อินทรีสยายปีก! เยอรมัน 10 คน ซัดทดเจ็บแซง สวีเดน 2-1 ลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้าย
ถือเป็นเกมที่กดดันอีกเกมสำหรับ เยอรมัน โดยประตูชัยมาในนาทีที่ 90+4 จากลูกฟรีคิกของ โทนี่ โครส สามารถแก้ตัวได้สำเร็จจากลูกที่เขาจ่ายบอลพลาดจนทำให้ทีมเสียประตูแรก จบเกมเยอรมัน 10 คน พลิกแซงเอาชนะ สวีเดนไป 2-1 ชมคลิปไฮไลท์ ลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้าย
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 นัดที่สองของกลุ่ม F คู่ระหว่าง เยอรมัน พบกับ สวีเดน โดยในนัดแรก เยอรมัน พลาดท่าพลิกล็อกแพ้ เม็กซิโก ไป 1-0 ยังไม่มีคะแนน ส่วนทางด้าน สวีเดน เอาชนะเกาหลีใต้ มา 1-0 เก็บ 3 คะแนน
โดยนัดนี้ โยอาคิม เลิฟ กุนซือของเยอรมันจัดตัวผู้เล่นมาในระบบ 4-2-3-1 โดยเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นไป 4 ตำแหน่งจากนัดที่แล้ว วันนี้มาร์โก รอยส์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหลังจากเกมที่แล้วได้ลงเป็นตัวสำรอง ส่วนทางด้าน ยานเน่ อันเดอร์สสัน กุนซือสวีเดนจัดตัวผู้เล่นมาในระบบ 4-4-2 เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นเพียงคนเดียว ส่งทางด้าน วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ปราการหลังจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามเป็นตัวจริง
เริ่มเกม สวีเดน เป็นฝ่ายเขี่ยบอลบุกจากขวาไปซ้ายมาในเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงเหลือง ถุงเท้าสีน้ำเงิน ส่วนเยอรมันมาในเสื้อขาว กางเกงดำ ถุงเท้าสีขาว
นาทีที่ 2 เยอรมันทำเกมรุกครั้งแรก แวร์เนอร์ แย่งบอลได้หลุดไปเสาสอง เปิดเข้ามาตรงกลาง ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ ยิงไปติดบล็อกแนวรับสวีเดน เยอรมันเริ่มขึงเกมรุกใส่สวีเดน
นาทีที่ 7 เกมรุกเยอรมันขึ้นมาทางฝั่งซ้าย มาร์โก รอยส์ ไหลให้ ดรักซ์เลอร์ หลุดมาถึงเส้นหลัง เปิดบอลไม่มีใครชาร์จได้ บอลไหลผ่านหน้าประตูสวีเดนออกไป
นาทีที่ 8 คิมมิช ไหลบอลให้ รอยส์ หลุดขึ้นมาทางขวา จะเปิดบอลไปให้กับทาง แวร์เนอร์ แต่โดน ลินเดเลิฟ วิ่งมาสกัดออกไป เยอรมันได้ลูกเตะมุม
ผ่านไปเพียง 10 นาที เยอรมันจ่ายบอลกันไปแล้วถึง 122 ครั้ง ส่วนทางด้านสวีเดน จ่ายบอลกันเพียงแค่ 6 ครั้งเท่านั้น
นาทีที่ 12 รูดิเกอร์ จ่ายบอลผิดพลาดทำเอา สวีเดน โต้กลับขึ้นมา มาร์คุส เบิร์ก หลุดเดี่ยว แต่เป็นทางด้าน นอยเออร์ ออกมาปิดมุมได้ดี ทำเอาศูนย์หน้าสวีเดนยิงประตูไม่ได้
นาทีที่ 18 มาร์โก รอยส์ พาบอลขึ้นมาบุกทางฝั่งซ้าย และเปิดเข้ากลางมา โดนแนวรับของสวีเดนโขกออกมา และเป็น รูดี้ เก็บบอลได้แถวสอง และยิงเรียดๆ ออกไป
นาทีที่ 24 รูดี้ มีอาการบาดเจ็บบริเวณดั้งจมูก เนื่องจากไปโดนส้นเท้าของทางด้าน โอลา ตอยโวเนน จากจังหวะปะทะกันกลางสนาม ทำให้นักเตะเยอรมันต้องออกไปปฐมพยาบาลนอกสนามก่อน
นาทีที่ 27 สวีเดน เริ่มเปิดเกมรุกใส่ทางเยอรมันในช่วงที่มีปัญหาตัวเล่นออกไปทำแผล และทำให้พวกเขาได้เตะมุมเป็นครั้งแรกของเกมนี้
นาทีที่ 30 เลือดของ เซบาสเตียน รูดี้ ไม่หยุดไหล โยอาคิม เลิฟ จึงต้องตัดสินใจ เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นโดยการส่งเอา อิคาย กุนโดกัน ลงมาเล่นแทน
นาทีที่ 32 โทนี่ โครส จ่ายบอลผิดพลาดในแดนกลาง ทำให้สวีเดนตัดบอลมาได้ และเป็น วิคเตอร์ เครสสัน ชิพบอลไปให้กับ โอลา ตอยโวเนน พักอกเอาบอลลงสวย และกระดกบอลข้ามหัว นอยเออร์ ส่งให้สวีเดน ออกนำแชมป์เก่าไปก่อน 1-0
นาทีที่ 39 กุนโดกัน มาจังหวะซับไกลแต่ทางด้าน โรบิน โอลเซ่น เซฟเอาไว้ได้ บอลไหลออกมา มุลเลอร์ วิ่งเข้ามาซ้ำแต่โดนทางด้าน มิคาเอล ลุสติก สกัดไว้ทันบอลไหลออกหลังไป เยอรมันได้แค่ลูกเตะมุม
นาทีที่ 44 เยอรมันขึงเกมรุกขึ้นมาอีกครั้ง คิมมิช จ่ายบอลกลับมาให้ทาง บัวเต็ง ขึ้นมาเติมเกมรุกสูง ยิงหักข้อมาเสาแรก โรบิน โอลเซ่น ยืนอยู่เสาสองได้แค่มอง แต่บอลก็หลุดออกหลังไป
นาทีที่ 45+2 สวีเดน ได้ลุ้นประตูจากลูกฟรีคิก เซบาสเตียน ลาร์สสัน ปั่นโค้งๆ เข้าไปในกรอบเขตโทษ มาร์คุส เบิร์ก พุ่งเข้าไปโขกบอลพุ่งไปที่เสาสอง แต่ มานูเอล นอยเออร์ พุ่งปัดช่วยเซฟทีมเอาไว้
หลังจากนั้นผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดหมดเวลาครึ่งแรก สวีเดน ขึ้นนำเยอรมันไปก่อน 1-0
เริ่มเกมในครึ่งหลัง โยอาคิม เลิฟ แก้เกมโดนเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น ถอดเอา ดรักซ์เลอร์ ออก และส่งทางด้าน มาริโอ โกเมซ ลงมาเล่นแทน
นาทีที่ 48 เยอรมันกลับคืนสู่เกม ประตูตีเสมอมาแล้วจาก แวร์เนอร์ พาบอลกระชากมาทางฝั่งซ้ายและเป็น มาร์โก รอยส์ วิ่งมาแทงเข่าบอลเข้าเสาสองช่วยให้อินทรีเหล็กตีเสมอได้ 1-1
นาทีที่ 50 เยอรมันได้ลุ้นจากลูกฟรีคิก โทนี่ โครส บรรจงเปิดเข้ามา โธมัส มุลเลอร์ พุ่งมาโขกเต็มๆ แต่บอลหลุดเสาออกไป
นาทีที่ 55 แวร์เนอร์ กระชากบอลมาถึงเส้นหลังอีกครั้ง เปิดบอลเข้ามา มุลเลอร์ กระโดดข้ามบอลปล่อยให้กับ เฮคเตอร์ ที่เติมขึ้นมายิงด้วยซ้ายแต่บอลไปเข้ามือ โอลเซ่น
นาทีที่ 60 เยอรมันได้โอกาสทองอีกครั้ง คิมมิช เปิดบอลใส่พานมาให้ในกรอบเขตโทษ มาร์โก รอยส์ วิ่งถลำไปข้างหน้าและใช้การไขว้เพื่อจะยิงประตู แต่ยิงไม่โดนทำให้บอลไหลผ่านหน้าประตูออกไป
นาทีที่ 65 คิมมิช เปิดจากด้านข้างเข้ามากดดันสวีเดนได้เป็นอย่างดี ทำให้ โอลเซ่น ต้องออกแรงเซฟอยู่หลายครั้ง
นาทีที่ 67 บัวเต็ง ดันขึ้นมาสูงและเปิดบอลเข้ามาให้ทาง โกเมซ วิ่งยิงจ่อๆ แต่บอลข้ามคาน และผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าอีกด้วย
นาทีที่ 74 จิมมี่ ดูร์มาซ กองกลางสวีเดนที่เพิ่งถูกส่งลงสนามมา กระชากบอลมาทางฝั่งขวาเปิดติด รูดิเกอร์ ทำให้ทีมได้ลูกเตะมุม
นาทีที่ 82 สถานการณ์ของเยอรมันยิ่งแย่เข้าไปกันใหญ่ บัวเต็ง เสียบใส่ มาร์คุส เบิร์ก โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม
นาทีที่ 83 สวีเดน เกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกโหม่งของ อันเดรียส แกรนควิสต์ แต่ถูก นอยเออร์ ปฏิเสธเอาไว้ได้ สวีเดนได้เพียงลูกเตะมุม
นาทีที่ 86 เลิฟ ตัดสินใจถอด เฮคเตอร์ ออกจากสนามและส่ง ยูเลี่ยน บรันด์ท ลงมาเล่นแทน
นาทีที่ 87 โทนี่ โครส เปิดด้วยซ้ายมาให้กับ โกเมซ โขกเต็มๆ ศรีษะแต่ โอลเซ่น เจ๋งกว่าปัดออกไปได้
นาทีที่ 90+4 เยอรมันได้ลุ้นจากลูกฟรีคิก โทนี่ โครส เขี่ยเปลี่ยนจุดกับ รอยส์ และปั่นไปเสาสองสุดสวยช่วยทีมขึ้นนำ 2-1 และเป็นสามแต้มแรกของเยอรมัน
รายชื่อ 11 ผู้เล่น มีดังนี้
ทีมชาติเยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์ (GK), โยนาส เฮ็คเตอร์, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, โทนี่ โครส, ติโม แวร์เนอร์, มาร์โก รอยส์, โธมัส มุลเลอร์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เยโรม บัวเต็ง, โยชัว คิมมิช, เซบาสเตียน รูดี้
ทีมชาติสวีเดน : โรบิน โอลเซ่น (GK), มิคาเอล ลุสติก, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, อันเดรียส แกรนควิสต์, ลุดวิค ออกุสดินส์สัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อัลบิน เอคดัล, มาร์คุส เบิร์ก, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, วิคเตอร์ เครสสัน, โอลา ตอยโวเนน
โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018
ดูฟุตบอลโลก 2018 ย้อนหลัง เต็มแมตช์ สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าทรู
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports