และแล้วก็มาถึงคราวของการฟาดแข้งระดับโลก สำหรับสองโคตรทีมมหาลูกหนังแห่งเกาะอังกฤษ แมนซิตี้เปิดบ้านรับการมาเยือนของแมนยู ดาร์บี้แมทซ์หนนี้ดูจากหน้าสื่อต่างๆเห็นทีฝั่งผีจะเป็นรองเรืออยู่หลายขุม ซึ่งถ้าใครที่ดูแต่สถิติไม่ได้ติดตามฟุตบอลจริงจังก็คงจะเห็นแย้ง เพราะแมนยูก็ยังเก็บชัยชนะมาได้ต่อเนื่อง ลองนึกย้อนแบบคร่าวๆดูรู้สึกว่าตั้งแต่เข้าปี 2024 มาพวกเขายังไม่แพ้ใครเลยแม้แต่ทีมเดียว คล้ายกันกับเรือใบพันล้านอย่างแมนซิตี้ ที่ก็คว้าชัยเฉือนคู่แข่งคั่วกับทีมหัวตารางอย่างลิเวอร์พูลมาแบบหายใจรดต้นคอ แต่ทว่าหากคุณผู้อ่านได้นั่งดูแมทซ์การเล่นของแมนยูแบบจริงๆจังๆแล้ว คุณจะพบว่าที่พวกเขาชนะแต่ละเกมมาได้นั้น ล้วนแต่เต็มไปด้วยความกระท่อนกระแท่น! จะแพ้ไม่แพ้แหล่แม็ทซ์ไหนเหมือนจะเสมอดันพลิกกลับมาชนะได้ซะอย่างงั้น รูปแบบการเล่นก็ยังคงผีเข้าผีออกเอาแน่เอานอนไม่ได้ และแม้แต่ผมเองก็ทำนายผลสกอร์บิ๊กแม็ทซ์เมืองแมนไว้แล้วว่า แมนยูไม่น่าจะรอดกลับออกไป ยันเสมอยังพอได้ แต่ถึงกับชนะฉกสามแต้มจากซิตี้ที่ฟูลทีม ผมไม่เห็นโอกาสในมุมนั้นเลย เรามาดูกันดีกว่าครับว่าสิ่งที่ผมทำนายเอาไว้จะใกล้เคียงไหม มาครับมาคุยหลังเกมกัน! 1. แรชฟอร์ดยิงอย่างไว! นั่นไงจั่วหัวมาก็ทำนายผิดซะแล้ว!รู้สึกว่าน่าจะเป็นเพียงนาทีที่ 7 ของเกมเท่านั้น มิหนำซ้ำคนที่เริ่มทุกสิ่งอย่างดันเป็น อังเดร โอนาน่า นายประตูผู้ถูกก่นด่ามาอย่างโชกโชน สกิลการใช้เท้าของเขาเรียกได้ว่ายัดปากนักวิจารณ์ไปเต็มๆ หลังเจ้าตัวหวดบอลยาวจากหน้าปากประตูตัวเองไปให้กับ บรูโน่ เฟอร์นานเดซ ดึงบอลลงก่อนจะไหลคืนมาให้กับ มาคัส แรฟฟอร์ด วิ่งเข้าไปตะบันยิงจากนอกกรอบเขตโทษ! บอลพุ่งเป็นลำข้าวหลาม ตรงแด่วเหม็นไหม้เช็ดคานกระเด้งพื้นเข้าประตูไปอย่างงามหยด! ยิงอีกหกทีก็ยากที่จะทำได้แบบนี้ แต่ใครจะสน! ในเมื่อขึ้นนำด้วยลูกสวรรค์ส่งมีหรือแมนยูจะไม่รับไว้! และนั่นก็ทำให้แท็คติกรับแล้วโต้ของพวกเขาทรงพลังดั่งเฟอร์เรอรี่ที่เคยคิดเบรค นัดนี้ยิงเร็วถือว่าเข้าทาง หนำซ้ำยังไม่โดนตีเสมอเร็ว ถึงตรงนี้การคิดแค่ผลเสมอก็อาจจะน้อยเกินไปแล้ว สำหรับเหล่ากองเชียร์ผีแดงเฉพาะกิจ 2. ฮาลันท์พลาดโล่งๆ 2 หลา (ไม่เข้าได้ไง?)นั่นน่ะสิครับคุณผู้อ่าน วิถีบอลเปิดโค้งมาจากด้านข้างไม่มีใครขึ้นเบียดพี่แกสักคน แม้แต่โอนาน่าก็ไม่อยู่ในวิสัยที่จะทะยานมาทำอะไรได้แล้ว เหลือแค่ตั้งเท้าแล้วสัมผัสบอลให้มันข้ามเส้นประตู ศูนย์หน้าจอมมารบูกลับกระโดดแปบอลลูกนี้ทะลุชั้นบรรยากาศออกไปอย่างหน้าตาเฉย! งงกันทั้งสนามงงทะลุหน้าจอข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงคนดูเลยทีเดียว! และผมว่าอีกฟากหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล ดาวิน นูนเญซ เจ้าของสถิติแม่นเสาคานในหนึ่งเกมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ก็อาจจะดูเกมนี้ผ่านลิงค์เถื่อนอยู่ก็ได้ ยิ่งเห็นฮาลันท์ยิงแบบนี้ ไม่แน่นูนเญซอาจจะกำกำปั้นไว้ที่หน้าอก แล้วแหกปากร้องเพลง "เราและนาย" ของพี่เสก โลโซ ผ่านมาทางครือข่าย WiFi ก็เป็นได้ครับ ช็อตหมูหกแบบนี้ไม่มีใครเข้าใจดีเท่าดาวินเขาหรอก! 3. ปกติบอลรับแล้วโต้จะเข้าทางแมนยู แต่วันนี้ไม่!ถ้าใครดูแมนยูเล่นประจำจะรู้ครับว่า บอลของพวกเขาโดดเด่นเรื่องความเร็วของผู้เล่นแดนบนมาก แรชฟอร์ด กับ กันนาโช่ คือคีย์เวิร์ดสำคัญ บรูโน่จะเป็นคนคอยตักบอลยาวไปยังพื้นที่ว่างเพื่อให้สองคนนี้ใช้ความเร็วฉกบอลเข้าไปยิงประตู เกมที่แมนยูเล่นได้ดีและทำประตูได้ มักจะมาจากเพลย์การเล่นลักษณะนี้ ซึ่งแมทซ์นี้มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น! แมนซิตี้โดนยิงประตูขึ้นนำพวกเขาจำเป็นจะต้องเปิดพื้นที่ด้านหลังเพื่อทำเกมบุก แต่ทว่าแมนยูกลับใช้ท่าไม้ตายที่ตัวเองถนัดไม่ได้ ฮอยลุนด์ที่บาดเจ็บทำให้ทีมไม่มีตัวเป้าจนต้องดันเอาบรูโน่ขึ้นไปเล่นเป็น False 9 คำถามคือเมื่อเอ็งอยู่บนสุดแล้วใครจะเปิดบอล? หรือต่อให้มีจังหวะแทงบอลไปยังพื้นที่ว่างได้ คนที่ไล่ตาม แรชฟอร์ด ก็ดันเป็น ไคล์ วอร์คเกอร์ อีก ซึ่งแบ็คขวารายนี้แม้แต่ เวอร์นิซิอุส จูเนียร์ส ของมาดริด เขาก็วิ่งแซงได้สบายๆ! แท็คติกของแมนยูเลยมิอาจสำแดงพิษสง กลายเป็นพวกเขาที่ได้แต่อุดรักษาสกอร์ที่ขึ้นนำเอาไว้ แล้วก็โยนความได้เปรียบไปให้แมนซิตี้ เพราะรูปแบบการขึงพรืดและเคาะบอลไปมาเพื่อเข้าทำเนี่ย มันก็คือรูปแบบการเล่นที่พวกเขาถนัดเช่นกัน เป๊บคุมแมนซิตี้มาแล้วไม่รู้กี่ร้อยนัด ผมว่ามีไม่ต่ำกว่าร้อยนัดเช่นกันครับที่คู่แข่งมาจอดรถบัสลักษณะนี้ แล้วแมนซิตี้ก็เจาะทะลวงตาข่ายได้ทุกที สรุปคือแมนยูไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้ทีมของเป๊บในวันนี้เลย! 4. โฟลเด้นฟอร์มแบบเรืองแสง!ฟังจากบทสัมภาษณ์ก่อนเกมของแก แกบอกว่าตัวเองไม่ใช่นักเตะเวิร์ลคลาส แต่ผมว่าสำหรับแม็ทซ์นี้ไม่ให้เรียกแบบนั้นก็คงจะไม่ได้ ลูกยิงตีเสมอของโฟลเด้นมาจากความสามารถเฉพาะตัวล้วนๆ พลังเตะจากขาซ้ายอันหนักหน่วงส่งบอลพุ่งเป็นตอปิโดเสียบโคนประตูไปอย่างสวยงาม ผมว่างามพอๆกับลูกของแรชฟอร์ดเลย และนี่ล่ะครับคือข้อดีของการเป็นทีมใหญ่ พวกเขามักมีผู้เล่นคุณภาพมากมาย ที่เมื่อเจอเกมตันๆเจาะเข้าไปทำลำบาก ลูกยิงไกล , ลูกเลี้ยงตะลุยเอาฟาล์ว , ลูกทะยานตัวเข้าไปในกรอบเขตโทษ ฯลฯ ทุกอย่างผู้เล่นเวิร์ลคลาสจัดให้ได้หมด! ซึ่งพอโดนตีเสมอได้ในช่วงต้นครึ่งหลังปุ๊บ แมนยูไนเต็ดก็กลายสภาพเป็นผู้แพ้ไปอย่างสมบูรณ์ แรชฟอร์ดยิงเร็วเกินไปครับ! อย่างที่ผมเคยเขียนไว้แล้วในบทความก่อนๆ ว่าถ้าอยากจะเก็บชัยจากแมนซิตี้ทีมต้องยิงในช่วงท้ายเกม ยิงทดเจ็บนาทีสุดท้ายไปเลยยิ่งดี เพราะถ้าเหลือเวลาอยู่เพียงเล็กน้อย พลพรรคเรือใบสีฟ้าก็สามารถทะลวงประตูคุณได้ ผนวกกับร่างกายที่เล่นรับมาตลอดทั้งเกมจนเพลีย ลูก 2 , ลูก 3 ก็เลยไหลมาเทมาเรียบร้อยช้อยเก็บฉาก! สรุปสุดท้าย ก็ตามที่หัวข้อบทความบอกเลยครับ ว่าผีแดงนั้นพึ่งพาไม่ได้! กองแช่งก็ได้แต่ทำใจ! ล่าสุดขณะที่ผมพิมพ์บทความนี้อยู่เหลือบไปดูคู่อาเซน่อล รายนั้นก็ถลุงใส่เชฟฟิลด์ไปแล้วถึง 3 ประตู ทั้งที่เพิ่งจะเริ่มเกมไปได้แค่ 17 นาที จะเห็นว่าแต่ละทีมหัวตารางนี่ไม่มีใครลดลาวาศอกให้กันเลย แมนยูถ้าจะกลับคืนไปสู่จุดนั้นได้ สมดุลของพวกเขาต้องดีกว่านี้ ต้องไม่ให้เด็กอายุ 18 อย่างค็อบบี้ ไมนูแบกทีม ในขณะที่นักเตะที่แก่ชราแล้วก็ควรจะถูกปล่อยออกไป ผมว่ากว่าจะกลับมายิ่งใหญ่ได้เหมือนเดิม เอริค เทนฮาร์ค คงต้องใช้เงินสร้างทีมอีกเยอะเลยครับ เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก 1 จาก FB : Manchester Cityภาพหน้าปก 2 จาก FB : Manchester Cityรูปที่ 1 จาก FB : Manchester Cityรูปที่ 2 จาก FB : Manchester Cityรูปที่ 3 จาก FB : Manchester Cityรูปที่ 4 จาก FB : Manchester Cityรูปที่ 5 จาก FB : Manchester City เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !