ฟุตบอลถ้วย ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2025-2026 รอบลีกเฟส นัดแรกได้เริ่มเปิดฉากขึ้นเมื่อค่ำคืนวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา โดยในรอบนี้แต่ละทีมจะลงเตะทั้งหมด 8 เกมด้วยกัน ความสนุกอยู่ที่เราจะได้ดูเกมระดับซุปเปอร์บิ๊กแมตช์กันเกือบทุกสัปดาห์ ทีมระดับหัวแถวของลีกใหญ่ๆจะเจอกันง่ายกว่ารูปแบบเก่า โดยคู่ที่น่าสนใจมีทั้ง บาเยิร์น มิวนิค vs เชลซี, ลิเวอร์พูล vs แอตเลติโก มาดริด, นิวคาสเซิล vs บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ซิตี้ vs นาโปลี สรุปผลทั้งหมด 18 คู่ เจ้าบ้านเก็บชัยชนะได้ 9 คู่ ทีมเยือนชนะไป 5 คู่ และเสมอกันไปอีก 4 คู่ โดยมีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่ยิงประตูกันไม่ได้เลยคือ โอลิมเปียกอส 0-0 ปาฟอส เอฟซี นอกนั้นคู่อื่นๆต้องบอกว่ายิงประตูกันถล่มทลาย สมกับเป็นค่ำคืนของฟุตบอลยุโรปอย่างแท้จริง สถิติและจำนวนประตูในเกมนัดแเรกมีดังนี้ ยิงกันได้ทั้งหมด : 64 ประตู แบ่งเป็น ยิงเข้าไปในกรอบเขตโทษ : 39 ประตู ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ : 8 ประตู ได้จากลูกเตะมุม : 5 ประตู ลูกฟรีคิก : 2 ประตู ลูกจุดโทษ : 5 ประตู คู่แข่งสกัดเข้าประตูตัวเอง : 5 ประตู วันนี้เราจะพามาดู 5 อันดับลูกยิงประตูสุดสวยของ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ในสัปดาห์แรก มีคู่ไหนบ้างนั้นและใครจะเป็นคนยิงประตูมาดูกันเลย อันดับที่ 5 อเล็กซ์ กรีมัลโด้ : เลเวอร์คูเซ่น เกมนี้เตะกันที่สนาม Jacob Neestrup เอฟซี โคเปนเฮเก้น ทีมจากเดนมาร์กเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เลเวอร์คูเซ่น ทีมจากบุนเดสลีก้าเยอรมัน เกมนี้จบลงด้วยผลเสมอ 2-2 แบ่งแต้มกันไปอย่างสุดมัน โดยเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำก่อนถึงสองครั้งจาก จอร์แดน ลาร์สัน นาทีที่ 9 และ โรเบิร์ต ซิลวา ในนาที่ 86 แต่ทีมห้างขายยาก็ไม่ยอมแพ้ตามตีเสมอได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+1 จากการสกัดเข้าประตูตัวเองของ แพนเตลิส ฮัตซิเดียกอส กองหลังทีมเจ้าบ้าน ส่วนจังหวะประตูสุดสวยในเกมนี้คือลูกตีเสมอ 1-1 ในนาที 82 ของ อเล็กซ์ กรีมัลโด้ เมื่อทีมได้ฟรีฟริกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ลูกบอลตั้งเยื้องมาทางขวานิดหน่อย เข้ากับเหลี่ยมเท้าซ้ายแบบพอดิบพอดี และ อเล็กซ์ กรีมัลโด้ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังบรรจงปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งเช็ดคานใกล้ๆกับสามเหลี่ยม ชนิดที่ลูกนี้ผู้รักษาประตูพุ่งยังไงก็ไปไม่ถึง บอลเสีบตาข่ายอย่างสวยงาม เป็นประตูจุดความหวังให้ทีมเก็บแต้มกลับออกไปได้สำเร็จ คลิปจังหวะการยิงประตูจาก beIN SPORTS Thailand เอฟซี โคเปนเฮเก้น 2-2 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น | นาทีที่ 5:28 https://www.youtube.com/watch?v=UyoPKofBnyU อันดับที่ 4 มาร์คัส แรชฟอร์ด : บาร์เซโลนา เกมนี้เตะกันที่สนาม St. James' Park ของทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิล จากพรีเมียร์ลีก พบกับทีมเจ้าบุญทุ่มยักษ์ใหญ่จากลาลีก้าสเปน บาร์เซโลนา เกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือน 1-2 แม้ว่าเจ้าถิ่นจะพยายามสู้อย่างเต็มที่ นักเตะขยันวิ่งไล่บอลกันทุกจังหวะ แต่ต้องชื่นชมความสามารถในการรับส่งบอลที่แม่นยำของนักเตะบาร์เซโลนา ทำให้เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าชัดเจน ยิ่งเล่นไปเรื่อยๆเจ้าถิ่นที่หาบอลกันแทบไม่เจอก็เริ่มหมดแรง สุดท้ายเสียท่าโดนยิงสองประตูรวดจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ในนาที 58,67 ก่อนที่จะไล่คืนได้หนึ่งประตูจาก แอนโทนี่ กอร์ดอน แต่ก็ไม่ทันแล้ว ส่วนจังหวะประตูสุดสวยเริ่มจากบอลยาวมาหน้าเขตโทษของนิวคาสเซิล มาร์คัส แรชฟอร์ด โหม่งไปติดกองหลังแต่บอลยังกระดอนกลับมาเข้าเท้า จากนั้นล็อกหลบคู่แข่งหนึ่งครั้งแล้วพาบอลหนีไปทางขวาเปิดพื้นที่ให้ตัวเอง ก่อนสับเต็มข้อบอลพุ่งทแยงมุมเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม ลูกนี้ดูแล้วยิงไม่ง่ายเลยทุกอย่างต้องเป๊ะจริงๆ และเป็นประตูสำคัญช่วยทีมเก็บสามแต้มกลับบ้านได้ คลิปจังหวะการยิงประตูจาก beIN SPORTS Thailand นิวคาสเซิ่ล 1-2 บาร์เซโลน่า | นาทีที่ 3:15 https://www.youtube.com/watch?v=wI2sRsnqyFI อันดับที่ 3 เฌเรมี่ โดกู : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้เตะกันที่สนามของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต้อนรับ นาโปลี ทีมแชมป์กัลโช่เซเรียอา อิตาลี เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ไฮไลท์สำคัญในเกมนี้คือการกลับมาเยือนถิ่นเก่าเป็นครั้งแรกของ เควิน เดอ บรอยน์ ในฐานะของคู่แข่ง เกมนี้เริ่มต้นด้วยการเปิดหน้าสู้กันอย่างสนุก แต่จุดเปลี่ยนอยู่ที่ใบแดงของ โจวันนี ดี โลเรนโซ ในนาที 21 ทำให้ตกเป็นรองและเล่นด้วยความยากลำบาก แมนซิตี้ค่อยๆปูพรมบุกเข้าใส่เรื่อยๆไม่รีบร้อน มีโอกาสง้างเท้ายิงกันเกิน 20 ครั้ง สุดท้ายมาได้สองประตูในครึ่งหลังจาก เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ นาที 56 และ เฌเรมี่ โดกู นาที 65 จบเกมเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 ส่วนจังหวะยิงสุดสวยในเกมนี้เป็นของ เฌเรมี่ โดกู เริ่มจากนักเตะแมนซิตี้ค่อยๆถ่ายบอลกันไปมาหน้ากรอบเขตโทษ ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส เลือกจ่ายยัดเข้าในให้กับ เฌเรมี่ โดกู แม้ว่าเจ้าตัวจะกำลังหันหลังให้ประตู แต่เลือกพลิกบอลเร็วเข้าเขตโทษ หนีคู่แข่งได้ทีเดียวถึงสองคน จากนั้นเลี้ยงแหวกอีกสองคนหลุดเข้าไปยิงเรียดด้วยเท้าซ้าย บอลเข้าประตูไปแบบง่ายๆ ลูกที่เป็นการโชว์เทคนิคความคล่องตัว และความเร็วที่จัดจ้านสุดๆ ยกเครดิตให้แบบเต็มๆคนเดียวได้เลย คลิปจังหวะการยิงประตูจาก beIN SPORTS Thailand แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 นาโปลี | นาทีที่ 6:38 https://www.youtube.com/watch?v=r6qAM-Mgd90 อันดับที่ 2 กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ : อาร์เซนอล เกมนี้เตะกันที่ประเทศสเปน แอธเลติก บิลเบา เปิดสนาม San Mamés ต้อนรับทีมแกร่งจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ อาร์เซนอล เกมนี้เป็นทางฝั่งของทีมปืนใหญ่ที่เป็นฝ่ายครองบอลและมีโอกาสลุ้นยิงประตูจะแจ้งกว่า ในขณะที่นักเตะเจ้าบ้านเล่นตามเสียงเชียร์ในสนาม เกมรับช่วยกันลงมาป้องกันได้ดี มีโอกาสลุ้นสวนกลับแต่จังหวะสุดท้ายก็ไม่อันตราย ภาพรวมจึงเป็นฝั่งทีมเยือนที่คุมเกมได้เหนือกว่า จุดเปลี่ยนอยู่ในนาทีที่ 71 มิเกล อาร์เตต้า เปลี่ยนแนวรุกส่ง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ลงเล่นแทน เอเบเรชี่ เอเซ่ แล้วเห็นผลทันที ในจังหวะที่กำลังเล่นเกมรับ กองหลังโหม่งสกัดบอลขึ้นหน้าต่อกันเพียงสามครั้งและเป็น เลอันโดร ทรอสซาร์ด งัดบอลโด่งให้กับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ใช้ความเร็ววิ่งจากแดนตัวเองแซงกองหลังของคู่แข่ง เกี่ยวบอลหลบสวยๆลากเข้าเขตโทษยิงบอลเรียดผ่านผู้รักษาประตูเข้าไปให้ทีมขึ้นนำนาที 72 นับเป็บการสัมผัสบอลจังหวะแรกในเกมนี้ของเจ้าตัวเลย ก่อนที่จะได้ประตูตอกฝาโลงจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ด ในนาที 87 ซึ่งเป็นแอสซิสต์ของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ อีกด้วย คลิปจังหวะการยิงประตูจาก beIN SPORTS Thailand แอธเลติก บิลเบา 0-2 อาร์เซน่อล | นาทีที่ 4:35 https://www.youtube.com/watch?v=xyyHgfPzJ_Q อันดับที่ 1 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : ลิเวอร์พูล เกมที่สนาม Anfield ลิเวอร์พูล ทีมนำของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เปิดบ้านต้อนรับตราหมี แอตเลติโก มาดริด ทีมชั้นนำจากลาลีก้าสเปน คู่นี้ผิดคาดมากเพราะว่าเริ่มเกมมาไม่นานเจ้าบ้านก็ออกนำไปก่อนถึง 2-0 จาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในนาทีที่ 4 และ 6 เกมทำท่าว่าจะจบลงแล้ว นักเตะหงส์แดงคงเล่นสนุกอยู่ฝ่ายเดียว แต่ทีมเยือนยังไม่ยอมง่ายๆค่อยๆตั้งเกมของตัวเอง บวกกับเจ้าถิ่นที่เริ่มประมาทใช้โอกาสค่อนข้างเปลือง ทำให้ตราหมีเกือบฟื้นคืนชีพ มาได้ประตูช่วงทดเจ็บครึ่งแรกจาก มาร์กอส โยเรนเต้ และก็เป็นคนเดิมมายิงตีเสมอในช่วงท้ายเกมนาที 81 แต่ก็ยังดีไม่พอเจอความตายยากของเจ้าถิ่นบุกกดดันต่อเนื่อง และแล้วช่วงเวลา อาร์เน่อ ไทม์ ก็มาถึง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค โหม่งลูกเตะมุมในนาที 90+2 ช่วยให้ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะหน้าตาเฉย ส่วนประตูสุดสวยที่เราจะพูดถึงกันในเกมนี้เป็นจังหวะขึ้นนำ 2-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วลากตัดเข้าใน เลือกฝากบอลเข้ากลางให้ ไรอัน กราเวนเบิร์ช จิ้มจังหวะเดียวเข้าเขตโทษ โดยที่มีกองหลังตราหมีอยู่ใกล้บอลถึงสองคน แต่กลายเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งแซงหน้าตาเฉยทั้งๆที่มีคู่แข่งอยู่รอบตัว ก่อนโชว์ความเด็ดขาดยิงด้วยซ้ายเข้าไปไม่เหลือ ประตูนี้แสดงให้เห็นความเข้าใจเกม และพละกำลังที่เหลือกินเหลือใช้ แม้ว่าอายุจะเข้าวัย 33 ปีแล้วก็ตาม คลิปจังหวะการยิงประตูจาก beIN SPORTS Thailand ลิเวอร์พูล 3-2 แอตเลติโก มาดริด | นาทีที่ 1:04 https://www.youtube.com/watch?v=Vp87tAJbBlU สำหรับ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2025-2026 ลีกเฟส เกมที่สองจะกลับมาเตะกันอีกครั้งในวันที่ 30 กันยายน - 2 ตุลาคม โดยคู่บิ๊กแมตช์ที่น่าสนใจเป็นการเจอกันระหว่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง VS บาร์เซโลน่า มหาอำนาจลูกหนังจากสองประเทศ นอกจากนี้คู่อื่นๆก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ส่วนทีมไหนจะเก็บสามคะแนน ใครจะยิงประตูสวยๆ หลังจบเกมของทุกคู่เราจะมาสรุปและจัดอันดับลูกยิงมหัศจรรย์ให้ได้รับชมกันเหมือนเดิม แล้วพบกันครับ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนเล็กๆ จาก NPK Footballstyle เท่านั้นนะครับ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือเหมารวมว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ได้ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับ TrueID : NPK Footballstyle เครดิต ภาพ ภาพปก : UEFA Champions League ภาพปก : UEFA/UEFA/UEFA/UEFA/UEFA ภาพประกอบ 1 : Bayer 04 Leverkusen ภาพประกอบ 2 : FC Barcelona ภาพประกอบ 3 : UEFA Champions League ภาพประกอบ 4 : UEFA Champions League ภาพประกอบ 5 : UEFA Champions League คลิป beIN SPORTS Thailand : คลิป1 / คลิป2 / คลิป3 / คลิป4 / คลิป5 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !