายของเกมมีจังหวะบุกของมาดริด และบอลไปโดนขาและกระเด็นไปโดนมือของ Kostas Tsimikas แต่หลังจากที่ผู้ตัดสินเช็ค VAR ก็พบว่าไม่ได้จุดโทษล่ะครับ ถือได้ว่าโชคดีของหงส์แดง และยังพอมีโอกาสให้แฟนบอลได้ลุ้นหลังเกมคือเพื่อนกันหลังจากที่ราชันเอาชนะหงส์แดงไปได้ 1-0 หลังจบเกมสนามเย่าของมาดริดได้เปิดเพลง You'll Never Walk Alone เพื่อเป็นการให้เกียรติและการบอกลาทัพหงส์แดงที่ต้องตกรอบในรายการนี้ไป สื่อหลายสำนักต่างก็ยกย่องและชื่นชมมาดริดในการกระทำที่เป็นการให้เกียนติคู่แข่งกันยกใหญ่ล่ะครับสถิติที่น่าสนใจลิเวอร์พูลตกรอบ UCL 3 ฤดูกาลติดต่อกันและทุกฤดูกาลตกรอบจากการแพ้ให้กับมาดริดทั้งสิ้นสกอร์ 6-2 เป็นผลการแข่งขันที่ย่ำแย่ที่สุดใน UCL ของลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของคล็อปป์ การตกรอบ UCL ทั้ง 6 ครั้งมาความพ่ายแพ้ให้เกมทีมจากสเปนทั้งสิ้น (เซบีญ่า x1, แอตเลติโก มาดริด x1, เรอัลมาดริด x4)Benzema เป็นผู้เล่นทีทำประตูใส่ลิเวอร์พูลได้มากที่สุดใน UCLเกมนัดต่อไปของหงส์แดงหลังเบรคทีมชาติ ลิเวอร์พูลมีคิวไปเยือน แมนฯซิตี้ในวันที่ 1 เมษายนภาพปก ขอบคุณภาพจาก UEFA Champions League / Facebookภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณภาพประกอบจาก Liverpool FC / Facebookภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณภาพประกอบจาก Liverpool FC / Facebookภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณภาพประกอบจาก Real Madrid C.F. / Facebookภาพประกอบที่ 4 ขอบคุณภาพประกอบจาก UEFA Champions League / Facebookภาพประกอบที่ 5 ขอบคุณภาพประกอบจาก Real Madrid C.F. / Facebook ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !