จากศีกพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 22 ในคืนวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2023 เวลา 23.30 น. เป็นการแข่งขันระหว่างอันดับที่ 5 ของตาราง ไก่เดือยทอง ทอตนัมฮอตสเปอร์ เปิดรังเหย้า ทอตนัมฮอตสเปอร์ สเตเดียม เพื่อรับการมาเยือนของรองจ่าฝูงอย่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยจากสถิติเกมลีกที่ทั้งคู่เจอกันในบ้านของ สเปอร์ส 3 ครั้งหลัง เป็นฝ่ายของสเปอร์สที่ชนะทั้ง 3 นัดและ แมนซิตี้ ไม่สามารถยิงได้เลยสักประตูเดียว ถือว่าสถิติเจ้าบ้านข่มทีมเยือนอยู่พอสมควรเลยทีเดียวรายชื่อนักเตะ 11 ตัวจริง :ไก่เดือยทอง ของ อันโตนีโอ กอนเต มาในระบบ 3-4-2-1 ผู้รักษาประตูเป็น อูว์โก โยริส ในส่วนของเซ็นเตอร์เป็น กริสเตียน โรเมโร, เอริค ดายเออร์ และ เบน เดวิส แดนกลางใช้ เอเมอร์สัน, ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, โรดริโก้ เบนตันกูร์ และ อิวาน เปริซิช ส่วนแนวรุกมี เดยัน คูลูเซฟสกี้ กับ ซน ฮึง-มิน และ แฮรี่ เคน ยืนเป็นหน้าเป้าส่วนทีมเยือนอย่าง แมนซิตี้ มาในแผน 4-4-2 ผู้รักษาประตูใช้ เอเดอร์สัน แบ็คขวา ไคล์ วอล์กเกอร์ แบ็คซ้าย ริโก ลูวิส คู่เซ็นเตอร์เป็น นาธาน อาเก้ คู่กับ มานูเอล อาคานจี ในแดนกลางมี ริยาด มาห์เรซ, โรดริ, แบร์นาโด ซิลวา และ แจ็ค กรีลิช โดยรอบนี้เพลย์เมกเกอร์อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ นั่งเป็นสำรอง ในส่วนแนวหน้าเป็นระบบหน้าคู่โดยใช้ ฆูเลียน อัลบาเรซ กับ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ครึ่งเวลาแรก เริ่มมาได้เพียง 15 นาทีเท่านั้น สเปอร์ส ก็ได้ประตูขึ้นนำจากความผิดพลาดของผู้เล่น แมนซิตี้ จากจังหวะที่ โรดริ จะจ่ายบอลคืนให้เพื่อนแต่โดน ฮอยจ์เบิร์ก ที่วิ่งมาจากด้านหลังตัดบอลไปได้ ก่อนจะพาบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษแล้วส่งต่อให้ แฮรี่ เคน ได้ซัดด้วยขวาส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย!! สเปอร์ 1 - 0 แมนซิตี้ ต่อมาในนาทีที่ 40 เป็นทางฝั่งของแมนซิตี้ได้ลุ้นประตู จากจังหวะที่ มาห์เรซ แย่งบอล จาก แฮรี่ เคน มาได้ก่อนจะเลี้ยงพาบอลขึ้นไป ไหลต่อให้ ฆูเลียน อัลบาเรซ ก่อนที่เจ้าตัวจะตบบอลกลับมาให้ โรดริ ตรงแถวสองได้สองซัด แต่น้ำหนักบอลไม่แรงมากทำให้ อูว์โก โยริส เซฟไว้ได้ ถัดมาเพียง 1 นาทีเป็นจังหวะที่ ฮาแลนด์ ไหลบอลให้ กรีลิช ทางด้านซ้ายได้ลองซัด แต่บอลก็หลุดกรอบออกไป จากนั้นเป็นโอกาสทองของทาง แมนซิตี้ ในนาทีที่ 45+1 กรีริช จากฝั่งซ้านโยนบอลเข้ามาหน้าปากประตู เบน เดวิส โหม่งเอาไว้ได้แต่บอลมาเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ได้ลองซัดด้วยซ้ายเหน่งๆ แต่บอลชนคานเด้งออกไปแบบน่าเสียดาย จบครึ่งเวลาแรก เจ้าบ้านนำอยู่ 1 - 0 เริ่มมาในครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 56 เจ้าบ้านได้ลุ้นเม็ดสองจากลูกคอนเนอร์ เป็น อิวาน เปริซิช โยนบอลเข้ามาแล้ว เบน เดวิส วิ่งสอดขึ้นมาโหม่งได้แต่บอลล้นข้ามคานออกไป หลังจากนั้นนาทีที่ 64 แมนซิตี้ ได้ฟรีคิกบริเวณฝั่งซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ แล้วเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ที่โดนส่งลงมาแทน มาห์เรซ ใช้ลูกสูตรไหลบอลย้อนไปให้ ฆูเลียน อัลบาเรซ วิ่งเข้ามาซัดเต็มข้อไปแฉลบ เอริค ดายเออร์ แต่โชคดีของเจ้าบ้านที่บอลข้ามคานออกไป ซึ่งถ้าหากลูกนี้ตรงกรอบ ยังไงก็เป็นประตูแน่นอน เพราะ โยริส ขยับไปไม่ทันแล้ว จากนั้นเป็นจังหวะต่อเนื่องในนาทีที่ 65 สเปอร์สสวนกลับโดยใช้ความเร็วของ ซน ฮึง-มิน เลี้ยงพาบอลขึ้นมาตั้งแต่แดนตัวเอง ก่อนจะไหลให้ เปริซิช ทางด้านซ้ายได้ตบเข้ามาตรงจุดนัดพบ แต่ แฮรี่ เคน เข้าชาร์จไม่ถึงบอล ลูกหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดายต่อมานาทีที่ 70 เป็น ซน ฮึง-มิน คนเดิม พาบอลเลี้ยงผ่านผู้เล่น แมนซิตี้ มาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะไหลให้ แฮรี่ เคน ได้แตะบอลแหวกผ่านสองผู้เล่น แมนซิตี้ มาก่อนจะล้มตัวยิงด้วยขวา แต่ เอเดอร์สัน ออกมาเซฟเอาไว้ได้ จากรูปเกมในสนามดูเหมือนจะเป็นวันที่ดีของเจ้าบ้าน จนกระทั่งในนาทีที่ 87 มีใบแดงเกิดขึ้นในสนามจากจังหวะที่ กริสเตียน โรเมโร ไปทำฟาวล์ใส่ แจ็ค กรีริช โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป จากจำนวนผู้เล่นที่ได้เปรียบทำให้ช่วงท้าย แมนซิตี้ กระหน่ำบุกใส่เพื่อหวังเอาประตูตีไข่แตก แต่สุดท้ายก็เจาะไม่ได้ จบเกม!!! สเปอร์ส เปิดบ้านเชือด แมนซิตี้ ไปได้ 1 - 0จากเกมนี้ ปัญหาหลักๆ ของ แมนซิตี้ คือการจบสกอร์ในจังหวะสุดท้ายที่ไม่เด็ดขาด แถมตัวผลิตสกอร์ที่อันตรายที่สุดอย่าง เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ แทบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย โดยจากสถิติสัมผัสบอลแค่ 24 ครั้งและไม่มีโอกาสยิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งในส่วนของ ฮาแลนด์ พยายามวิ่งหาตำแหน่งเพื่อให้ตัวเองสามารถเล่นได้อยู่ตลอด แต่เป็นทางเพื่อนร่วมทีมที่ไม่สามารถปั้นเกมให้ ฮาแลนด์ ได้ ส่วนเจ้าบ้านอย่าง สเปอร์ส ที่เน้นรับแน่นๆ แล้วหาจังหวะสวนกลับ ซึ่งทำได้ดีมากๆ เกมสวนกลับมีความดุดัน อันตราย และได้ลุ้นอยู่ตลอด โดยส่วนนี้ต้องชม ซน ฮึง-มิน ที่จังหวะโต้กลับนั้นสามารถไปกับบอลได้ดี และอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เจ้าของตำแหน่งดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ สเปอร์ส คนล่าสุด แฮรี่ เคน ที่ 267 ประตู แถมยังมีโอกาสทำตัวเลขสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อีกด้วย เพราะยังมีเวลาอีกหลายเกมในฤดูกาลนี้.เครดิตรูปภาพ :ขอบคุณรูป ภาพปก 1, 2, 3 จาก Twitter : Tottenham Hotspur, Manchester Cityขอบคุณรูป ภาพที่ 1 จาก Twitter : Tottenham Hotspurขอบคุณรูป ภาพที่ 2 จาก Twitter : Manchester Cityขอบคุณรูป ภาพที่ 3 จาก Twitter : Tottenham Hotspurขอบคุณรูป ภาพที่ 4 จาก Twitter : Tottenham Hotspurขอบคุณรูป ภาพที่ 5 จาก Twitter : Manchester Cityขอบคุณรูป ภาพที่ 6 จาก Twitter : Tottenham HotspurCommunity ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์